ทั้งๆที่พิสูจน์ให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งแล้วว่า คนไทยทั้งประเทศมีความรักผูกพันเทิดทูนในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9และสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างลึกซึ้งซึ่งยากที่จะมีที่ไหนในโลก แต่ขบวนการอุบาทว์สุดชั่วร้ายายทั้งที่เป็นคนไทยเพียงหยิบมือและสื่อถ่อยของชาติตะวันตกบางสำนักกลับส่อพฤติการณ์ฉวยโอกาสอาศัยพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ช่วงเดือนต.ค.ที่เพิ่งผ่านมาเป็นประเด็นในการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงและสร้างความแตกแยกในชาติไทย
ขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเบื้อสูงภายในประเทศถูกเปิดเผยโดย พล.ต.พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)ออกมาแถลงเตือนผู้ใช้โซเชียลมีเดียให้หยุดแชร์ภาพข่าวที่บิดเบือนในช่วงพระราชพิธีพระราชทานถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 อาทิ นำภาพพระราชพิธีเก็บพระอัฐิในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังคปริณายกเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2558 มาแอบอ้าง หรือคลิปที่อ้างว่าเป็นพิธีลักพระศพซึ่งแท้ที่จริงคือ พระยานมาศสามลำคาน ทั้งนี้ พล.ต.พีรวัชฌ์ ขอความร่วมมือหากพบเห็นสื่อออนไลน์หมิ่นสถาบันเบื้องสูงหรือข่าวที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติขอให้ตรวจสอบข่าวหรือแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทางไลน์ไอดี@ISOC หรือ 007 สายข่าวความมั่นคง
นอกจากนี้ในช่วงพระราชพิธีสำคัญ หน่วยคัดกรองของฝ่ายตำรวจรอบพื้นที่สนามหลวงสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 42 รายที่พกอาวุธและคาดว่ามีเป้าหมายที่ต้องการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความระส่ำระสายในช่วงพระราชพิธีสำคัญ โดยผู้ต้องสงสัยทั้ง 42 รายล้วนถูกออกหมายจับในคดีอาญาและคดีด้านความมั่นคงโดยเฉพาะความผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง
ขณะเดียวกันก็มีความเคลื่อนไหวเชิงสัญญลักษณ์หวังก่อกวนช่วงพระราชพิธีสำคัญในต่างประเทศ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่วัดไทยแห่งหนึ่งในนครลอสแอลเจลิส สหรัฐอเมริกาก่อนหน้านี้กรณีที่หญิงไทยคนหนึ่งที่สวมเสื้อลายดอกและแต่งกายไม่เหมาะสมเข้าไปป่วนในงานถวายความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งหญิงไทยคนดังกล่าวเป็นที่ทราบกันดีในหมู่ชุมชนคนไทยในสหรัฐฯว่าอยู่ในแก๊งแดงที่มีแนวคิดล้มเจ้า โดยมีภาพหลักฐานหญิงคนดังกล่าวเคยถ่ายรูปร่วมกับขบวนการกลุ่มแดงล้มเจ้าในสหรัฐฯ ซึ่งมีแกนนำ อาทิ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจักรภพ เพ็ญ อดีตรัฐมนตรีและเป็นคนใกล้ชิดอดีตนายกฯนักโทษหนีคุก นายสุนัย จุลพงศธร อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งล้วนเป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับข้อหาหมิ่นเบื้องสูงและความผิดต่อความมั่นคง
นอกจากนี้ปูมหลังหญิงไทยคนดังกล่าวมีสามีเป็นนักเขียนชาวต่างชาติสังกัดสำนักข่าวชื่อดังของอังกฤษ โดยที่ผ่านมาสามีของหญิงไทยคนดังกล่าววิพากษ์วิจารณ์ในลักษณ์บ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงมาตลอด
ขณะเดียวกันสำนักข่าวชื่อดังของสหรัฐฯอย่างซีเอ็นเอ็นจู่ๆก็วิพากษ์วิจารณ์พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นที่รักเทิดทูนสูงสุดของปวงชนชาวไทยว่ามีการใช้งบประมาณมหาศาลแทนที่จะนำงบประมาณเหล่านี้ไปช่วยคนจน
ซึ่งถูกตอบโต้จากคนไทยผู้จงรักภักดีจำนวนมากที่โพสต์ข้อความไปยังเว็บไซต์สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า พระราชกรณียกิจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงตรากตรำทุ่มเทเพื่อประชาชนของพระองค์ตลอด 70 ปีของการครองราชย์นั้นยิ่งใหญ่มีค่าเหนือกว่างบประมาณที่ใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพอย่างเทียบกันไม่ได้ พร้อมกับคำถามย้อนกลับไปอย่างเจ็บแสบว่า “ คุณจะจ่ายเท่าไหร่เพื่อแสดงออกถึงความรักความเทิดทูนแด่พระองค์ซึ่งเป็นที่รักเป็นครั้งสุดท้าย เงินที่จ่ายไปมันเทียบไม่ได้เลยกับเงินที่กองทัพอเมริกาใช้ทำลายเวียดนาม อิรัก ซิเรีย และอีกหลายประเทศ ผมเข้าใจว่าคนอเมริกันคงไม่แคร์พ่อแม่ของคุณ แต่นี่ประเทศของเรา พวกเรารักพ่อแม่ของเราและยินดีจะทำสิ่งนี้เพื่อท่าน ขนมธรรมเนียมประเพณีมันสืบทอดกันมาตามกาลเวลา พวกเราคือประเทศที่มีวัฒนธรรมกว่า 800 ปี และนี่คือสิ่งที่พวกเราภาคภูมิใจ ซึ่งคุณคงไม่เข้าใจ”
ทั้งนี้สหรัฐฯนั้นเป็นชาติที่ถือกำเนิดมาราว 300 ปีเท่านั้นโดยเป็นพวกคนเร่ร่อนจากประเทศอังกฤษที่หนีการถูกกดขี่มาก่อร่างสร้างประเทศใหม่ จึงถือเป็นประเทศที่ไร้ราก
ไม่เคยรู้ซึ้งถึงความรักผูกพันอย่างลึกซึ้งดุจพ่อกับลูกมาแต่โบราณกาลระหว่างพสกนิกรและสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยซึ่งยากที่จะเห็นที่ไหนในโลก
ขณะเดียวกันก็มีการเปิดเผยข้อมูลว่า รัฐบาลสหรัฐฯเคยใช้งบประมาณในการจัดงานศพของ อดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน เมื่อปี 2547 เป็นมูลค่ากว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 13,300 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งการประกาศวันหยุดอันยาวนาน ค่าเสียโอกาสที่คนสหรัฐฯต้องสูญไปกับงานศพอดีตประธานาธิบดีอาจสูงถึงกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 33,000 ล้านบาท
ขณะที่ พ.อ.วันชนะ สวัสดี หรือ “ผู้พันเบิร์ด” เจ้าของบทบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในภาพยนตร์เรื่อง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัวตอบโต้พวกที่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องงบประมาณในพระราชพิธีครั้งสำคัญของคนไทยทั้งชาติว่า “ ผมกำลังพูดถึงอดีต ปัจจุบัน อนาคต หรือจะเป็นบรรพบุรุษ ตัวเราและลูกหลาน แต่ที่เห็นจะเหมาะที่สุดก็น่าจะเป็นผู้สร้าง ผู้รักษา ผู้สืบทอด อนาคตข้างหน้า นี่จะเป็นการจารึกร่องรอยทางประวัติศาสตร์เพื่อบอกลูกหลานของเราว่า เราคือประเทศที่มีวัฒนธรรมที่สวยงามอย่างไร ผมกำลังพูดถึงอนาคตของลูกหลานของเราครับ ส่วนอดีตที่บรรพบุรุษของเราสร้างเอาไว้นั้นก็ได้แสดงออกถึงความเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมที่วิจิตรบรรจงมาแต่เก่าก่อน การสร้างความเจริญนับแต่วันนี้ไปจนถึงอนาคตเราสร้างกันได้ แต่อดีตและวัฒนธรรมที่มีมาแต่ก่อนนั้น เราย้อนกลับไปสร้างไม่ได้อีกแล้ว
นี่ผมกำลังพูดถึงอดีตของประเทศของเรา และนี่คือวิถีของประเทศที่มีขนบประเพณีที่เราต้องการที่จะเก็บรักษาไว้ ส่วนการมองในปัจจุบันนั้น การใช้เงิน 1,000 ล้านบาทในครั้งนี้ผมมองว่ามันถูกสร้างขึ้นภายใน 1 ปี แต่นับจากนี้มันไม่ได้หายไปไหนเลย แต่มันกลับกลายเป็นว่า มันจะอยู่ไปชั่วลูกชั่วหลานต่างหากเพราะนี่คือการส่งมอบมรดกทางวัฒนธรรมของคนรุ่นเราไปสู่ลูกหลานของเรา มันคือความสุขของคนไทยในปัจจุบัน ความสุขมากที่ได้แสดงออกซึ่งความจงรักภักดี สุขมากที่ได้แสดงพลังของความสามัคคี สุขมากที่ได้เป็นผู้ให้
เราจึงไม่ว่าและไม่ตำหนิอะไรถึงคนที่วิจารณ์เรื่องงบประมาณในการสร้างเพราะนั่นมันก็อาจจะเป็นความสุขของผู้วิจารณ์ก็ได้ ที่ผมมองว่าเป็นความสุขของผู้วิจารณ์นั้นเพราะผมไม่เห็นว่าเขาจะทุกข์อะไร เพราะไม่ได้เอาเงินของเขามาสร้าง แต่สิ่งที่เราทำในวันนี้มันคือความสุขของเราเช่นเดียวกัน ปัจจุบันคนไทยมีความสุขมากๆที่ได้ทำ วิถีของไทย วิถีของเรา # คนใจบอด “
นอกจากสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องงบประมาณที่ใช้ในพระราชพิธีถวายเพลิงพระศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ในเชิงบ่อนทำลายแล้ว สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษเป็นสื่อตะวันตกอีกสำนักหนึ่งที่เคลื่อนไหวสอดรับกับคนไทยบางกลุ่มที่พยายามสร้างกระแสให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นเดียวกัน
ซึ่งขบวนการเหล่านี้ล้วนเป็นขบวนการกลุ่มเดิมๆซึ่งเป็นคนเพียงหยิบมือเดียวที่ยังไม่เลิกพฤติกรรมชั่วร้ายโดยพยายามเคลื่อนไหวบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันและคาดว่ายังจะเคลื่อนไหวต่อไปในอนาคต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี