มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ แพทยสภา สถาบันพระปกเกล้า กระทรวงสาธารณสุข และนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ รุ่นที่ ๖ (ปธพ.๖) และ ภาคีเครือข่าย ยกทีม แพทย์เฉพาะทางอาสา สหสาขาวิชาชีพและบุคลากรจิตอาสา จัดโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ครั้งที่ ๒ โดยร่วมกับ ๓ โรงพยาบาล ได้แก่ รพ.อานันทมหิดลรพ.พระนารายณ์มหาราช รพ.มะเร็งลพบุรี ผนึกกำลังให้บริการตรวจรักษา-ผ่าตัดโรคยากซับซ้อน ๒๐ คลินิกเฉพาะทางที่มีคิวรอยาวนาน โดยนำแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งภาครัฐ-เอกชน ลงพื้นที่ เป้าหมายช่วยคนไข้ ๑๐,๐๐๐ ราโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร สภานายกพิเศษ แพทยสภา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวาระสำคัญที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงครองสิริราชสมบัติสืบราชสันตติวงศ์ เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงคำนึงถึงสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรไทยเป็นอย่างมาก
แพทยสภา ซึ่งถือเป็นตัวแทนของแพทย์ไทยทุกสังกัด ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข, สถาบันพระปกเกล้า กรมแพทย์ทหารบก และนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูงรุ่นที่ ๖ (ปธพ.๖) จึงพร้อมใจกันจัด “โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ครั้งที่ ๒” โดยเป็นโครงการต่อเนื่องจากครั้งแรก ในปี ๒๕๖๐ ที่ได้จัดขึ้น ณ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และดูแลผู้ป่วยไป ๑๔,๕๑๐ ราย โครงการที่ ๒ นี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพระราชานุญาต ให้จัดขึ้นระหว่าง วันที่ ๔-๖ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ใน ๓ โรงพยาบาลคือ โรงพยาบาลอานันทมหิดล,โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช, โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี ทั้งนี้ศาสตราจารย์ เกียรติคุณ นายแพทย์ เกษม วัฒนชัย ประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ ให้เกียรติเป็นประธาน โครงการฯ กิจกรรมแพทย์อาสาครั้งนี้ถือเป็นงานจิตอาสาขนาดใหญ่ ที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของแพทย์จิตอาสา สหวิชาจิตชีพอาสา ร่วมกับบุคลากรจิตอาสาอื่นๆ เพื่อมอบโอกาสในการเข้าถึงการรักษาด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางให้กับชาวจังหวัดลพบุรี เมืองพระนารายณ์ ในวาระพิเศษ ๕๐ ปี แพทยสภา และ ๑๐๐ ปี การสาธารณสุขไทย นับเป็นตัวอย่างของการบูรณาการครั้งใหญ่ของวงการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อประชาชน ที่จัดโดยหลักสูตรการศึกษาของผู้บริหารระดับสูงของแพทย์ซึ่งทำต่อเนื่องมา ๖ ปีต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้าร่วมในโครงการนี้
ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษามูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ทางมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ มีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุน ธรรมาภิบาลของวงการแพทย์ไทย ส่งเสริมโครงการโรงพยาบาลคุณธรรม และ โครงการแพทย์อาสา ผ่านหลักสูตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ ของแพทยสภา โดยมีท่านศาสตราจารย์ เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย เป็นประธาน ในปีนี้มูลนิธิฯ ได้ขอพระราชานุญาตในการจัดงานแพทย์อาสา และ วางระบบการนำแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสู่ชุมชน เพื่อลดช่องว่าง ในการรักษาพยาบาลระดับสูง กับพื้นที่ที่ขาดแคลน ทีมงานแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล และบุคลากรจิตอาสา นำโดยนักศึกษา ปธพ.รุ่นที่ ๖ ซึ่งทางมูลนิธิฯ ได้ทำสำเร็จมา ๕ ปีต่อเนื่องแล้ว และมั่นใจว่าจะทำให้การแพทย์ของไทยสามารถบูรณาการเชื่อมโยงทั้ง ๕ กระทรวง และภาคเอกชนได้เป็นอย่างดี ผ่านโครงการจิตอาสานี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อประชาชนในชุมชนเป้าหมาย คือ จังหวัดลพบุรีโดยตรง โดยทางมูลนิธิจะสนับสนุนในการดำเนินการ และวางระบบการจัดการให้ผู้ป่วยพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจิตอาสา ตามสาขาที่ขาดแคลนในพื้นที่โดยตรง และมีการดูแลต่อเนื่องแบบยั่งยืน ซึ่งปีนี้นับเป็นปีที่ ๖ จังหวัดที่ ๖ ที่ได้ดำเนินการ และจะขยายต่อเนื่องไปทุกปีให้เข้าถึงประชาชนที่ต้องการจริงๆ ตามแนวทางเพื่อประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ของสมเด็จพระราชบิดาฯ สมดังที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระราชดำรัสสำคัญไว้ จนเกิดเป็นโครงการ ปธพ. ที่สำคัญต้องขอบคุณแพทยสภาและสถาบันพระปกเกล้า ที่ได้จัดให้มีการอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ สำหรับผู้บริหารระดับสูงอันเป็นต้นแบบการใช้ธรรมาภิบาลแก้ปัญหาวงการแพทย์ และการร่วมใจทำกิจกรรมอาสาเพื่อประชาชนหลายโครงการในปัจจุบัน
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ประสิทธิ์ วัฒนาภา นายกแพทยสภา กล่าวว่า หลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง (ปธพ.) ของแพทยสภา เป็นหลักสูตรที่มีต้นกำเนิดมาจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ที่พระราชทานเป็นแนวทางแก้ปัญหาวงการแพทย์ไทย ให้แก่คณะแพทย์ผู้รักษาโดย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้นำมาถ่ายทอดให้คณะกรรมการแพทยสภา คือ ขอให้แพทย์ไทยถือหลัก “อ่อนน้อมถ่อมตน ทุกคนมีดี อย่าดูถูกใคร” แพทยสภาจึงได้มีมติให้ดำเนินโครงการให้เป็นรูปธรรม โดยได้ร่วมมือกับสถาบันพระปกเกล้า นำ“ธรรมาภิบาล” มาเป็นหลักในการสร้างโครงการการศึกษาและกิจกรรมให้บรรลุตามแนวทางพระราชดำรัสดังกล่าว โดยนักศึกษาจะเรียนรู้ข้อเท็จจริง ปัญหา และร่วมกันทำงานวิจัยแก้ปัญหาระบบสาธารณสุขไทย ปีละ ๑๐ หัวข้อเรื่อง และนำเสนอในการประชุมวิชาการ ซึ่งได้นำมาแก้ไขปัญหาวงการแพทย์ไปแล้วจำนวนมาก และทุกปีจะจัดรวมใจแพทย์จิตอาสาทำโครงการแพทย์อาสาเฉพาะทางเฉลิมพระเกียรติต่อเนื่องมาโดยตลอด ทั้งนี้แพทยสภาประกอบไปด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ๘๑ สาขา ภายใต้ ๑๕ วิทยาลัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใน ๔ เสาหลัก คือ ๑.สาธารณสุข ๒.มหาวิทยาลัย ๓.ทหารตำรวจและภาครัฐอื่นๆ และ๔.ภาคเอกชน ซึ่งทุกปีจะมีแพทย์เฉพาะทางอาสาเข้าร่วมสนับสนุนโครงการจำนวนมาก เพื่อให้การรักษาในระดับตติยภูมิ หรือการรักษาโรคที่ซับซ้อน ที่ต้อใช้เครื่องมือและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดแคลนอย่างมากสำหรับประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัด จนต้องรอคอยคิวยาวนาน ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้าร่วมในโครงการนี้ นับเป็นตัวอย่างของการบูรณาการทางการแพทย์ที่ร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ในวาระ ๕๐ ปี แพทยสภา
(ติดตามรายละเอียดต่อในฉบับหน้า)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี