วันเสาร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ที่นี่แนวหน้า
ที่นี่แนวหน้า

ที่นี่แนวหน้า

วิภาวดี หลักสี่
วันเสาร์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
บำนาญพื้นฐานที่เหมาะสม กับข้อพิจารณาทางเศรษฐกิจ

ดูทั้งหมด

  •  

สัปดาห์นี้ “ที่นี่แนวหน้า” ขอนำมุมมองจากบทความ “อัตราบำนาญพื้นฐานที่เหมาะสมและข้อพิจารณาทางเศรษฐกิจของประเทศ” โดย ผศ.ดร.ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัยคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มานำเสนอกับท่านผู้อ่าน โดยบทความนี้ มาจากรายงานผลการพิจารณาศึกษาเรื่อง “การพัฒนาระบบบำนาญพื้นฐานประชาชน” โดยคณะกรรมาธิการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร (2567)

และโครงการวิจัย “การวิเคราะห์ช่องว่างทางการคลังแหล่งรายได้ และความเป็นไปได้ทางเศรษฐศาสตร์การเมืองของการจัดตั้งระบบบำนาญแห่งชาติ โดยคำนึงถึงผลกระทบของ COVID-19 ที่มีต่อผู้สูงอายุ” โดย ผศ.ดร.ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย, ผศ.ดร.ดวงมณี เลาวกุล และคณะ (2566) ได้รับทุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.)


ในบทความนี้ ผศ.ดร.ทีปกร เริ่มต้นว่า บำนาญพื้นฐานหรือเบี้ยยังชีพเป็นเครื่องมือความคุ้มครองทางสังคม มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่ผู้สูงอายุจะโชคร้ายกลายเป็นคนยากจนในวัยชราที่เปราะบางและสิ้นไร้กำลัง โดยระดับความคุ้มครองขั้นต่ำที่จะคุ้มครองความยากจนให้กลุ่มครัวเรือนที่ยากจนสุด คือ 2,000 บาท/เดือน ตามข้อมูลสํารวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน ดังนั้น หากอัตราบำนาญพื้นฐานหรือเบี้ยยังชีพต่อเดือนต่ำกว่า 2,000 บาท หมายความว่า เป้าหมายของการคุ้มครองความยากจนผู้สูงอายุล้มเหลวโดยอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตาม ระดับอัตราบำนาญพื้นฐานถ้วนหน้า 3,000 บาท/เดือน ซึ่งกำหนดจากเส้นความยากจนและเรียกร้องกันมายาวนานหลายปีก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเป็นจริง ทั้งที่ อัตราเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันไดในปัจจุบัน เฉลี่ยได้รับคนละประมาณ 650 บาท/เดือนไม่เพียงพอต่อการยังชีพ มีระดับต่ำกว่าเส้นความยากจนอย่างมาก และ ไม่มีการปรับยาวนานมากกว่า 10 ปี ตั้งแต่ปี 2554 โดยหลักการแล้ว อัตราบำนาญพื้นฐานที่เหมาะสมควรจะต้องสอดคล้องกับเส้นความยากจน มีการปรับตามค่าครองชีพหรืออัตราเงินเฟ้อ

ผศ.ดร.ทีปกร กล่าวถึงเหตุผล 2 ข้อ ที่มักถูกนำมากล่าวอ้างเสมอคือ 1.ไม่มีงบประมาณ ซึ่งหลักการทางเศรษฐศาสตร์ที่ควรต้องคำนึงคือ “การจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคม จะต้องพิจารณาความมีประสิทธิภาพ” ในที่นี้คือ การใช้งบประมาณสำหรับบำนาญพื้นฐานมีประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากผลทวีคูณทางการคลัง (fiscal multipliers) และความคุ้มครองความยากจน (poverty protection)

เปรียบเทียบกับการสะสมทุนปีละหมื่นล้านแสนล้านของแต่ละตระกูลเครือข่ายบนยอดพีระมิดและความไร้ประสิทธิภาพของการใช้งบประมาณที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและมีการฉ้อฉลคดโกงทุจริตงบประมาณ ขณะที่อีกหลักการสำคัญที่จะต้องพิจารณาได้แก่ “การกระจายอย่างเป็นธรรม” คือ การถ่ายโอนทรัพยากรให้สังคมโดยรวมมีระดับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยควรตระหนักถึงปัญหาโครงสร้างความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเราสามารถออกแบบระบบบำนาญพื้นฐาน เป็นเครื่องมือช่วยลดความเหลื่อมล้ำผ่านนโยบายการคลังแบบก้าวหน้า

ส่วนอีกเหตุผลที่ถูกกล่าวอ้างบ่อยๆ คือ 2.ไม่ได้จ่ายภาษี จึงไม่ควรได้รับ ก็ต้องยึดหลักพื้นฐานทางภาษีที่สำคัญประการหนึ่ง คือ “ความเป็นธรรมในแนวดิ่ง (vertical equity)” ซึ่งกลุ่มที่มีโอกาสและทรัพยากรมากกว่าควรจะเป็นผู้เสียภาษีมากกว่า อีกทั้งทุกคนในสังคมได้ร่วมจ่ายภาษีจากการบริโภค เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีการค้า ภาษีธุรกิจเฉพาะ อากรแสตมป์ ภาษีศุลกากร ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ภาษีเครื่องดื่ม ภาษีเครื่องใช้ไฟฟ้า ภาษีรถยนต์ ภาษีรถจักรยานยนต์ ภาษีแบตเตอรี่ ภาษีสุราและยาสูบ เป็นต้น

อีกทั้ง “ประโยชน์ของบำนาญพื้นฐาน คือสามารถช่วยป้องกันวิกฤตสังคมเรื่องความยากจนในผู้สูงอายุ” ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตมนุษย์ รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ส่งผลดีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านตัวทวีคูณทางการคลัง และ สามารถลดความเหลื่อมล้ำผ่านการออกแบบเครื่องมือทางการคลัง “งานวิจัยนานาชาติแสดงให้เห็นว่า การลดความเหลื่อมล้ำช่วยเกิดผลทางบวกต่อศักยภาพทางเศรษฐกิจ” ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เร็วกว่า และ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งรุนแรงทางการเมือง

สำหรับแหล่งรายได้สำหรับระบบบำนาญพื้นฐานแบบความคุ้มครองทางสังคม ได้มีข้อเสนอโดยนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำและองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ สามารถประมวลสรุปได้ ดังนี้ 1.ปฏิรูประบบภาษี ใช้เครื่องมือทางการคลังช่วยลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มความคุ้มครองความยากจนสำหรับผู้สูงอายุ ได้แก่ การจัดเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้ามากขึ้นสำหรับภาษีทรัพย์สินและภาษีที่ดิน การขยายฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่อยู่นอกระบบ ห้ามร้านค้าปฏิเสธการโอนเงินชำระค่าสินค้าและบริการ

ตลอดจนลดนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้กับคนรวย (Pro-rich) เช่น BOI ในปีงบประมาณ 2565 มีมูลค่าประมาณ 2.8 แสนล้านบาท โดยประมาณครึ่งหนึ่งที่ได้ประโยชน์ไม่ต้องเสียภาษี คือ กลุ่มทุนไทย 2.ปฏิรูประบบงบประมาณ มุ่งเป้าการใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์โดยตรงต่อประชาชน ซึ่งจำเป็นจะต้องตัดลดงบประมาณที่ไม่จำเป็น เช่น งบโฆษณา งบซื้ออาวุธงบก่อสร้าง เป็นต้น

ตลอดจนต่อต้านการคอร์รัปชั่น (Corruption) ของเครือข่ายธุรกิจการเมืองและภาครัฐ แล้วนำงบประมาณกลับคืนมาเพิ่มสวัสดิการและลงทุนให้ประชาชน เช่น บำนาญพื้นฐานสำหรับผู้สูงอายุ หรือ พัฒนาทักษะแรงงานทุกช่วงวัย และ 3.พัฒนาระบบการออม จะต้องบังคับหรือจูงใจให้ทุกคนในวัยทำงานต้องอยู่ในระบบ และมีระบบฐานข้อมูล เพื่อให้ผู้ที่สามารถออมเงินได้ ต้องร่วมรับผิดชอบสะสมเงินในวันทำงานเพื่อยามชราภาพ โดยรัฐบาลร่วมจ่ายสมทบการออม

เพราะประเทศไทยประสบกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรอย่างรวดเร็ว และ กำลังก้าวเข้าสู่ Super–Aged Society หรือ สังคมผู้สูงอายุขั้นสูงสุดดังนั้น การพัฒนาระบบบำนาญพื้นฐานสำหรับประชาชนตามหลักการ “เฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข” และ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”จะเป็นสามารถป้องกันไม่ให้ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและโอกาสการทำงาน กลายเป็นความยากจนในวัยชราแล้วส่งต่อความยากลำบากทางเศรษฐกิจไปยังรุ่นลูกหลาน!!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
08:39 น. 'อนุสรณ์'ซัดรัฐบาล 'วนในอ่าง-พลิกลิ้น-ไร้ทิศทาง' คะแนนนิยมรูดลงไม่หยุด
08:26 น. อุ้มโหด! หนุ่มไต้หวันแค้นรัก ทวงหนี้เงินแสน ฉุดอดีตแฟนสาว ชกหน้ายับคาชลบุรี
08:17 น. เตะวันนี้! บอลจตุรมิตร 'อัสสัมชัญ' จัดใหญ่ครั้งที่31
08:09 น. แซะเลอะเทอะ! วันโวยเทพศิรินทร์ โยงการเมือง-จตุรมิตร
07:28 น. มวลอากาศเย็นจีนแผ่ปกคลุม! เหนือหนาวจัด6องศา ใต้ฝนยังตกหนัก40%ของพื้นที่
ดูทั้งหมด
สาวชุดหวือโชว์รอยสัก 'ของลับโผล่' ชี้แจงแล้ว 'ไม่ได้ตั้งใจ-ที่แปะหลุด-ดื่มหนัก'
'กรณ์ ณรงค์เดช'หลั่งน้ำตา! กอดคุณพ่อเกษมดีใจชนะคดี
บุกจับ2วัยรุ่นสร้างตัว เปิดเหมืองบิทคอยน์ซุก'สวนมะพร้าวบ้านแพ้ว' โกงไฟหลวงมหาศาล
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงทำริบบิ้นสีดำถวายความอาลัย
เปิดคำสารภาพ‘เขมรเถื่อน’ กลับบ้านตามคำท่านผู้นำ อดอยาก-ไร้เงิน เสี่ยงแอบเข้าไทย
ดูทั้งหมด
ระวังการส่งออกเทียม
บุคคลแนวหน้า : 15 พฤศจิกายน 2568
ตำรวจกับโจร โจรกับตำรวจ
สงครามกับสันติ : ทรัมป์จะไปทางไหน?
ลิ้นสองแฉก
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อุ้มโหด! หนุ่มไต้หวันแค้นรัก ทวงหนี้เงินแสน ฉุดอดีตแฟนสาว ชกหน้ายับคาชลบุรี

เตะวันนี้! บอลจตุรมิตร 'อัสสัมชัญ' จัดใหญ่ครั้งที่31

พิษน้ำท่วม! 'ผักชี'ราคาพุ่ง 280 บาทต่อกิโล ผักต่างๆ พาเหรดขึ้นตาม

'ธัญญ่า อาร์สยาม'เปิดอาการเบื้องต้น คอขยับไม่ได้ ตรวจพบ'หมอนรองกระดูกฉีกขาด'

GC จับมือ กระทรวง อว. ต่อยอด โครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” สู่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ สร้างเครือข่าย คนรุ่นใหม่ ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำอาเซียน

EOD ตชด.22 ร่วมทหาร เร่งตรวจสอบ-ทำลายวัตถุระเบิดตกค้างกลางทุ่งนา พื้นที่หมู่บ้านชายแดน

  • Breaking News
  • \'อนุสรณ์\'ซัดรัฐบาล \'วนในอ่าง-พลิกลิ้น-ไร้ทิศทาง\' คะแนนนิยมรูดลงไม่หยุด 'อนุสรณ์'ซัดรัฐบาล 'วนในอ่าง-พลิกลิ้น-ไร้ทิศทาง' คะแนนนิยมรูดลงไม่หยุด
  • อุ้มโหด! หนุ่มไต้หวันแค้นรัก ทวงหนี้เงินแสน ฉุดอดีตแฟนสาว ชกหน้ายับคาชลบุรี อุ้มโหด! หนุ่มไต้หวันแค้นรัก ทวงหนี้เงินแสน ฉุดอดีตแฟนสาว ชกหน้ายับคาชลบุรี
  • เตะวันนี้! บอลจตุรมิตร \'อัสสัมชัญ\' จัดใหญ่ครั้งที่31 เตะวันนี้! บอลจตุรมิตร 'อัสสัมชัญ' จัดใหญ่ครั้งที่31
  • แซะเลอะเทอะ! วันโวยเทพศิรินทร์ โยงการเมือง-จตุรมิตร แซะเลอะเทอะ! วันโวยเทพศิรินทร์ โยงการเมือง-จตุรมิตร
  • มวลอากาศเย็นจีนแผ่ปกคลุม! เหนือหนาวจัด6องศา ใต้ฝนยังตกหนัก40%ของพื้นที่ มวลอากาศเย็นจีนแผ่ปกคลุม! เหนือหนาวจัด6องศา ใต้ฝนยังตกหนัก40%ของพื้นที่
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

พลิกเกมป้องกันภัยไซเบอร์ในยุค AI เสริมเกราะความไว้วางใจ สู่การป้องกันเชิงรุก

พลิกเกมป้องกันภัยไซเบอร์ในยุค AI เสริมเกราะความไว้วางใจ สู่การป้องกันเชิงรุก

15 พ.ย. 2568

‘Dashboard’ อัจฉริยะ ทางรอด ‘เกษตรไทย’…สู้ ‘วิกฤตภูมิอากาศ’

‘Dashboard’ อัจฉริยะ ทางรอด ‘เกษตรไทย’…สู้ ‘วิกฤตภูมิอากาศ’

8 พ.ย. 2568

เปิดประชุมชี้แจง ‘กองทุนบัตรทอง’69’ 6 แนวทางยกระดับ ‘30 บาทรักษาทุกที่’

เปิดประชุมชี้แจง ‘กองทุนบัตรทอง’69’ 6 แนวทางยกระดับ ‘30 บาทรักษาทุกที่’

1 พ.ย. 2568

‘Chiang Mai Marathon 2026’ ส่งเสริมสุขภาพ สร้างสัมพันธ์นิสิต – ศิษย์เก่า - ชุมชน

‘Chiang Mai Marathon 2026’ ส่งเสริมสุขภาพ สร้างสัมพันธ์นิสิต – ศิษย์เก่า - ชุมชน

25 ต.ค. 2568

เปิดประสบการณ์ ‘ฐานการเรียนรู้ทางการแพทย์’ แนะแนวศึกษาต่อสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ’69

เปิดประสบการณ์ ‘ฐานการเรียนรู้ทางการแพทย์’ แนะแนวศึกษาต่อสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ’69

18 ต.ค. 2568

เสียงจาก ‘ไรเดอร์’ วอนรัฐ ปรับปรุง ‘ระบบ-กฎหมาย’ ก่อนใช้จริง

เสียงจาก ‘ไรเดอร์’ วอนรัฐ ปรับปรุง ‘ระบบ-กฎหมาย’ ก่อนใช้จริง

11 ต.ค. 2568

‘fai-fah Art Fest 2025’ นิทรรศการศิลปะ จุดประกายเยาวชน สร้างสิ่งดีๆคืนสู่สังคมไทย

‘fai-fah Art Fest 2025’ นิทรรศการศิลปะ จุดประกายเยาวชน สร้างสิ่งดีๆคืนสู่สังคมไทย

4 ต.ค. 2568

ชวน ‘บัณฑิต’ จุฬาฯ ฉลอง แชร์ภาพถ่ายขึ้นจอยักษ์กลางสยาม!

ชวน ‘บัณฑิต’ จุฬาฯ ฉลอง แชร์ภาพถ่ายขึ้นจอยักษ์กลางสยาม!

27 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved