หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าทำไมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุกถึงออกมาเคลื่อนไหวบ่อนทำลายชาติบ้านเมืองถี่ขึ้นเรื่อยๆในช่วงนี้โดยล่าสุดทวิตข้อความเนื่องในโอกาสครบรอบ 11 ปีที่ตัวเองถูกรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ใจความว่า “ผมหวังว่าความทรงจำเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น 11 ปีก่อนจะไม่จางหายไปจากหัวใจของคนไทย ผมเป็นห่วงและจะยังเป็นห่วงชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวไทยตลอดไป”
ความจริง สัมภเวสีแม้ว ควรหันกลับไปทบทวนตัวเองถึงสาเหตุที่ถูกยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ก็ด้วยเหตุผลหลักคือ รัฐบาลระบอบแม้วเหลิงในอำนาจประพฤติเลวร้ายตามใจชอบโดยมีการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างมโหฬาร พยายามผูกขาดอำนาจยึดครองประเทศและแทรกแซงองค์กรอิสระ ตลอดจนสร้างความแตกแยกในชาติอย่างลึกซึ้งรุนแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อนโดยเฉพาะพฤติการณ์ส่อไปในทางบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงจนพลังประชาชนออกมาแสดงพลังขับไล่
ก่อนหน้านี้หลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด ผู้เป็นน้องสาวซึ่งเป็นจำเลยคนสำคัญคดีโครงการรับจำนำข้าวเผ่นหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาล สัมภเวสีแม้วผู้พี่ ซึ่งมีข่าวว่านำเครื่องบินเจ๊ตส่วนตัวไปรับน้องสาวที่สิงคโปร์แล้วบินต่อไปยังนครดูไบ สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์อันเป็นแหล่งพำนัก จู่ๆก็โผล่ออกมาเคลื่อนไหวหลังเงียบหายไปนานด้วยการบ่อนทำลายกระบวนการยุติธรรมด้วยการอ้างคำกล่าวของ “มงแต็สกีเยอ” นักคิดและปราชญ์ชาวฝรั่งเศสยุคเมื่อหลายร้อยปีก่อนที่ว่า “ไม่มีความเลวร้ายใดที่จะยิ่งไปกว่าความเลวร้ายที่ได้กระทำโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายหรือในนามของกระบวนการยุติธรรม” หวังจะบิดเบือนอาศัยแนวคิดของ “มงแต็สกีเยอ” เป็นเครื่องมือฟอกขาวให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพยายามสร้างกระแสว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองเพื่อใช้เป็นข้ออ้างให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลี้ภัยการเมืองในต่างแดน
ครั้งนี้ สัมภเวสีแม้ว ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงที่ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนกำลังจะเข้าปิ้งถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงินในคดีทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ซึ่ง สัมภเวสีแม้ว เป็นจำเลยคนที่ 1 โดยก่อนหน้านี้ศาลพิพากษาจำคุกอดีตรัฐมนตรีและอดีตผู้บริหารแบงก์กรุงไทยและผู้บริหารกลุ่มบริษัทกฤษดามหานครคนละหลายปีขณะนี้ไปใช้กรรมอยู่ในเรือนจำ
หากถอดรหัสทวิตเตอร์ของ สัมภเวสีแม้ว ครั้งล่าสุดส่อเจตนาต้องการปลุกระดมเหล่าสาวกเพื่อหลอกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อตัวเองและคนตระกูลชินอีกครั้งเหมือนที่เคยหลอกใช้ในอดีต
ที่ผ่านมาธาตุแท้ตัวตนสัมภเวสีแม้วสะท้อนออกมาให้เห็นอย่างหมดเปลือกจากการเปิดโปงของ นายเสนาะ เทียนทอง ผู้ทรงอิทธิพลหมายเลข 2 ของพรรคไทยรักไทยรองจาก สัมภเวสีแม้วในอดีต เมื่อครั้งแตกหักแยกทางกับสัมภเวสีแม้ว ก่อนกลับมาคืนดีอีกครั้ง โดย นายเสนาะ เคยเตือนสัมภเวสีว่าผลักดันโครงการหลอกลวงประชาชนมันจะดีหรือ คำตอบอย่างไม่สะทกสะท้านที่ได้รับจาก สัมภเวสีแม้ว ก็คือ “โธ่พี่เหนาะคนตาบอดมันกลัวเสือหรือ ถ้าเราไม่พูดแบบนี้เราจะได้เสียงเหรอ”
แค่คำพูด “คนตาบอดมันกลัวเสือหรือ” เท่ากับสะท้อนธาตุแท้ตัวตนของ สัมภเวสีแม้ว ที่ส่อพฤติการณ์พร้อมทำชั่วได้ทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเองโดยเปรียบประชาชนโง่ให้ถูกหลอกเองเหมือน “คนตาบอด” ส่วนตัวเองคือ “เสือ” อันชาญฉลาด
นอกจากนี้ในช่วงเหตุการณ์จลาจลและก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองระหว่างปี 2552-2553 สัมภเวสีแม้ว ประกาศปลุกระดมมวลชนเสื้อแดงว่า หากกระสุนจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ดังขึ้นแม้แต่นัดเดียว ตัวเองจะกลับมานำทัพมวลชนเสื้อแดงด้วยตัวเอง แต่แล้วหลังเหตุการณ์รุนแรงไม่เห็นแม้แต่เงาของ สัมภเวสีแม้ว ที่เก็บตัวเสพสุขอย่างสบายในต่างแดน
หรือในกรณีก่อนหน้านี้ที่มีการเจรจาลับระหว่าง สัมภเวสีแม้วกับตัวแทนฝ่ายอำนาจรัฐเพื่อยุติความขัดแย้งจนส่อเค้าว่าจะบรรลุข้อตกลงด้วยการนิรโทษกรรมโทษความผิดให้กับทุกฝ่ายรวมทั้ง สัมภเวสีแม้ว ทำให้ สัมภเวสีแม้ว เผยธาตุแท้ตัวตนอีกครั้งโดยส่อพฤติการณ์ถีบหัวเรือส่งลอยแพเหล่ามวลชนเสื้อแดงที่ตัวเองใช้เป็นเครื่องมือโดยกล่าวว่า “เหมือนผมว่ายน้ำจะข้ามฝั่ง พี่น้องแจวเรือพาผมข้ามฝั่งมาถึงฝั่งเรียบร้อยแล้ว ผมต้องเดินทางต่อขึ้นภูเขา พี่น้องจะแบกเรือมาขึ้นภูเขาทำไม ถึงเวลาที่ผมจะขอนั่งรถขึ้นเขา แต่ผมไม่เคยลืมคนที่ขับเรือมาส่งผม แล้วผมจะต้องหันกลับไปขอบคุณคนที่ขับเรือมาส่งผม เหตุการณ์มันเปลี่ยน พัฒนาการมันเปลี่ยน ก็หวังว่าพี่น้องคงจะเข้าใจว่าวันนี้เราได้ทำหน้าที่ของเรามาสุดทางแล้ว”
หรือในกรณีการผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่อ้างการสร้างความปรองดองบังหน้าแต่มีเป้าหมายแอบแฝงที่แท้จริงเพื่อลบล้างโทษความผิดให้กับ สัมภเวสีแม้ว เพื่อจะได้กลับบ้านแบบเท่ๆโดยไม่ต้องติดคุก ซึ่ง สัมภเวสีแม้ว โฆษณาชวนเชื่อต่อมวลชนเสื้อแดงและกล่อมให้ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองปี 2553 เสียสละเพื่อเห็นแก่ชาติบ้านเมืองยอมรับกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับทุกฝ่ายรวมทั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกฯ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์และอดีตรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ที่ถูกกล่าวหาว่าเข่นฆ่าประชาชน ทั้งๆ ที่เป้าหมายที่แท้จริงของสัมภเวสีแม้ว ทำเพื่อตัวเอง แต่ในที่สุด พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยล้มเหลวไม่เป็นท่าและทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องล้มครืนลงจากการออกมาขับไล่ของมวลมหาประชาชนหลายล้านคนที่แสดงพลังครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ต้องเข้ามายึดอำนาจเพื่อยุติสงครามกลางเมือง
ครั้งนี้ก็เช่นกันพอคนตระกูลชินกำลังจะถูกกรรมในอดีตตามเช็คบิลจากคดีต่างๆ สัมภเวสีแม้วก็ออกมาเคลื่อนไหวปลุกระดมสาวกหวังหลอกใช้เป็นเครื่องมืออีกครั้งโดยทั้งหลวงทั้งปวงล้วนเพื่อตัวเองหาใช่เพื่ออุดมการณ์อะไรอย่างที่อ้างแม้แต่นิดเดียว
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี