คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 และรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.บริหารประเทศมานานกว่า 3 ปีเพื่อปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ให้มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงซึ่งผลงานของอำนจรัฐพิเศษโดยคสช.มีทั้งที่ประสบความสำเร็จ และที่ล้มเหลวส่อเค้าว่าจะเสียของ
ผลงานที่ประสบความสำเร็จอันเป็นจุดแข็งของอำนาจรัฐคสช.ก็คือทำให้ประเทศรอดพ้นจากความเป็นรัฐล้มเหลวและการนองเลือดของคนในชาติ รวมทั้งทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อยไร้วิกฤติความรุนแรงซึ่งสร้างความชอกช้ำให้ประเทศมานานกว่า 10 ปี รวมทั้งการจัดระเบียบสังคมในด้านต่างๆ อาทิ ปัญหาแรงงานการค้ามนุษย์ การประมงผิดกฎหมาย กวาดล้างบรรดามาเฟียผู้มีอิทธิพล ตลอดจนขบวนการทำลายป่าและบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ
ส่วนทางการเมืองทำให้เกิดร่างรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปปราบโกงและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันและปราบปรามพรรคธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอม รวมทั้งความพยายามที่จะขจัดการทุจริตคอร์รัปชั่นโกงชาติปล้นแผ่นดินโดยการรื้อฟื้นคดีทุจริตสำคัญระดับชาติในอดีตหลายคดีที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศซึ่งถูกแช่แข็งไว้กลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งคดีทุจริตอื้อฉาวบางคดีนำไปสู่การพิพากษาของศาลจนมีการจำคุกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
แต่ขณะที่อำนาจรัฐคสช.กำหนดให้การขจัดทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องมีการปฏิรูป แต่กลับเกิดข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับพฤติการณ์ที่ส่อไปในทางทุจริตหรือผลประโยชน์ทับซ้อนทั้งทางตรงทางอ้อมของผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องกับคสช.และรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดอ่อนสำคัญที่จะต้องไม่ให้เกิดขึ้น
ขณะเดียวกันการปฏิรูปที่มหาชนเรียกร้องมานานแต่จนบัดนี้ก็ยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรมและส่อเค้าว่าอาจเสียของโดยเฉพาะการปฏิรูปตำรวจ และการปฏิรูปเศรษฐกิจลดความเหลื่อมล้ำและแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนในระดับฐานราก
การปฏิรูปตำรวจความจริงควรจะเห็นหน้าเห็นหลังไปนานแล้วด้วยอำนาจพิเศษของคสช. แต่เพิ่งจะมาเริ่มต้นนับหนึ่งด้วยการตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางปฏิรูปตำรวจที่มี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธานเมื่อไม่นานมานี้ และผลการศึกษาแนวทางปฏิรูปตำรวจมีแนวโน้มว่าอาจจะเสียของพายเรือในอ่างนั่นคือมีการปฏิรูปแต่เปลือก แต่สาระสำคัญที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างเพื่อกระจายอำนาจของตำรวจอย่างจริงจัง รวมทั้งการแยกงานสอบสวนออกจากงานปราบปรามเพื่อป้องกันปัญหาตำรวจจับเอง ทำสำนวนเอง ส่งฟ้องเองอันเป็นการเปิดช่องทางให้ตำรวจใช้อำนาจทุจริตหรือกลั่นแกล้งยัดข้อหาใครก็ได้โดยขาดระบบตรวจสอบถ่วงดุลซึ่งถือเป็นเรื่องอันตรายต่อประชาชนส่อเค้าว่าจะพายเรือในอ่าง
ส่วนเรื่องการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและแก้ปัญหาปากท้องของคนระดับฐานรากนั้น แม้เศรษฐกิจในภาพรวมเริ่มเห็นสัญญาณของการขยายตัวอย่างชัดเจน แต่ก็เป็นการขยายตัวแบบรวยกระจุก จนกระจาย โดยประชาชนระดับรากหญ้าโดยเฉพาะเกษตรกรยังต้องเผชิญกับราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำโดยเฉพาะข้าวและยางพารา ซึ่งรัฐบาลจะอ้างว่าเป็นไปตามกลไกราคาในตลาดโลกอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะปัญหาทุกอย่างมีหนทางแก้ไขด้วยมาตรการเฉพาะหน้าและในระยะยาว
และที่สังคมกำลังเฝ้าจับตาอยู่ในขณะนี้ก็คือโฉมหน้าของการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ประยุทธ์ 5 ที่จะออกมาจะสร้างความศรัทธาเชื่อมั่นต่อสาธารณชนมากน้อยแค่ไหน จะเป็นการปรับแบบเก้าอี้ดนตรีขายผ้าเอาหน้ารอดและยังเกรงใจต่างตอบแทนเพื่อนพ้องน้องพี่ที่ร่วมยึดอำนาจมาด้วยกัน หรือจะเป็นการปรับที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและประชาชน ซึ่งอีกไม่นานคงได้รู้กัน
แต่ว่าโฉมหน้าครม.ประยุทธ์ 5 จะออกมาแล้วประชาชนปรบมือชื่นชมหรือยี้ สิ่งสำคัญอยู่ที่ผลงานของครม.ประยุทธ์ 5 ซึ่งจะพิสูจน์และกำหนดอนาคตของคสช.และ บิ๊กตู่ ทั้งนี้เพราะศรัทธาและความเชื่อมั่นเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับผู้นำ หากผลงานเข้าตามหาชนโดยเฉพาะเรื่องปากท้องประชาชนระดับรากหญ้าแค่เรื่องเดียว บิ๊กตู่ จะอยู่อีกนานแค่ไหนมหาชนคงไม่ขัดข้อง ในทางตรงกันข้ามหากผลงานยังเรื่อยๆมาเรียงๆพายเรือในอ่าง มหาชนที่ในอดีตที่เคยปลาบปลื้มมอบช่อดอกไม้ให้อัศวินม้าขาวคสช.ที่เข้ามายุติวิกฤติรัฐล้มเหลวอาจจะหันมาขว้างปาก้อนหินขับไล่อำนาจรัฐพิเศษที่ยึดอำนาจทั้งทีแล้วเสียของ
ที่ผ่านมาจุดอ่อนอย่างหนึ่งของบิ๊กตู่คือแม้จะมีความคิดและความตั้งใจดีที่จะแก้ปัญหาของคนระดับรากหญ้า แต่บางครั้งไปไว้ใจรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมากเกินไปและขาดการคอยจ้ำจี้จ้ำชัยและติดตามประเมินผลงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตามนโยบายรัฐบาลจนกว่าจะรู้ตัวก็คือผลงานอืดอาดล้มเหลว เพราะฉะนั้นบิ๊กตู่หากจะไปต่อต้องแก้จุดอ่อนตัวเองและเร่งสะสมต้นทุนด้วยการปรับครม.ประยุทธ์5ให้เป็นที่ยอมรับและสร้างผลงานที่เข้าตามหาชนโดยเฉพาะแก้ปัญหาเศรษฐกิจระดับรากหญ้าให้หน้าเห็นหลังเป็นรูปธรรม
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี