ขณะที่อำนาจรัฐคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อยู่ในภาวะขาลง เพราะนอกจากผลงานใหญ่ๆ ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแล้ว ยังสะดุดขาตัวเองก่อวิกฤติศรัทธาต่อมหาชนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกรณีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ “บิ๊กป้อม” รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหมที่บานปลายกลายเป็นไฟลามทุ่งเป็นตัวถ่วงบ่อนทำลายอำนาจรัฐคสช.รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันทางด้านพรรคเพื่อแม้วซึ่งกำลังฮึกเหิมหวังเดินเกมทวงคืนอำนาจฟื้นระบอบแม้วกลับมายึดครองประเทศอีกครั้งกลับแบ่งก๊กเปิดศึกงัดข้อชิงอำนาจกันภายในอย่างหนักโดยมีนายใหญ่ตระกูลชินจะเป็นตัวแปรชี้ขาด
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าขณะที่สองอดีตนายกฯนักโทษหนีคุกพี่น้องตระกูลชินคือ นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เปิดตัวเดินสายการเมืองไปปรากฏตัวในหลายประเทศรอบบ้านไทยช่วงตรุษจีนทั้งจีน ญี่ปุ่น และฮ่องกง เพื่อสร้างภาพเย้ยอำนาจรัฐคสช. ขณะเดียวกันก็เป็นการปลุกขวัญบรรดาสาวกระบอบแม้วให้ฮึกเหิมรวมตัวกันให้แน่นไม่ตีจากเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับแผนกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง บรรดาแกนนำอดีต สส.ก๊วนต่างๆ ได้บินไปพบนายทักษิณ ทั้งที่จีนและฮ่องกงซึ่งที่สำคัญคือเสียงร่ำลือการบินไปฉลองตรุษจีนร่วมกับพี่ชายของสองสามีภรรยาสมาชิกตระกูลชินคือ นางเยาวภาวงศ์สวัสดิ์ (ชินวัตร) หรือ “เจ๊แดง” และสามีคือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ โดยการฉลองตรุษจีนร่วมกันของพี่น้องตระกูลชินครั้งนี้มีข่าวว่า“เจ๊แดง” ต้องการผลักดันสามีคือนายสมชาย ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อแม้วเพื่อชิงเก้าอี้นายกฯหลังการเลือกตั้ง
ดังนั้นเส้นทางสู่เก้าอี้ผู้นำพรรคเพื่อแม้วของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือ “หญิงหน่อย” ซึ่งเป็นหัวหน้าก๊วนอดีตสส.กทม.และก่อนหน้านี้พยายามแสดงบทบาทช่วงชิงการนำในพรรคเพื่อแม้วมาอย่างต่อเนื่องคงเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนาม เพราะนอกจากถูกสกัดจากพลังอิทธิพลสายของ “เจ๊แดง” แล้ว ยังถูกต่อต้านจากอดีตสส.อีสานจำนวนไม่น้อย หรือแม้แต่อดีต สส.ฝั่งธนบุรี กทม.ภายใต้การนำของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ไม่เผาผีกับ “หญิงหน่อย” มานานแล้ว
ที่ผ่านมาอดีตสส.กลุ่มกทม.ภายใต้การนำของ “หญิงหน่อย” มักแยกตัวประชุมก๊วนของตัวเอง แต่ช่วงหลัง “หญิงหน่อย” พยายามขจัดจุดอ่อนนี้เพื่อให้สร้างการยอมรับในหมู่อดีต สส.ทั่วทุกภาคของประเทศด้วยการเดินสายพบปะกับแกนนำอดีต สส.รวมทั้งบรรดาผู้อาวุโสของพรรค ซึ่งรวมทั้ง นายเสนาะเทียนทอง ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ “หญิงหน่อย” เคยปีนเกลียวกับ นายเสนาะ ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าสส.กลุ่มวังน้ำเย็นมาตลอด
ล่าสุดมีรายงานข่าวว่าแกนนำอดีตสส.อีสานพรรคเพื่อแม้วกลุ่มหนึ่งภายใต้การนำของ นายประยุทธ์ศิริพานิชย์ ประธานกลุ่มสส.อีสาน นายปรีชาเร่งสมบูรณ์สุข และ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ เตรียมบินไปพบ นายทักษิณ ที่ฮ่องกง โดยคาดว่านอกจากหารือถึงสถานการณ์และการเดิมเกมทางการเมืองแล้ว เชื่อว่าน่าจะมีการพูดถึงท่าทีของอดีตสส.ภาคอีสานต่อผู้ที่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำพรรคเพื่อแม้วคนใหม่
การกำหนดตัวหัวหน้าพรรคเพื่อแม้วคนใหม่ที่จะมีขึ้นจึงอาจจะสะท้อนเอกภาพของพรรคเพื่อแม้ว โดยเฉพาะหาก หญิงหน่อย ไม่ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นไปได้ที่กลุ่มอดีตสส.กทม. และภาคกลางบางจังหวัดภาคใต้การนำของ หญิงหน่อย อาจแยกทางกับพรรคเพื่อแม้ว
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าใครจะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อแม้วคนใหม่ ตัวแปรชี้ขาดที่จะกำหนดตัวผู้นำพรรคเพื่อแม้วอย่างแท้จริงก็คือนายทักษิณผู้เป็นนายใหญ่ โดยคุณสมบัติสำคัญของหัวหน้าพรรคเพื่อแม้วคนใหม่ก็คือต้องเป็นร่างทรงอยู่ภายใต้คำสั่งของนายใหญ่ ทั้งนี้เพราะพรรคเพื่อแม้วถูกตั้งข้อสังเกตว่าไม่ใช่สถาบันการเมืองแต่เป็นบริษัทธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยที่เป็นของตระกูลชิน โดยตระกูลชินและเพื่อตระกูลชิน โดยอำนาจการตัดสินใจทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าของบริษัท ขณะที่บรรดาอดีต สส.เป็นเพียงพนักงานบริษัทที่ทำตามคำสั่งแทนที่จะทำหน้าที่ของผู้แทนราษฎรที่แท้จริง สำหรับอนาคตของ “หญิงหน่อย” จะไปถึงดวงดาวหรือไม่จึงอยู่ที่อำนาจการตัดสินใจของนายใหญ่ว่าจะผลักดันสมาชิกตระกูลชินคนใดคนหนึ่งเป็นทายาททางการเมือง หรือจะไว้ใจสนับสนุนคนนอกตระกูลชินอย่าง “หญิงหน่อย” ซึ่งรู้ใจใกล้ชิดกันมานานขึ้นเป็นผู้นำหุ่นเชิด
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี