หน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด (Explosive Ordnance Disposal) หรือ EOD เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ป้องกันและเก็บกู้ระเบิดเพื่อความสงบสุขของคนในพื้นที่และประชาชนทุกคน เป็นการทำงานที่มีความเสี่ยงถึงชีวิตสูงและเป็นผู้เสียสละ
ด้วยเหตุผลที่ผู้ปฏิบัติงานหน่วย EOD เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ สภามหาวิทยาลัยรามคำแหงจึงมีมติเอกฉันท์อนุมัติปริญญานิติศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ เพื่อเป็นเกียรติแก่ 3 นายตำรวจ EOD จาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ร้อยตำรวจเอกพงษ์ศักดิ์ เพชรกำโต ดาบตำรวจเอกชัย สมอคำ และ ดาบตำรวจกฤตธนา เอกกิตติขจร
ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เอ่ยว่าการมอบปริญญานิติศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ให้กับตำรวจหน่วย EOD ทั้ง 3 นาย เป็นเพราะเล็งเห็นถึงความเสียสละ ความรับผิดชอบ และการอุทิศตนที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อันก่อให้เกิดเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ทั้งที่ผ่านมาและสืบไป
จากการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย ร้อยตำรวจเอกพงษ์ศักดิ์ เพชรกำโต รองสว.ตรวจพิสูจน์และเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.สส.จชต. ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด จังหวัดปัตตานี เล่าถึงประสบการณ์ทำงาน ว่าครั้งหนึ่งเคยไปยืนบนระเบิดขนาดใหญ่ ระเบิดที่พร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อและมีอานุภาพร้ายแรง แต่โชคดีที่ไม่เกิดการ
ระเบิดจนมีผู้บาดเจ็บ ซึ่งหน่วย EOD ได้ทำการเก็บกู้ระเบิดได้ทัน พร้อมทั้งยังให้กำลังใจผู้ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละและเต็มใจ เป็นความสุขที่หาได้รอบตัวเรา
“ผมสมัครตำรวจหลังจากปลดประจำการทหารเกณฑ์ ผมคิดว่าการเสียสละเป็นความสุขในการทำงาน แม้ไม่ได้ทำในพื้นที่ใกล้บ้านแต่ที่นี่ก็เป็นเหมือนบ้านของผมไปแล้ว ด้วยอายุทำงาน 20 ปี ทำให้มีความผูกพันและประสบการณ์ที่มากพอจะช่วยเหลือผู้คนต่อไปได้ ผมคิดว่ายังมีอีกหลายคนกำลังปฏิบัติงานด้วยความเสียสละและตั้งใจ ขอให้กำลังใจและยึดมันความดีความเสียสละเป็นที่ตั้ง จะทำให้ชีวิตเรามีความสุขในทุกๆ วัน”
ดาบตำรวจเอกชัย สมอคำ ผู้บังคับหมู่กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ สถานีตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ปฏิบัติหน้าที่เก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2548 จนถึง
ปัจจุบัน เล่าถึงประสบการณ์ทำงานว่า เคยได้รับอุบัติเหตุจากการเก็บกู้ระเบิด ต้องใช้เวลารักษากว่า 6 เดือน และปัจจุบันยังคงใส่เหล็กดามที่แขนอยู่ ทว่าความเจ็บปวดครั้งนี้ไม่ได้สร้างความหวาดกลัว แต่เป็นความภาคภูมิใจที่ได้เสียสละเพื่อประชาชนอีกหลายคน และยังคงปฏิบัติหน้าที่ของตนเองเช่นเดิมในทุกๆ วัน
“ผมตัดสินใจสมัครตำรวจเพราะอยากทำให้ทุกชีวิตปลอดภัยด้วยความรู้ความสามารถที่มี ทั้งยังได้รับใช้บ้านเกิดที่ยะลาในช่วงที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงอย่างเต็มที่..จากสิบตำรวจจนถึง
ตำแหน่งดาบตำรวจในปัจจุบัน การได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า ม.รามคำแหงเห็นความสำคัญของผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างตั้งใจ ขอบคุณและดีใจมากๆ ที่ได้รับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจทั้งของผมและครอบครัว”
ดาบตำรวจกฤตธนา เอกกิตติขจร ผู้บังคับหมู่กองกำกับการปฏิบัติการตำรวจชายแดนใต้ส่วนหน้า ปฏิบัติหน้าที่เก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด จังหวัดนราธิวาส เล่าถึงประสบการณ์ทำงานว่า ครั้งหนึ่งได้เข้าเก็บกู้ระเบิดน้ำหนักรวม 120 กิโลกรัมในรถโดยสารที่ถูกขโมยมา เป็นการกู้ระเบิดในเขตชุมชนที่มีความเสี่ยงและอันตรายแก่คนบริเวณนั้นเป็นอย่างมาก ด้วยประสบการณ์ที่สะสมมาสามารถกู้ระเบิดได้สำเร็จ และตั้งใจจะอยู่ช่วยเหลือคนในพื้นที่ต่อไป แม้จะไม่ใช่บ้านเกิดก็ตาม
“หน่วย EOD จังหวัดนราธิวาส รวมถึงจังหวัดอื่นชายแดนภาคใต้ ไม่มีวันทิ้งประชาชนแน่นอน ผมไม่ได้ทำดีเพื่อใคร แต่จะใช้ใจทำดีทุกวัน ฝากถึงทุกคนให้ที่ทำความดีโดยไม่เดือดร้อนคนอื่น และมีความสุขในการทำสิ่งนั้น การลงมือทำโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนจะทำให้เราสบายใจ วันนี้ผมภูมิใจมากที่ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ เหมือนได้รับกำลังใจจากสังคม เพราะการทำงานของผมมีความเสี่ยง ไม่มีใครคาดเดาเหตุการณ์ในอนาคตได้ มีเพียงสติ ความรู้ ประสบการณ์ และความตั้งใจในการทำงานเท่านั้น”
มหาวิทยาลัยรามคำแหง เชิดชูการทำความดีของทุกคน และพร้อมยกย่องการเสียสละและอุทิศตนเพื่อความสงบสุขของประชาชนในพื้นที่ของนายตำรวจ EOD ทั้ง 3 นาย ให้เป็นตัวอย่างและแรงบันดาลใจของเยาวชนคนรุ่นใหม่ในการทำความดีเพื่อสังคมต่อไป
ผมขอแสดงความยินดีด้วยครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี