nn อีกไม่นานเกินรอเราจะได้เห็น.....โรงงานผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็นและรีดร้อนเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อนชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน (GI)...ในประเทศทยอยปิดตัวไปจนไม่เหลือและต้องพึ่งพาแต่สินค่านำเข้าเท่านั้น....
เหล็ก GI ….เป็นวัตถุดิบสำหรับกลุ่มผู้ผลิตท่อเหล็ก เฟอร์นิเจอร์ กลุ่มก่อสร้าง และกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ...ผู้ผลิตเหล็ก GI ในประเทศ 8-10 ราย มีกำลังการผลิตประมาณ 1 ล้านตันต่อปี ซึ่งเพียงต่อความต้องการใช้ในประเทศ...แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ ผู้ประกอบการในประเทศกำลังประสบปัญหาการแข่งขันที่รุนแรงจากสินค้านำเข้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนผิดปกติ จากเดิมที่มีการนำเข้าเพียงแค่ปีละหมื่นกว่าตันเพิ่มเป็นปีละล้านตัน....ตัวเลขล่าสุดจากสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย... พบว่าปริมาณการนำเข้า GI ปี 2561 ทั้งปีมีปริมาณนำเข้ารวมทั้งสิ้น 1,398,819 ตัน โดยมาจากประเทศหลักๆ คือ จีน จำนวน 761,885 ตัน, ญี่ปุ่น จำนวน 377,648 ตัน, เกาหลี จำนวน 143,104 ตัน และไต้หวัน จำนวน 116,111 ตัน....
กำลังผลิตในประเทศประมาณ 1 ล้านตัน ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศอยู่แล้ว...มาเจอสินค้านำเข้าอีก 1 ล้านตัน....และราคาเหล็กนำเข้าราคาถูกกว่าเหล็กในประเทศ 2,000-3,000 บาทต่อตัน....ผู้ผลิตในประเทศจะรอดได้ไง...!!
แน่นอนไม่รอดแน่ๆ...ตอนนี้ผู้ผลิตในประเทศเกือบจะทุกบริษัทประสบปัญหาขาดทุน บางรายปิดกิจการไปแล้ว บางรายลดต้นทุนด้วยการต้องปลดพนักงานออกเกือบพันคน เช่น บริษัท กรุงเทพผลิตเหล็ก จำกัด (มหาชน)....
ทาง 7 สมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศเคยร้องขอไปยังรัฐบาลให้ช่วยเหลือ...ผ่านทาง กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ให้บังคับใช้กฎหมาย....ว่าพระราชบัญญัติมาตรการปกป้อง จากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้นพ.ศ.2550 (safe guard)....ล่าสุดประธาน บริษัท โพสโค โค้ทเต้ด สตีล (ประเทศไทย) นำทีมผู้บริหาร เข้าพบ รมช.พาณิชย์ รักษาการ รมว.พาณิชย์ และมีฐานะเป็นประธานคณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้อง….เพื่อบอกถึงสถานการณ์ล่าสุดว่าให้ฟังว่าผู้ประกอบการในประเทศจะอยู่กันไม่ไหวแล้ว...
โลกการค้า...ไม่แปลกใจที่โพสโคฯ...จะตัดสินใจแบบนั้น...เพราะท่าทีของทางการไทยในการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ...มันทำให้น่าผิดหวังมาก...ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ว่าสินค้านำเข้ามันเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกและกำลังจะทำลายอุตสาหกรรมในประเทศ....แทนที่จะบังคับใช้กฎหมาย...แต่กรมการค้าต่างประเทศโดยอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กลับบอกว่า...ยังไม่สามารถดำเนินการไต่สวน เพื่อพิจารณาออกมาตรการป้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นได้ แม้ว่าจะพบว่ามีการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้นจริง....ทั้งนี้ก็เพราะต้องเกิดความเสียหายที่ชัดเจนเสียก่อน..!!เวรกรรม...
ประเทศอื่นทั่วโลกที่มีอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ...เมื่อเห็นว่ามีการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น รัฐบาลเขาประกาศใช้มาตรการป้องกันการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น (safe guard) ป้องกันไว้ก่อนทันทีเลยด้วยซ้ำ แล้วค่อยทำการไต่สวนทีหลัง....ของไทยก่อนจะประกาศใช้ มาตรการ safe guard ต้องใช้เวลาการไต่สวนประมาณ 1 ปี...แล้วนี้ยังจะไม่เริ่มทำการไต่สวนเลยด้วยซ้ำ...อุตสาหกรรมในประเทศมันจะไปเหลืออะไร...ต้องรอให้มันเจ๊งกันทั้งระบบคาตาเลยหรือไงถึงค่อยเริ่มรู้สึกตัว....ว่าควรต้องทำอะไร...???
อย่างว่าแต่เงินลงทุนของโพสโคฯ 2-3 หมื่นล้าน เลย....ผู้ประกอบการรายอื่นทั้งไทย เกาหลี ญี่ปุ่น ที่ลงทุนกันไปกว่า 80,000 กว่าล้านบาท...ก็คงจะย้ายหนีกันหมดแน่นอน...ถ้ารัฐบาลไทยยังไม่ดูแลพวกเขาเลย....แล้วก็อย่าไปหวังว่าอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศจะพัฒนากันได้มากกว่านี้ ถ้ารัฐบาลยังมีวิธีคิดแบบนนี้...
ต้องบอกว่าวิธีคิดของรัฐบาลไทยมันสวนทิศผิดทางเมื่อเทียบกับประเทศอื่นทั้งโลก ไม่ต้องไปดูไกล...ประเทศใกล้ๆเรานี่เองทั้ง...อินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนาม เขาดูแลกันอย่างเต็มที่เลย ไม่ให้ใครเข้ามาทำลายอุตสาหกรรมในประเทศได้ง่ายๆ...!! รัฐบาลอย่ามาตีโพยตีพายถ้าเม็ดเงินลงทุนในอุตสาหกรรมเหล็ก GI จะย้ายฐานออกไปจากไทย...ต้องโทษตัวเองและไปไล่เบี้ยเอากับ กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์โน่น...แล้วรัฐบาลก็ต้องเตรียมตัวรองรับและรับผิดชอบต่อการว่างงานของแรงงานในอุตสาหกรรมเหล็กอีกร่วมแสนรายด้วย...เท่านั้นไม่พอ เมื่อไม่มีผู้ผลิตสินค้าต้นทางในประเทศอีกแล้ว แต่ต้องพึ่งแต่สินค้านำเข้าอย่างเดียว....กลุ่มผู้ประกอบการเช่น ผู้ผลิตท่อเหล็ก เฟอร์นิเจอร์ กลุ่มก่อสร้าง และกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ...ที่ต้องใช้เหล็ก GI เป็นวัตถุดิบจะทำอย่างไร ความมั่นคงเรื่องวัตถุดิบจะมีได้ไงเมื่อต้องพึ่งพาแต่สินค้านำเข้า....!! เห็นหรือยังว่าผลกระทบมันน่ากลัว...หากว่าเราเสียอธิปไตยทางเศรษฐกิจ...nn
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี