บริษัทหลักทรัพย์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นกลุ่มธนาคาร หรือ Bank Sector ซึ่งคาดว่าจะเตรียมส่วนรองรับหนี้เสียสำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPL หลังจบโครงการช่วยเหลือ การผ่อนคลายการตั้งสำรอง และโครงการบรรเทาผลกระทบของลูกหนี้ทำให้ปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ยืดไปจนถึงสิ้นปี เนื่องจากมีลูกหนี้ที่ยื่นขอเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก เราจึงคิดว่าธนาคารส่วนใหญ่จะเตรียมสำรองพิเศษเพื่อรองรับความเสี่ยง NPL หลังจากที่โครงการบรรเทาผลกระทบลูกหนี้สิ้นสุดลง
เราคาดว่าธนาคารที่มีการปล่อยกู้สินเชื่อ SME สูง เช่น KBANK และ TMB จะกำหนดตั้งสำรองฯ เพิ่มขึ้น โดยคาดว่า KBANK จะอยู่ที่ประมาณ 250bps (จากเป้าทั้งปีที่ 150bps) และ TMB ที่ 160bps (จากเป้าทั้งปีที่ 120-130bps) เราคาดว่าของ KTB จะอยู่ที่ 170bps รวมสำรองพิเศษสำหรับหนี้การบินไทย ขณะที่คาดว่าของ SCB/BBL จะอยู่ที่ 100bps/120bps ทั้งนี้ เราคาดว่ามีแค่ TISCO ที่จะกำหนด ลดลงเนื่องจากตั้งสำรองก้อนใหญ่เพื่อรองรับหนี้เสียเอาไว้แล้วตั้งแต่ใน 1Q63
สินเชื่อของธนาคารใหญ่ส่วนใหญ่เติบโตแข็งแกร่งเนื่องจากตลาดพันธบัตรผันผวน ส่งผลให้บริษัทเอกชนหลายแห่งไม่สามารถรีไฟแนนซ์ หุ้นกู้ด้วยต้นทุนที่ถูกลงได้ ดังนั้นความต้องการสินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภาคธุรกิจจึงเพิ่มขึ้น ธนาคารที่เป็นผู้นำในสินเชื่อธุรกิจได้แก่ KBANK และ BBL นอกจากนี้ สินเชื่อพิเศษที่ปล่อยให้หน่วยงานภาครัฐเพิ่มขึ้นก็หนุนให้สินเชื่อของ KTB โตได้ถึงสองหลัก แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก SCB ได้รับชำระหนี้เงินกู้เพิ่มขึ้นทำให้ยอดสินเชื่อทรงตัว ขณะเดียวกัน สินเชื่อผู้บริโภคที่หดตัวลงก็กดดันยอดสินเชื่อของธนาคารขนาดเล็ก อย่างไรก็ตามคิดว่าการลดดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ และการปรับลด DPA น่าจะช่วยให้ธนาคารส่วนใหญ่ยังคงรักษาระดับมาร์จิ้นเอาไว้ได้
เราใช้สมมุติฐานว่าสินเชื่อธุรกิจเร่งตัวขึ้นขณะที่ NIM ทรงตัว QoQ รายได้จากค่าธรรมเนียมลดลง 5% QoQ และ 10% YoY ส่วน NPLs เพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยกว่า ขณะที่ credit cost เพิ่มขึ้นมาก โดยเราคาดว่า BBL และ KBANK จะพลิกจากที่มีผลขาดทุนจากการลงทุน ในขณะเดียวกัน credit cost จะกดดันให้กำไรของ KBANK ลดลงถึง 46% YoY และที่สินเชื่อที่ปล่อยให้ Thai Airway ก็จะกดดันกำไรของ KTB ให้ลดลงถึง 41%
แต่อย่างไรก็ตาม เรามองว่ากำไรของ TISCO ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดี และคาดว่า credit cost จะลดลงเนื่องจากมีการตั้งสำรองพิเศษเพื่อรองรับหนี้เสียเอาไว้แล้วใน 1Q63 และก็ไม่ได้มีสินเชื่อ H/P ที่ผิดนัดชำระหนี้มากนัก เนื่องจากราคาหุ้นย่อลงมาแล้ว เราจึงปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น TISCO จากถือเป็นซื้อ และคงราคาเป้าหมายเอาไว้เท่าเดิม
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี