วันเสาร์ ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
บริษัทหลักทรัพย์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นกลุ่มธนาคาร หรือ Bank Sector ซึ่งคาดว่าจะเตรียมส่วนรองรับหนี้เสียสำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPL หลังจบโครงการช่วยเหลือ การผ่อนคลายการตั้งสำรอง และโครงการบรรเทาผลกระทบของลูกหนี้ทำให้ปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ยืดไปจนถึงสิ้นปี เนื่องจากมีลูกหนี้ที่ยื่นขอเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก เราจึงคิดว่าธนาคารส่วนใหญ่จะเตรียมสำรองพิเศษเพื่อรองรับความเสี่ยง NPL หลังจากที่โครงการบรรเทาผลกระทบลูกหนี้สิ้นสุดลง
เราคาดว่าธนาคารที่มีการปล่อยกู้สินเชื่อ SME สูง เช่น KBANK และ TMB จะกำหนดตั้งสำรองฯ เพิ่มขึ้น โดยคาดว่า KBANK จะอยู่ที่ประมาณ 250bps (จากเป้าทั้งปีที่ 150bps) และ TMB ที่ 160bps (จากเป้าทั้งปีที่ 120-130bps) เราคาดว่าของ KTB จะอยู่ที่ 170bps รวมสำรองพิเศษสำหรับหนี้การบินไทย ขณะที่คาดว่าของ SCB/BBL จะอยู่ที่ 100bps/120bps ทั้งนี้ เราคาดว่ามีแค่ TISCO ที่จะกำหนด ลดลงเนื่องจากตั้งสำรองก้อนใหญ่เพื่อรองรับหนี้เสียเอาไว้แล้วตั้งแต่ใน 1Q63
สินเชื่อของธนาคารใหญ่ส่วนใหญ่เติบโตแข็งแกร่งเนื่องจากตลาดพันธบัตรผันผวน ส่งผลให้บริษัทเอกชนหลายแห่งไม่สามารถรีไฟแนนซ์ หุ้นกู้ด้วยต้นทุนที่ถูกลงได้ ดังนั้นความต้องการสินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภาคธุรกิจจึงเพิ่มขึ้น ธนาคารที่เป็นผู้นำในสินเชื่อธุรกิจได้แก่ KBANK และ BBL นอกจากนี้ สินเชื่อพิเศษที่ปล่อยให้หน่วยงานภาครัฐเพิ่มขึ้นก็หนุนให้สินเชื่อของ KTB โตได้ถึงสองหลัก แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก SCB ได้รับชำระหนี้เงินกู้เพิ่มขึ้นทำให้ยอดสินเชื่อทรงตัว ขณะเดียวกัน สินเชื่อผู้บริโภคที่หดตัวลงก็กดดันยอดสินเชื่อของธนาคารขนาดเล็ก อย่างไรก็ตามคิดว่าการลดดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ และการปรับลด DPA น่าจะช่วยให้ธนาคารส่วนใหญ่ยังคงรักษาระดับมาร์จิ้นเอาไว้ได้
เราใช้สมมุติฐานว่าสินเชื่อธุรกิจเร่งตัวขึ้นขณะที่ NIM ทรงตัว QoQ รายได้จากค่าธรรมเนียมลดลง 5% QoQ และ 10% YoY ส่วน NPLs เพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยกว่า ขณะที่ credit cost เพิ่มขึ้นมาก โดยเราคาดว่า BBL และ KBANK จะพลิกจากที่มีผลขาดทุนจากการลงทุน ในขณะเดียวกัน credit cost จะกดดันให้กำไรของ KBANK ลดลงถึง 46% YoY และที่สินเชื่อที่ปล่อยให้ Thai Airway ก็จะกดดันกำไรของ KTB ให้ลดลงถึง 41%
แต่อย่างไรก็ตาม เรามองว่ากำไรของ TISCO ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดี และคาดว่า credit cost จะลดลงเนื่องจากมีการตั้งสำรองพิเศษเพื่อรองรับหนี้เสียเอาไว้แล้วใน 1Q63 และก็ไม่ได้มีสินเชื่อ H/P ที่ผิดนัดชำระหนี้มากนัก เนื่องจากราคาหุ้นย่อลงมาแล้ว เราจึงปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น TISCO จากถือเป็นซื้อ และคงราคาเป้าหมายเอาไว้เท่าเดิม
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)

‘กรมการแพทย์’ชู 3 เทคโนโลยีการรักษาฟื้นฟู‘กะโหลกเทียม แขนขาเทียมและตาปลอม’
ช็อกกันทั้งซอย กล้องหน้ารถจับภาพ ชายป่วยซึมเศร้าโดดตึก3ชั้นสาหัส
วางขายแล้ว! จาก‘ข้าวดอ’สู่‘ข้าวเม่า’ ขนมโบราณ ฝีมือชาวนาอำนาจเจริญ
ประเทศแรกในเอเชีย! ‘ฟีฟ่า’เลือก‘ไทย’ เจ้าภาพฟุตบอลหญิง รายการ FIFA Series 2026tm
‘สืบยโสธร’รวบเครือข่ายโจรกรรมรถ จยย.ข้ามชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี