nn น่าจะลากยาวเป็นมหากาพย์อีกหนึ่งเรื่อง...สำหรับการประมูลคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้มชาวบางขุนนนท์-มีนบุรี วงเงินลงทุนกว่า1.42 แสนล้านบาท หลังการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)ได้สั่งยกเลิกการประมูลเดิมเพื่อจัดประมูลใหม่ ด้วยข้ออ้างไม่สามารถรอฟังผลชี้ขาดจากศาลปกครองกลาง และศาลปกครองสูงสุดได้
ล่าสุด บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส (BTS) ได้ส่งทนายยื่นฟ้องฝ่ายบริหาร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 165 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 เพราะ รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การคัดเลือกที่แตกต่างไปจากเอกสารประกวดราคา (RFP) ที่ออกไปแล้วโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และแม้ก่อนหน้านี้ศาลปกครองกลาง จะมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับใช้เกณฑ์ดังกล่าวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น แต่ รฟม.ยังคงมีความพยายามที่จะนำหลักเกณฑ์ดังกล่าวมาบังคับใช้ในการประมูลจึงน่าจะมีปัญหาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นไปตามคำสั่งศาล
ที่บอกว่าส่อจะลากยาวเป็นอีกหนึ่งมหากาพย์ก็เพราะคงต้องสู้กันหลายศาลแน่ๆ...เพราะสิ่งที่ BTS ยื่นฟ้องนั้นก็มีมูลพอที่ศาลท่านจะรับฟังได้ และก็ยังมีคดีเทียบเคียงยืนยันได้ว่าน่าจะมีกากระทำความผิดของหน่วยงานรัฐหรือผู้ให้สัมปทานนั้นกระทำผิดจริง...โดย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีทุจริตโครงการก่อสร้างระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ตลิงค์)ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป.ป.ช.ได้ยื่นฟ้องอดีตผู้ว่ารถไฟฯ ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เนื่องจากมีการแก้ไขสัญญาในเอกสารประกวดราคาเพื่อเอื้อประโยชน์แก่เอกชน จนเป็นเหตุให้รถไฟได้รับความเสียหาย โดยศาลอุทธรณ์ได้สั่งจำคุก นายจิตต์สันติ ธนะโสภณ อดีตผู้ว่าการการรถไฟฯ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157ลงโทษจำคุก 9 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 6 ปี ส่วนจำเลยอีกรายอดีตหัวหน้าสำนักงานกฎหมายนั้นศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น
ผลพวงจากคดีทุจริตโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ข้างต้น น่าจะเป็นบทเรียนให้กับบอร์ดและ กรณีประมูลคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้มที่กำลังเป็นประเด็นอยู่นี้ เนื่องจากที่ผ่านมา รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนพ.ศ.2562 มีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกที่แตกต่างไปจากเอกสารประกวดราคา (RFP) เดิม จนถูกบริษัทเอกชนที่เข้าร่วมประมูลยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง และศาลได้มีคำสั่งให้ รฟม.ทุเลาการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา พร้อมสั่งให้ รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกกลับไปใช้เกณฑ์เดิมตามเงื่อนไขประมูล (RFP)ที่ได้ออกไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้เกณฑ์คัดเลือกใหม่ แต่การที่ฝ่ายบริหาร รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกยังคงมีความพยายามที่จะประมูลภายใต้หลักเกณฑ์คัดเลือกใหม่ดังกล่าว จึงเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่า มีความพยายามที่จะแก้ไขเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนบางราย สอดคล้องกับกรณีทุจริตในโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ที่มีการแก้ไขเอกสารประกวดราคาจนทำให้รัฐเสียหาย จึงเชื่อว่าทั้งบริหาร รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกน่าจะมีชะตากรรมบนบรรทัดฐานเดียวกับคดีแอร์พอร์ตลิงค์อย่างแน่นอน
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี