วันพฤหัสบดี ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / กฎ กติกา ธุรกิจ
กฎ กติกา ธุรกิจ

กฎ กติกา ธุรกิจ

รุจิระ บุนนาค
วันศุกร์ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2564, 02.00 น.
บัตรเลือกตั้ง 1 ใบ 2 ใบ

ดูทั้งหมด

  •  

ในที่สุดเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 ในการประชุมร่วมรัฐสภาที่ประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560ได้ลงมติในวาระที่สาม ให้ใช้บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 ใบ

ก่อนหน้านี้มีประเด็นที่ถูกเถียงกันในสังคมเป็นอย่างมากว่า บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ควรจะเป็น 1 ใบ หรือ 2 ใบ และหากเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว พรรคการเมืองประเภทไหนจะได้เปรียบหรือได้ประโยชน์มากกว่ากัน


นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทย เป็นระบอบประชาธิปไตยตั้งแต่ปีพ.ศ. 2475 เป็นต้นมา แต่เดิมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะเป็นการเลือกตั้งแบบ ผู้แทนที่เป็นตัวแทนเขตเลือกตั้งเท่านั้น เราจะมีบัตรเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 1 ใบมาโดยตลอด

จนเมื่อเรามีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ. 2540 ที่กำหนดให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมี 2 ประเภท คือ (1) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งโดยการแบ่งเขตเลือกตั้ง หรือที่เรียกว่า สส.เขตมีพื้นที่อาณาเขตเลือกตั้งที่แน่นอน (2) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งโดยบัญชีรายชื่อ หรือที่เรียกว่าสส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งพรรคการเมืองแต่ละพรรคจะคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมอยู่ในบัญชีรายชื่อ แล้วให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกเสียงลงคะแนนเลือกพรรคการเมือง แล้วจึงนำคะแนนที่ได้จากการเลือกตั้งประเภทนี้ มาคำนวณเป็นสัดส่วนว่าพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ จะได้จำนวนสส.กี่คน

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจึงมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ใบแรกสำหรับเลือก สส.เขต ส่วนใบที่สอง สำหรับเลือก สส.บัญชีรายชื่อ

การเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่อ ที่ใช้ในประเทศไทย เราไม่ได้คิดกันขึ้นมาเอง แต่เป็นการนำแนวความคิดและวิธีการเลือกตั้งของประเทศเยอรมนี มาปรับใช้ในประเทศไทย โดยนำมาใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 เป็นครั้งแรก เมื่อมีการยกเลิกรัฐธรรมนูญ และร่างรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นมาแทน ได้นำหลักการนี้มาใช้โดยตลอดจนถึงปัจจุบัน

แนวความคิดของประเทศเยอรมนี ที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ (Mixed Member Proportional -MMP) มีเจตนารมณ์ที่ว่า ประเทศเยอรมนีต้องการให้บุคคล ที่มีความรู้ความสามารถ เช่น นักวิชาการ ผู้มีประสบการณ์ในการทำงานที่เป็นประโยชน์ ได้มีโอกาสเข้ามาทำงานเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ โดยเปิดโอกาสให้บุคคลประเภทนี้ เป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งจะไม่ต้องหาเสียงในพื้นที่ หรือคลุกคลีกับประชาชน แบบนักการเมืองอาชีพ เพราะอาจไม่มีความถนัดที่จะทำเช่นนั้น และหากประเทศมีผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบเขตเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว บุคคลที่มีคุณประโยชน์และความรู้ความสามารถประเภทนั้น คงจะมีโอกาสเข้าสภาได้น้อยมาก เพราะหาเสียงไม่เก่งและสู้นักการเมืองอาชีพไม่ได้ ทำให้ประเทศขาดโอกาส ที่จะมีคนดีเข้าสภามากขึ้น

ประเทศไทยเมื่อรับแนวความคิดให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ มาจากประเทศเยอรมนี กลับไม่ได้รับแนวความคิดไว้ทั้งหมด และยังปรับเปลี่ยนเป็นแนวความคิดและวิธีการแบบไทยๆ

หากหยิบรายชื่อผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคการเมืองในประเทศไทยส่วนใหญ่จะพบว่า อันดับต้น จะเป็นนักการเมืองอาวุโสของพรรคที่เปิดโอกาสให้พักเหนื่อยไม่ต้องไปหาเสียงในเขตพื้นที่เนื่องจากผ่านศึกมามากแล้วหรืออาจมีอายุมากแล้ว อันดับถัดมามักจะเป็นผู้มีอุปการคุณแก่พรรคการเมือง ซึ่งหมายถึงผู้ที่กระเป๋าหนักบริจาคเงินให้พรรคการเมือง เป็นจำนวนมากและอยากเล่นการเมือง ซึ่งเท่ากับรับรองผลที่จะได้เป็น สส.ค่อนข้างแน่นอน อันดับถัดมาอาจจะเป็น อดีตสส. ที่มีความอาวุโส หรือบุคคลที่มีเส้นสายในพรรค อันดับถัดมาสุดท้าย มักจะเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ นักวิชาการ แต่สำหรับบางคนอาจเป็นข้อยกเว้นที่ ได้รับการสอดแทรกให้อยู่อันดับต้นกว่านั้น

คนที่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ อันดับต้นๆ ย่อมมีโอกาสเป็น สส.มากกว่าผู้ที่มีรายชื่ออยู่ท้าย

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ. 2560 ที่มีการเลือกตั้งเมื่อปีพ.ศ. 2562 ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีทั้งแบบ สส.เขต และสส.บัญชีรายชื่อ แต่กำหนดให้มีบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพียงใบเดียว ตามแนวความคิดที่ว่า คะแนนเสียงทุกคะแนนไม่สูญเปล่า นำมาใช้เลือกตั้งแบบสส.เขต และสส.บัญชีรายชื่อในเวลาเดียวกัน

ทำให้ในระยะแรก มีการถกเถียง กันเป็นอย่างมากว่าจะใช้วิธีคำนวณสัดส่วนของ คะแนนผู้ได้รับเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่ออย่างไร และจากแนวความคิดนี้ ทำให้ จำนวน สส.แบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้งเมื่อมีการเลือกตั้งซ่อมสส.เขต ในแต่ละครั้ง บางคนเข้าสภาเป็นสส.บัญชีรายชื่อเพียงแค่สัปดาห์เดียว ต้องพ้นออกจากตำแหน่ง เพราะเมื่อคำนวณสัดส่วนของคะแนนเสียงแล้วหลังจากเลือกตั้งซ่อม สส.เขต กลายเป็นว่า คะแนนเสียงโดยรวมของพรรคการเมืองนั้นทั้งประเทศ ลดลง สส.บัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองอันดับสุดท้าย
บางพรรคจึงต้องหลุดออกจากตำแหน่งไปโดยสภาพ

การที่มีบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 1 ใบจะมีผลทำให้พรรคการเมืองบางพรรค แม้จะเป็นพรรคขนาดกลาง และเป็นพรรคใหม่ จะได้รับเลือกตั้งสส.มากขึ้นเช่น พรรคอนาคตใหม่ ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น พรรคก้าวไกลเมื่อปีพ.ศ. 2562 ได้รับเลือกตั้งเป็น สส.เขต 31 คน สส.บัญชีรายชื่อ 50 คน

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพรรคนี้ เป็นพรรคใหม่ และมีรูปลักษณ์ แบบแนวแปลกแหวกแนวไม่จำเจ ถูกใจคนรุ่นใหม่และยังได้รับอานิสงส์จากการที่พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ ทำให้คนหันมาเลือกพรรคนี้มากขึ้น

เมื่อมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใหม่ล่าสุด ให้กลับมาใช้บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 ใบ ทำให้หลายคนมีเข้าใจว่า พรรคการเมืองใหญ่ จะได้ประโยชน์ พรรคการเมืองเล็ก และพรรคการเมืองขนาดกลาง จะเสียประโยชน์ จนถึงขนาดที่บางพรรคอาจสูญพันธุ์

ความเห็นดังกล่าวอาจมีส่วนจริงอยู่บ้าง และมีความเป็นไปได้ แต่ที่สำคัญอยู่ที่ พรรคการเมืองควรเสนอ นโยบายที่สำคัญ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยสามารถทำได้จริง ไม่ใช่มุ่งเพียงแค่หาเสียงให้ได้รับเลือกตั้ง

ประชาชนชาวไทย จะมีโอกาสได้ตัดสินใจเลือก สส. และพรรคการเมือง ที่มีนโยบายที่ดี และสามารถทำได้จริงในการเลือกตั้งคราวหน้าหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่ความคาดหวัง คงต้องติดตามกันต่อไป

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
09:38 น. ถ้าผมไม่เxือก แล้วใครจะเxือก! วาทะ 'ทักษิณ' จุดเดือด 'นักข่าวอาวุโส' ลั่นดูถูกคนไทยเกินรับไหว
09:25 น. ถล่มยับ! เปแอสเชทะลุชิงสโมสรโลก
09:15 น. 'กอบศักดิ์' ฟันธง 'ภาษีทรัมป์' รอบนี้ของจริง! เตือนไทยจับตาโครงสร้างการค้าโลกใหม่
09:06 น. รัฐบาลย้ำต้องขุดรากถอนโคนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังออกหมายจับแก๊ง 'ก๊ก อาน'
09:06 น. ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2568
ดูทั้งหมด
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
'ปราชญ์ สามสี'ผ่าเกมตระกูล'ชินวัตร-ฮุน' ทำไมคนหนึ่งเงียบ อีกคนดิ้น ที่แท้!!
‘สม รังสี’เปิดไทม์ไลน์แฉ‘แรงจูงใจ’เบื้องหลัง‘ฮุน เซน’เล่นเกมกฎหมายถอดสัญชาติกัมพูชา
ดูทั้งหมด
‘อนุทิน VS แพทองธาร’เรื่อง‘กาสิโน’
ประชาธิปไตยมักถูกท้าทายอยู่เสมอ
ไร้เพื่อน?
บุคคลแนวหน้า : 10 กรกฎาคม 2568
รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ไร้ฝีมือแท้ทรู คือ ตัวถ่วงประเทศไทย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ถล่มยับ! เปแอสเชทะลุชิงสโมสรโลก

ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2568

'นิธิพัฒน์'ซัดเจ็บ! 'นักการเมืองสันดานเสีย' หวังประโยชน์ส่วนตน ทำชาติป่วน

'แพรรี่'เทศน์พระเอี่ยวสีกา สึกออกมาก็แค่ตาแก่คนหนึ่ง สีกาก็ร้ายไปเป็นเปรตแน่นอน

'ทรัมป์'ร่อนจดหมายภาษีอีก8ประเทศ 'บราซิล'อ่วมเจอรีดภาษีนำเข้า50%เซ่นปม'โบลโซนาโร'

'สมเด็จฮุน เซน'กลัวมากถ้า'คนไทย'จะรักตนเอง แซะเจ็บไทยควรโฟกัสผู้นำตัวเองดีกว่า

  • Breaking News
  • ถ้าผมไม่เxือก แล้วใครจะเxือก! วาทะ \'ทักษิณ\' จุดเดือด \'นักข่าวอาวุโส\' ลั่นดูถูกคนไทยเกินรับไหว ถ้าผมไม่เxือก แล้วใครจะเxือก! วาทะ 'ทักษิณ' จุดเดือด 'นักข่าวอาวุโส' ลั่นดูถูกคนไทยเกินรับไหว
  • ถล่มยับ! เปแอสเชทะลุชิงสโมสรโลก ถล่มยับ! เปแอสเชทะลุชิงสโมสรโลก
  • \'กอบศักดิ์\' ฟันธง \'ภาษีทรัมป์\' รอบนี้ของจริง! เตือนไทยจับตาโครงสร้างการค้าโลกใหม่ 'กอบศักดิ์' ฟันธง 'ภาษีทรัมป์' รอบนี้ของจริง! เตือนไทยจับตาโครงสร้างการค้าโลกใหม่
  • รัฐบาลย้ำต้องขุดรากถอนโคนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังออกหมายจับแก๊ง \'ก๊ก อาน\' รัฐบาลย้ำต้องขุดรากถอนโคนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังออกหมายจับแก๊ง 'ก๊ก อาน'
  • ยิปซีพยากรณ์\'ดวงรายวัน\'ประจำวันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2568 ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2568
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) ของไทย

ธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) ของไทย

4 ก.ค. 2568

คลิปสนทนา อุ๊งอิ๊งค์-ฮุนเซน กับกฎหมาย

คลิปสนทนา อุ๊งอิ๊งค์-ฮุนเซน กับกฎหมาย

27 มิ.ย. 2568

เมาแล้วขับ จับ ปรับ ยึดรถ

เมาแล้วขับ จับ ปรับ ยึดรถ

20 มิ.ย. 2568

ความขัดแย้งเขตแดน ไทย-กัมพูชา

ความขัดแย้งเขตแดน ไทย-กัมพูชา

13 มิ.ย. 2568

ฟ้อง AI ข้อหา ฆ่าคน

ฟ้อง AI ข้อหา ฆ่าคน

6 มิ.ย. 2568

ยิ่งลักษณ์ กับความผิดจำนำข้าว

ยิ่งลักษณ์ กับความผิดจำนำข้าว

30 พ.ค. 2568

ก.ม.ใหม่ ธนาคารและค่ายมือถือ ร่วมรับผิดกรณีคอลเซ็นเตอร์

ก.ม.ใหม่ ธนาคารและค่ายมือถือ ร่วมรับผิดกรณีคอลเซ็นเตอร์

23 พ.ค. 2568

ขยายฐาน....ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ขยายฐาน....ภาษีมูลค่าเพิ่ม

16 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved