เมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2565 ได้เกิดเหตุดินสไลด์ในซอยศรีสัมพันธ์ ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พื้นดินยุบตัว บ้านและสิ่งปลูกสร้างบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหายกว่า 20 หลัง นับว่าโชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต นั่นคงเป็นเพราะเหตุเกิดประมาณเวลา18.00 น. ผู้คนยังไม่ได้หลับนอน
บ่อดินที่เกิดเหตุ เป็นที่ดินพื้นที่ปากบ่อดินรวมประมาณ 850,000 ตารางเมตร และมีความลึกจากระดับพื้นดินมากกว่า 20 เมตร มีระยะห่างจากพื้นที่ปากบ่อดินถึงเขตลำคลองสาธารณะประมาณ 4.50 เมตร
โดยเมื่อปีพ.ศ.2559 ได้มีบริษัทเอกชนขุดดิน แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพ.ร.บ. การขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 และได้ขุดดินแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2560แต่เมื่อประมาณปี พ.ศ.2562 ได้ขุดดินเพิ่มเติมโดยไม่ได้แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ทำให้การขุดดินเป็นไปอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายและหลักวิชาการ ความลาดของเนินดินมีความชันมาก ประกอบกับดินบริเวณจังหวัดสมุทรปราการเป็นดินอ่อน
เมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ.2565 มีการพบรอยแยกของดิน บริเวณริมคลองบางกระบือ ซึ่งเป็นคลองที่ตัดผ่านระหว่างบ่อขุดดินและพื้นที่เกิดเหตุ ชาวบ้านได้แจ้งหน่วยงานในพื้นที่ รวมทั้งเจ้าของบริษัทเอกชนที่ขุดหน้าดิน แม้ทางอบต.บางปลา ได้มีคำสั่งห้ามใช้เครื่องจักรในพื้นที่ แต่ชาวบ้านยังพบว่ามีการนำเครื่องจักรมาใช้ในพื้นที่
พ.ร.บ. การขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 มีการบังคับใช้เนื่องจาก การขุดดินเพื่อขนดินไปถมพื้นที่ก่อสร้างที่อยู่อาศัย หรือกิจการอื่นเป็นไปอย่างกว้างขวางแต่การขุดดิน หรือถมดินยังไม่เป็นไปตามหลักวิชาการจึงต้องกำหนด กฎเกณฑ์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์สิน และความปลอดภัยของประชาชน
เหตุการณ์นี้คงไม่เกิดขึ้น หากปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดมาตรการป้องกันการพังทลายของดินหรือสิ่งปลูกสร้างในการขุดดินหรือถมดิน พ.ศ.2548ข้อ 7 กำหนดให้การขุดดินที่มีความลึกจากระดับพื้นดินเกิน 3 เมตร หรือมีพื้นที่ปากบ่อดินเกิน 10,000ตารางเมตร ปากบ่อดินจะต้องห่างจากที่สาธารณะ เป็นระยะไม่น้อยกว่า 2 เท่า ของความลึกของบ่อดินที่จะขุด ข้อ 5 ได้กำหนดให้การขุดดินที่มีความลึกเกิน20 เมตร ต้องมีการป้องกันการพังทลายของดินหรือสิ่งปลูกสร้าง โดยมีการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับวัดการเคลื่อนตัวของดินด้วย
แต่ตามข้อเท็จจริง พื้นที่บ่อดินบริเวณที่เกิดเหตุมีการขุดดิน และไม่ได้มีการแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นแต่อย่างใด
ตามพ.ร.บ. การขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543ซึ่งเป็นกฎหมายหลัก ตาม 17 ได้วางหลักว่า ผู้ใดประสงค์จะทำการขุดดินโดยมีความลึกจากระดับพื้นดินเกิน 3 เมตร หรือมีพื้นที่ปากบ่อดินเกิน 10,000 ตารางเมตรหรือมีความลึกหรือพื้นที่ตามที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นประกาศกำหนด ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น โดยยื่นเอกสารแจ้งข้อมูลที่สำคัญ เช่น แผนผังบริเวณที่ประสงค์จะทําการขุดดิน แผนผังแสดงเขตที่ดินและที่ดินบริเวณข้างเคียง วิธีการขุดดิน และการขนดินระยะเวลาทําการขุดดิน ชื่อผู้ควบคุมงาน ที่ตั้งสำนักงานของผู้แจ้ง หลังจากนั้นเจ้าพนักงานท้องถิ่นออกใบรับแจ้งให้แก่ผู้แจ้งภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หลังจากนั้นผู้แจ้งจึงเริ่มต้นทำการขุดดินตามที่ได้แจ้งไว้ได้ตั้งแต่วันที่ได้รับใบรับแจ้ง
การไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งยังมีโทษการขุดดินที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย คือต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท และปรับเป็นรายวันอีกวันละไม่เกิน 1,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังไม่ปฏิบัติตาม
การขุดดินที่ไม่ต้องมีการแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น เช่น การขุดบ่อน้ำใช้ที่มีพื้นที่ปากบ่อไม่เกิน 4 ตารางเมตร
แม้ตามพ.ร.บ. การขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 จะมีบทลงโทษ ในกรณีที่ เจ้าพนักงานท้องถิ่นให้จัดการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นหรือจัดการแก้ไขการขุดดิน คือ ระวางโทษปรับไม่เกิน30,000 บาทและปรับเป็นรายวันอีกวันละไม่เกิน500 บาท ตลอดเวลาที่ยังไม่ปฏิบัติตาม แต่เหตุการณ์ดินถล่มที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าเจ้าของบริษัทเอกชนที่ขุดหน้าดิน จะไม่เคารพต่อกฎหมาย อาจเป็นไปได้ว่า ยอมเสียค่าปรับดีกว่ายอมเสียผลประโยชน์
อย่างไรก็ตาม การได้รับใบรับแจ้งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นนี้ จะไม่เป็นเหตุคุ้มครองการขุดดินที่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลหรือต่อสภาพแวดล้อม ดังนั้น ผู้ขุดดินไม่ว่าจะเป็นเจ้าของที่ดินผู้ครอบครองที่ดิน ลูกจ้างหรือตัวแทน จะต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
นอกจากนี้ ในกรณีที่ห้างหุ้นส่วน บริษัทหรือนิติบุคคลอื่นกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. การขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 กรรมการ ผู้จัดการหรือบุคคลใด
ซึ่งรับผิดชอบในการกระทำอันเป็นความผิด ต้องรับโทษสำหรับความผิดนั้นๆ ด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการกระทำนั้นได้กระทำโดยตนไม่ได้รู้เห็นหรือยินยอมด้วย
เจ้าของที่ดินจำนวนไม่น้อย ที่เข้าใจว่าในเมื่อเป็นที่ดินของตน ย่อมมีสิทธิที่จะทำอะไรได้ แต่แท้ที่จริงแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 421 “การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่นนั้น ท่านว่าเป็นการอันมิชอบด้วยกฎหมาย”
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2576/2562 จำเลยขุดดินในที่ดินของจำเลยนำไปขายในธุรกิจรับเหมาถมดิน โดยขุดทั้งแปลง 25 ไร่ ลึกกว่า 3 เมตร ห่างจากแนวเขตที่ดินโจทก์น้อยกว่า 50 เซนติเมตร ทำให้ที่ดินจำเลยมีสภาพเป็นบ่อขนาดใหญ่ และที่ดินโจทก์มีสภาพเป็นขอบบ่อสูงชันเป็นการที่จำเลยใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะเกิดความเสียหายแก่โจทก์อันเป็นการละเมิดตาม ป.พ.พ. มาตรา 421 โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวมีสิทธิจะปฏิบัติการเพื่อยังความเสียหายเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไป และไม่ลบล้างสิทธิที่จะเรียกค่าเสียหาย
แม้เจ้าของที่ดินจะมีสิทธิที่จะกระทำการใด ต้องคำนึงด้วยว่า ต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี