ในที่สุดคอหวยทั้งหลายคงดีใจ ที่สามารถซื้อสลากดิจิทัลได้ในราคา 80 บาท โดยชำระผ่าน G-Wallet บนแอปฯเป๋าตัง งวดแรกได้จัดจำหน่ายเมื่อ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2565 มีสลากจำนวน 5,173,500 ใบ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เฉลี่ยหนึ่งคนซื้อประมาณ 4 ใบ และสลากจำหน่ายหมดภายใน 5 วัน
สลากดิจิทัล (1) ผู้ซื้อจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ (2) ราคาสลากดิจิทัล ไม่เกิน 80 บาท/ฉบับ (3) จ่ายผ่าน G-Wallet (4) ซื้อได้เวลา 06.00-14.00 น. ของทุกวัน (ยกเว้นวันออกรางวัล)
การขึ้นเงินรางวัล กรณีถูกรางวัล ระบบจะแจ้งเตือนไปที่แอปฯเป๋าตัง ภายในเวลา 18.00 น. ของวันที่ออกรางวัล โดยให้เลือกรับรางวัลได้ 2 ช่องทาง คือ
1) เลือกรับโดยการโอนเงินซึ่งจะโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยที่ผูกไว้กับแอปฯเป๋าตัง ในภายภาคหน้า อาจมีการปรับเปลี่ยนให้สามารถผูกบัญชีธนาคารอื่นได้ วิธีนี้จะเสียค่าธรรมเนียมร้อยละ 1 และค่าภาษีอากรแสตมป์ร้อยละ 0.5
2) รับเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยกำหนด วันเวลา ที่รับเงินรางวัล เพื่อที่สำนักงานสลากกินแบ่งฯ จะเตรียมสลากตัวจริงเพื่อส่งคืนให้กับผู้ซื้อ และเข้าสู่กระบวนการขึ้นเงินรางวัล วิธีนี้จะเสียเฉพาะค่าภาษีอากรแสตมป์ร้อยละ 0.5
แม้ราคาสลากดิจิทัล จะเป็นไปตามหน้าสลาก 80 บาท เป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักเสี่ยงโชค แต่สำหรับผู้ค้ารายย่อยที่เป็นผู้พิการ กลับต้องแบกรับภาระค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทางค่าอาหาร บางคนอาจต้องจ้างให้คนมาด้วย เพื่อความปลอดภัย บางคนมีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 300 บาทต่อวัน
การรับฟังความเห็นของผู้จำหน่ายคนพิการ จึงนับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะได้รับผลกระทบโดยตรง ทางสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ได้เสนอทางแก้ไขว่า สำนักงานสลากกินแบ่งฯ ควรจัดการกับ “ยี่ปั๊ว” “ซาปั๊ว” ให้เป็นระบบมากขึ้น แม้จะมีการขายสลากดิจิทัล แต่คนกลุ่มนี้ไม่ได้รับผลกระทบ แถมยังเป็นช่องทางใหม่ให้สามารถขายสลากได้หลายทางมากขึ้น ต่างจากผู้ค้ารายย่อยที่ต้องรับสลากกินแบ่งรัฐบาล มาในราคาแพง และโควตาที่ได้มาไม่เพียงพอกับการดำรงชีพ
ดังนั้น หากกองสลากฯ สามารถเพิ่มโควตาให้กับผู้พิการเป็นคนละ 10 เล่ม จะทำให้สามารถขายได้ใบละ80 บาท โดยไม่ต้องไปตระเวนหาสลากฯ มาขายเพิ่มเพราะปัจจุบันแม้ขายได้หมดตามโควตา แต่ยังไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ และบางงวดอาจขายได้น้อย หากมีเลขที่ไม่สวยปนเข้ามามาก ซึ่งเฉลี่ย 500 ใบ มีประมาณ 100 ใบ ที่ผู้ขายต้องรับความเสี่ยง
ไม่เพียงแต่สลากดิจิทัลที่ออกโดยกองสลากฯ แต่ยังมีลอตเตอรี่ออนไลน์ไม่ได้ดำเนินการโดยสำนักงานสลากฯ แต่เป็นของเอกชนที่ได้สร้างวิธีการซื้อขายขึ้นมาและกว้านซื้อสลากหรือลอตเตอรี่จากตัวแทนต่างๆ หรือทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ลอตเตอรี่มากที่สุด และนำลอตเตอรี่มาสแกนเข้าระบบ เปิดขายออนไลน์ การชำระเงินสามารถโอนผ่านธนาคาร หรือชำระโดย QR Code ผู้ซื้อลอตเตอรี่จะไม่ได้ลอตเตอรี่ฉบับ ซึ่งยังคงอยู่กับผู้จำหน่ายออนไลน์ หลักฐานการซื้อและแจ้งผลรางวัล จะแจ้งผ่านระบบไลน์ ผู้จำหน่ายออนไลน์บางรายจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทอย่างถูกกฎหมาย ทั้งใช้ชื่อเว็บไซต์คล้ายกับกองสลาก ที่อาจสร้างความสับสนให้กับประชาชน ผู้จำหน่ายออนไลน์บางรายไม่ได้หักค่าธรรมเนียม เมื่อผู้ซื้อสลากถูกแต่อย่างใด ทั้งมีการประชาสัมพันธ์ หากถูกรางวัลที่หนึ่งนำเงินที่ถูกรางวัลไปให้ถึงบ้าน มีการถ่ายทอดสดหรือ Live สดเมื่อมีการแจกเงินรางวัล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อว่า เว็บของตนมีลอตเตอรี่จริงไม่ใช่หวยทิพย์
ในขณะที่ผู้จำหน่ายออนไลน์ เมื่อผู้ซื้อถูกรางวัลใหญ่แต่กลับเกิดปัญหา การซื้อออนไลน์ ผู้ซื้อไม่ได้มีลอตเตอรี่ฉบับจริงอยู่ในมือ คนซื้อถูกรางวัลที่หนึ่ง ควรจะได้เงินรางวัล 6 ล้านบาท แต่กลับได้แค่ 1 ล้านบาทที่เหลือผู้จำหน่ายออนไลน์จะทยอยจ่ายเป็นงวดๆ ใช้เวลานานหลายเดือนหรือเป็นปี ตามที่เป็นข่าวเมื่อกลางปีพ.ศ. 2564
เรื่องนี้ ถ้าซื้อโดยได้ลอตเตอรี่ฉบับจริงและไปขึ้นเงินเพื่อรับรางวัลที่กองสลากฯ เองคงไม่มีปัญหา ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะถูกรางวัลที่หนึ่ง แต่เมื่อถูกรางวัลกลับมาเจอเรื่องแบบนี้ หากได้รับไม่ครบ 6 ล้านบาท คนซื้อต้องไปฟ้องร้องบริษัทที่ขายลอตเตอรี่ทางแพ่งฐานผิดสัญญาเอง
ผู้จำหน่ายออนไลน์บางรายไม่มีลอตเตอรี่อยู่กับตนเอง แต่กลับไปเอาลอตเตอรี่ในเว็บของผู้จำหน่ายออนไลน์รายอื่นมาสแกนขายเฉกเช่นว่าเป็นของตนเอง หรือที่เรียกว่าหวยทิพย์ ที่พ่นพิษทำให้อดีตนักร้องชายชื่อดังและพิธีกรกำลังถูกตั้งข้อกล่าวหาอยู่ในขณะนี้
หากย้อนไปเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2548 สำนักงานสลากกินแบ่งฯ มีแนวคิดในการออกสลากออนไลน์ เลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว เพื่อหวังแก้ปัญหาหวยใต้ดินและการขายสลากเกินราคา ได้ทำสัญญากับ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค เทคโนโลยี เพื่อให้บริการระบบเกมสลาก มีการติดตั้งเครื่องจำหน่ายสลากออนไลน์จนเมื่อประมาณกลางเดือนตุลาคม พ.ศ. 2549 บริษัทล็อกซเล่ย์ฯ ส่งมอบงานได้ครบตามสัญญา แต่ทางสำนักงานสลากฯ กลับยังไม่อนุมัติให้บริษัทเริ่มเปิดขายสลาก เนื่องจากติดข้อบังคับทางกฎหมายอีกทั้งยังถูกแรงคัดค้านต่อต้านทางสังคมว่า ส่งเสริมการพนันมากเกินไป คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ออกมาระบุว่า เป็นกิจการที่สำนักงานสลากฯ ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะอยู่นอกขอบเขตวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ. จัดตั้งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 ทำให้มีการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง จนเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมพ.ศ. 2564 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำตัดสินพิพากษาให้สำนักงานสลากฯ ชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด 1,654,604,540 บาท ให้แก่บริษัทล็อกซเล่ย์ฯ
หากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ดำเนินการเรื่องสลากดิจิทัล ได้อย่างประสบผลสำเร็จ และหาวิธีให้ผู้ค้ารายย่อยหรือตัวแทนจำหน่ายไม่ได้รับผลกระทบ อาจทำให้ค่าเสียหาย ที่ชำระให้แก่บริษัทล็อกซเล่ย์ฯ กลับคืนมา และแก้ปัญหาการจำหน่ายเกินราคา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี