บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทดูโฮม( DOHOME) กำไรสุทธิใน 2Q65 อยู่ที่ 315 ล้านบาท (-48% YoY, -31% QoQ) ต่ำกว่าประมาณการของเรา 27% และต่ำกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ในตลาด 12% เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าที่คาดไว้ ค่าใช้จ่าย SG&A สูงเกินคาด ส่งผลให้กำไรสุทธิในงวด 1H65 อยู่ที่ 775 ล้านบาท (-32% YoY) คิดเป็น 38% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา
ยอดขายใน 2Q65 อยู่ที่ 7.9 พันล้านบาท (+24% YoY, -5% QoQ) ขณะที่ SSSG ใน 2Q65 อยู่ที่ +10.8% (ตามที่เราคาดไว้) ทำให้ SSSG ในงวด 1H65 อยู่ที่ 18% โดยบริษัทเปิดสาขาใหม่ Size L หนึ่งแห่งใน 2Q65 ทำให้จำนวนสาขาเพิ่มเป็น 27 ร้าน (Size XL&&L: 18 ร้าน และ DOHOME To Go: 9 ร้าน)ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นใน 2Q65 ลดเหลือ 16.8% (-5.9ppts YoY, -0.8ppts QoQ) ต่ำกว่าประมาณการ 2Q65 ของเราที่ 18% เนื่องจาก i) โครงสร้างยอดขายยังไม่ดีนัก (ค่อนไปทางวัสดุก่อสร้าง) ii) มีช่วงเหลื่อมเวลาในการปรับราคาขายเพื่อสะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้น iii) มีการจัดแคมเปญส่งเสริมการขายในช่วงต้นฤดูฝน ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในงวด 1H65 ลดลงเหลือ 17.2% (-5ppts YoY)
ต่ำกว่าสมมุติฐานปี 2565F ของเราที่ 19.3% ขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่าย SG&A ใน 2Q65 เพิ่มเป็น 907 ล้านบาท (+35% YoY, +4% QoQ) คิดเป็นสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายที่ 11.5% โดยค่าใช้จ่าย SG&A ที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเปิดสาขาใหม่, การปรับปรุงสาขาร้านที่ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว, การเพิ่มสำรองบัญชีค้างรับสงสัยจะสูญ และค่าใช้จ่ายด้านพนักงาน
เราคาดว่าความสามารถในการทำกำไรจะยังไม่ดีนักใน 2H65 เนื่องจาก i) ราคาเหล็กปรับลดลง ซึ่งจะฉุดให้ GPM ของเหล็กกลับลงมาอยู่ระดับปกติที่ 10-12% และ ii) ข้อจำกัดในการปรับราคาสินค้า house brand เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ เราจึงได้ปรับสมมุติฐาน และปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-2566 ลง 31% ส่งผลให้ EPS หดตัวลง 35% ในปี 2565 แต่จะเพิ่มขึ้น 24% ในปี 2566 จากแนวโน้มผลประกอบการที่ไม่น่าตื่นเต้นใน 2H65 และอัตราการเติบโตของกำไรปี 2565 ที่ด้อยกว่าหุ้นอื่นในกลุ่ม (HMPRO +17%/GLOBAL +2%) เราจึง de-rate PER ของ DOHOME จาก 32.0x (ค่าเฉลี่ยนในอดีตของ Siam Global House (GLOBAL) และ Home Product Center (HMPRO) เหลือ 28.0X (-1.0 S.D.)
เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 17.00 บาท จากเดิม 22.50 บาท ปรับลดคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ” และแนะนำให้นักลงทุนรอดูสถานการณ์ไปก่อน
ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง, ขยายสาขาได้น้อยกว่าที่วางแผนเอาไว้, ราคาพืชผลอ่อนแอ, ภัยธรรมชาติ, สินค้าค้างสต๊อกเป็นจำนวนมาก
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี