พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2557 หลังจากที่ได้ทำรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลเดิมเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
หากนับระยะเวลา ตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรีจนถึงปัจจุบัน ถือว่าเกิน 8 ปีแล้ว อาจต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่า ระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 ซึ่งเป็นวันที่รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ จึงทำให้ระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีจนถึงปัจจุบัน จึงยังไม่เกิน 8 ปี และไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
การกำหนดวาระของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 158อยู่ภายใต้เหตุผลตามครรลองเจตนารมณ์ของระบอบประชาธิปไตยที่ต้องการให้เกิดการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนผู้ดำรงตำแหน่ง ป้องกันผูกขาดในตำแหน่งสร้างอิทธิพลให้ผลประโยชน์แก่กลุ่มพวกพ้องของผู้ดำรงตำแหน่ง ต้องการให้เกิดความหลากหลายในแนวทางการบริหารบ้านเมืองแบบบูรณาการ ไม่ยึดติดแนวทางบริหารแบบเดิมไปตลอด สร้างความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพแนวนโยบายการบริหารยิ่งกว่าการยึดติดในตัวบุคคลตามความเชื่อถือที่อาจถูกมองว่าเป็นรูปแบบเผด็จการ อาจเกิดประเด็นคำถามในใจว่า แล้วมีมาตรฐานของระยะเวลาที่เหมาะสมของการดำรงตำแหน่งของนักการเมืองผู้บริหารประเทศควรจะนานเพียงใด
ตัวอย่างการกำหนดวาระในการดำรงตำแหน่งของประเทศปกครองในระบอบประชาธิปไตย
สหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีสหรัฐนั้นมาจากการเลือกตั้งโดยอ้อมผ่านทางคณะผู้เลือกตั้ง และมีวาระในการดำรงตำแหน่ง 4 ปีและสามารถอยู่ในดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 วาระ ซึ่งบัญญัติไว้ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 22 ที่ได้รับการอนุมัติในปี ค.ศ. 1951
สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ประธานาธิบดีเป็นประมุขแห่งรัฐและเป็นจอมทัพกองทัพสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) มาจากการเลือกตั้งของประชาชน อยู่ในตำแหน่งวาระ 4 ปี ไม่เกิน 2 วาระ
ตัวอย่างการกำหนดวาระในการดำรงตำแหน่งของประเทศปกครองในระบอบสังคมนิยม
สาธารณรัฐประชาชนจีน ประธานาธิบดีมีวาระคราวละ 5 ปี ไม่เกิน 2 วาระ โดยในวาระประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญยกเลิกข้อจำกัดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีออกไปโดยไม่มีกำหนด จากเดิมที่กำหนดให้ดำรงตำแหน่งไม่เกิน 2 วาระ (10 ปี) คาดว่าอาจส่งผลให้ท่านจะสามารถดำรงตำแหน่งได้ตลอดชีวิต
สหพันธรัฐรัสเซีย ประธานาธิบดีมีวาระคราวละ 6 ปี (ติดต่อกันได้ 2 วาระ) ในวาระประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญไปสู่การเป็นประธานาธิบดีของรัสเซียตลอดชีวิต กล่าวคือปูตินสามารถดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียไปจนถึงปี 2036 ปูตินได้เข้าสู่ตำแหน่งเมื่อปี 2000 และบริหารประเทศ 2 วาระติดจนถึงปี 2008 จากนั้นใช้วิธีสลับให้ ดิมิทรี เมดเวเดฟ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แล้วปูตินเป็นนายกรัฐมนตรี ในปี 2008-2012 เพื่อให้พ้นจากข้อจำกัดตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ประธานาธิบดีอยู่ตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 วาระติดกัน
ทั้งประเทศระบอบประชาธิปไตยหรือระบอบสังคมนิยม ต่างมีกำหนดวาระของผู้บริหารสูงสุดของประเทศที่แตกต่างกันไป รวมถึงประเทศไทยเราที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย มีการกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ผู้นำสูงสุดของการบริหารประเทศไว้ในมาตรา 158 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญเช่นกัน
ขณะนี้มีแนวโน้มที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มาจากการแต่งตั้ง จะรณรงค์ให้แก้ไขมาตรา 158ให้วาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ถูกจำกัดต่อไป
การกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดประเทศ อาจไม่ใช่ตัวแปรสำคัญ แต่ขึ้นอยู่กับความมีจิตสำนึกของผู้ดำรงตำแหน่ง ที่ต้องเคารพกติกาที่เป็นนโยบายวางไว้แต่แรกก่อนเข้ารับตำแหน่งเสียมากกว่า
หากมีข้อจำกัดวาระที่กำหนดไว้ควรที่จะปฏิบัติตามแม้ว่าจะได้รับคะแนนเสียงความนิยมชมชอบในตัวบุคคลเมื่อครบกำหนดวาระก็ตาม
ความสง่างามเฉกเช่นในสมัยของนายกรัฐมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษอาวุโสที่ปฏิเสธการเชื้อเชิญการเข้ารับตำแหน่งเมื่อดำรงตำแหน่งครบวาระแล้ว (ท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ 3 มีนาคม 2523 จนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2531 รวมทั้งสิ้น 3 ครั้ง มีคณะรัฐมนตรีทั้งหมด 5 ชุด รวมเวลาทั้งสิ้น 8 ปี 5 เดือน หลังจากการปฏิเสธการรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป)
หากสมาชิกวุฒิสภาเป็นผู้ริเริ่มเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เปิดทางให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีวาระเกินกว่า 8 ปี ถือว่าไม่สง่างามเพราะสมาชิกวุฒิสภาไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่มาจากการแต่งตั้ง ควรจะให้เป็นเรื่องของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะมีต่อไปในอนาคต เป็นผู้ดำเนินการ
ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้นายกรัฐมนตรี มีวาระเกินกว่า 8 ปี ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในอนาคต เพราะจะทำให้นักลงทุนรายใหญ่ไม่แน่ใจในทิศทางเศรษฐกิจ และอาจชะลอการลงทุนโครงการขนาดใหญ่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี