วันพุธ ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / กฎ กติกา ธุรกิจ
กฎ กติกา ธุรกิจ

กฎ กติกา ธุรกิจ

รุจิระ บุนนาค
วันศุกร์ ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
กฎหมายป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ เกี่ยวกับเพศและความรุนแรง

ดูทั้งหมด

  •  

ข่าวเกี่ยวกับการกระทำความผิดอาญา ในความผิดเกี่ยวกับทางเพศ และการใช้ความรุนแรง โดยผู้ที่กระทำความผิดได้รับโทษจำคุกจนถึงที่สุด และพ้นโทษแล้ว แต่กลับกระทำความผิดซ้ำอีกในเรื่องเดิม สร้างความสะเทือนใจ และความกังวลใจให้แก่สังคมเป็นอันมาก

ไม่ว่าจะเป็นกรณีผู้ที่เคยกระทำความผิดฐานข่มขืน ได้รับโทษจำคุกจนพ้นโทษแล้ว ผ่านระยะเวลาอันสั้น กลับกระทำความผิดฐานข่มขืนอีก หรือกรณีที่ผู้กระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับโทษจำคุกจนพ้นโทษแล้ว กลับกระทำความผิดฐานฆ่าคนตายซ้ำอีก


ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาในสังคมว่า ผู้กระทำความผิดที่ได้รับโทษจำคุกในเรือนจำ ไม่ได้รับการกล่อมเกลาแก้ไขให้กลับมาเป็นคนดีสังคม และควรจะเฝ้าระวังเพื่อป้องกันไม่ให้คนประเภทนี้ กลับมากระทำความผิดเดิมซ้ำอีก

จึงเป็นที่มาของกฎหมายที่มีชื่อว่า พระราชบัญญัติมาตรการป้องกัน การกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2556 ซึ่งได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2566

กฎหมายฉบับนี้มุ่งควบคุมความผิดใน 3 กลุ่ม ได้แก่ เพศ, ชีวิตและร่างกายและการเรียกค่าไถ่

มาตรการพิเศษและการปฏิบัติตามกฎหมาย ได้แก่ (1) มาตรการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด รวมถึงมาตรการทางการแพทย์ (2) มาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ (3) มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ (4) การคุมขังฉุกเฉินโดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ที่กระทำความผิดในคดีฆาตกรรม การข่มขืนกระทำชำเรา การกระทำความผิดทางเพศกับ
เด็ก การทำร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย การทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส รวมทั้งการนำตัวบุคคลไปเรียกค่าไถ่

คุมขัง ตามความในกฎหมายนี้ หมายถึง การควบคุมนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ หรือผู้ถูกเฝ้าระวังไว้ในเขตกำหนดเพื่อป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ

มาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ เช่น ห้ามเข้าใกล้ผู้เสียหายจากการทำความผิด, ห้ามทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการกระทำความผิด, ห้ามเข้าเขตกำหนด, ห้ามออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล, ห้ามก่อให้เกิดอันตรายต่อละแวกชุมชนที่ตนพักอาศัย, ให้พักอาศัยในสถานที่ที่กำหนด, ให้พักอาศัยในสถานบำบัดที่กำหนด หรือให้ไปอยู่ภายใต้การดูแลในสถานบำบัดภายใต้การดำเนินการของหน่วยงานต่างๆ, ให้ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานหรือผู้ดูแลสถานที่พักอาศัยหรือสถานบำบัด, ให้มารายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ หรือได้รับการเยี่ยมจากพนักงานคุมประพฤติ หรืออาสาสมัครหรือเจ้าหน้าที่อื่นตามเวลาที่กำหนด, ให้ใช้มาตรการทางการแพทย์ หรือมาพบหรือรับการตรวจรักษาจากแพทย์, ให้เข้ารับการบำบัดฟื้นฟูแก้ไข หรือเข้าร่วมกิจกรรมตามที่กำหนด, ให้แจ้งพนักงานคุมประพฤติทราบถึงการเปลี่ยนสถานที่ทำงานหรือการเปลี่ยนงาน, ให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวในการเฝ้าระวัง

ระยะเวลาในการเฝ้าระวังตามมาตรการที่กำหนดไม่เกิน 10 ปีนับแต่วันพ้นโทษ

ในกรณีที่เป็นการสมควรใช้ มาตรการเฝ้าระวัง หรือคุมขังนักโทษเด็ดขาดที่พ้นโทษแล้ว อัยการต้องยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจ เพื่อให้ศาลมีคำสั่ง ตามที่เห็นสมควร โดยที่นักโทษเด็ดขาดมีสิทธิแต่งตั้งทนายความ เพื่อดำเนินการ
คัดค้านได้

กลไกสำคัญในการปฏิบัติตามกฎหมายประกอบด้วย5 หน่วยงานรัฐ คือ

(1) คณะกรรมการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ ทำหน้าที่วางข้อกำหนดนโยบายและให้คำปรึกษาในจัดทำร่างกฎหมายลำดับรอง (กฎกระทรวง ระเบียบ) เพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่

(2) สำนักงานศาลยุติธรรม จัดทำร่างข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการกำหนดมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง เพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติให้แก่
ตุลาการในการสั่งการ

(3) สำนักงานอัยการสูงสุด ร่างข้อบังคับของอัยการสูงสุดว่าด้วยการใช้มาตรการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด มาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษและการคุมขังฉุกเฉิน เพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติให้แก่พนักงานอัยการ

(4) กรมราชทัณฑ์ จัดทำร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิดซ้ำ ตามที่คณะกรรมการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำกำหนด และ

(5) กรมคุมประพฤติ จัดทำร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ การปฏิบัติเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง เพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติให้แก่เจ้าหน้าที่คุมประพฤติในการติดตามและเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังจากพ้นโทษ 

นอกจากนี้ยังมีการนำเทคโนโลยีและการสื่อสารยุคดิจิทัลตามนโยบายเทคโนโลยี 4.0 มาใช้ในการบริหารจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ด้านกระบวนการยุติธรรมที่ครอบคลุมถึงข้อมูลอาชญากรรมผู้กระทำผิดซ้ำ (Recidivism Data) ซึ่งหมายถึง ข้อมูลของผู้กระทำความผิดที่ได้รับการลงโทษจากหน่วยงานในกระบวนการฟื้นฟูด้านพฤติกรรม ได้แก่ กรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ รวมถึงกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ที่พ้นโทษแล้วกลับไปกระทำผิดซ้ำ ที่นับเป็นข้อมูลที่สำคัญต่อคณะกรรมการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในการกำหนดนโยบาย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม ในการกำหนดและดำเนินนโยบายที่เหมาะสม เนื่องจากข้อมูลเป็นตัวเลขที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัยของชุมชนและสังคม รวมถึงการวางแนวทางวิธีการจัดเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลการกระทำผิดซ้ำในระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพเชื่อมโยงใช้ประโยชน์ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศตามความร่วมมือในภูมิภาคอาเซียน +3 (ASEAN+3) คือ กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) กับประเทศอื่นนอก กลุ่มอาเซียนอีก 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศจีน ประเทศเกาหลีใต้ และประเทศญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาคเอเชียตะวันออกซึ่งในแต่ละประเทศมีวิธีการจัดเก็บข้อมูลที่แตกต่างกัน เพื่อใช้วิเคราะห์แนวโน้มในการวางนโยบายป้องกันและแก้ไขอาชญากรรม ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและขยายตัวออกไปยังสู่ความร่วมมือไปสู่ภูมิภาคอาเซียน ในการลดความรุนแรงการกระทำผิดซ้ำระหว่างประเทศร่วมกันในอนาคต

หากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายฉบับใหม่นี้อย่างจริงจัง จะช่วยแก้ไขปัญหาการทำความผิดอาญาซ้ำ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ และประเทศโดยส่วนรวม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
11:44 น. ภาพสุดระทึก! สะพานเปิดใหม่ถล่มในมณฑลเสฉวนของจีน
11:43 น. สนศ.ปลื้ม3โรงเรียนกทม.คว้า3รางวัลบน TIKTOK คลิปสั้นสวมหมวกกันน็อก
11:40 น. ของกลางอื้อ! รวบเจ้าของเว็บขาย'เซ็กส์ทอย-ยาปลุกเซ็กส์' ติดสติ๊กเกอร์โปรโมททั่วพัทยา
11:39 น. ดีใจที่ถูกเลือก! 'จู๊ด เบลล์'เปิดใจติดทีมชาติไทยหนแรก
11:35 น. ชป.ยืนยัน‘เขื่อนขุนด่านปราการชล’แข็งแรง คลื่นลมแรงทำ‘น้ำกระฉอก’ไม่ใช่ล้นเขื่อน
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 8-14 พ.ย.68
'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์ไอจีล่าสุด! ประกาศสถานะชัดทำชาวเน็ตแห่คอมเมนต์
แฟนบอลเตรียมตัว! เปิดช่องทางชมสด'หมอนทองวิทยา'ดวล'อบจ.ชัยนาท'
โพสต์นี้มีสะเทือน! 'เพลง ชนม์ทิดา'แชร์ข้อคิดถึงการโกหกกับความสัมพันธ์
ไม่ใช่ผู้ชาย! 'บิ๊กโจ๊ก'ตีวงแคบ แฉอดีตนายกฯ ตั้งฐานในต่างประเทศ รับเคลียร์พนันออนไลน์
ดูทั้งหมด
Bitcoin กับนโยบายแจกเงิน $2,000 ของทรัมป์ : เม็ดเงินใหม่ที่อาจหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดคริปโต
เทียบกำลังรบ‘สงครามไทย-กัมพูชา’
หยุดโกงใน 100 วัน (ตอนที่ 2) ถ้ามี ‘คู่มือรัฐบาลที่อยากโปร่งใสจริง’ มันจะดีไหม?
ขี้มรณะ
เริ่มปฏิบัติการทางทหาร !!!
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ภาพสุดระทึก! สะพานเปิดใหม่ถล่มในมณฑลเสฉวนของจีน

ของกลางอื้อ! รวบเจ้าของเว็บขาย'เซ็กส์ทอย-ยาปลุกเซ็กส์' ติดสติ๊กเกอร์โปรโมททั่วพัทยา

ดีใจที่ถูกเลือก! 'จู๊ด เบลล์'เปิดใจติดทีมชาติไทยหนแรก

ขนมจีบซาลาเปาทหารกินฟรี ชาวบ้านภูมิซรอล รอนายกฯ เด็ดขาดเรื่องชายแดน

ชป.ยืนยัน‘เขื่อนขุนด่านปราการชล’แข็งแรง คลื่นลมแรงทำ‘น้ำกระฉอก’ไม่ใช่ล้นเขื่อน

ปางช้างลูกดก! สวนนงนุชพัทยา ต้อนรับพี่น้องต่างครรภ์ สองลูกช้างเชือกใหม่

  • Breaking News
  • ภาพสุดระทึก! สะพานเปิดใหม่ถล่มในมณฑลเสฉวนของจีน ภาพสุดระทึก! สะพานเปิดใหม่ถล่มในมณฑลเสฉวนของจีน
  • สนศ.ปลื้ม3โรงเรียนกทม.คว้า3รางวัลบน TIKTOK คลิปสั้นสวมหมวกกันน็อก สนศ.ปลื้ม3โรงเรียนกทม.คว้า3รางวัลบน TIKTOK คลิปสั้นสวมหมวกกันน็อก
  • ของกลางอื้อ! รวบเจ้าของเว็บขาย\'เซ็กส์ทอย-ยาปลุกเซ็กส์\' ติดสติ๊กเกอร์โปรโมททั่วพัทยา ของกลางอื้อ! รวบเจ้าของเว็บขาย'เซ็กส์ทอย-ยาปลุกเซ็กส์' ติดสติ๊กเกอร์โปรโมททั่วพัทยา
  • ดีใจที่ถูกเลือก!  \'จู๊ด เบลล์\'เปิดใจติดทีมชาติไทยหนแรก ดีใจที่ถูกเลือก! 'จู๊ด เบลล์'เปิดใจติดทีมชาติไทยหนแรก
  • ชป.ยืนยัน‘เขื่อนขุนด่านปราการชล’แข็งแรง คลื่นลมแรงทำ‘น้ำกระฉอก’ไม่ใช่ล้นเขื่อน ชป.ยืนยัน‘เขื่อนขุนด่านปราการชล’แข็งแรง คลื่นลมแรงทำ‘น้ำกระฉอก’ไม่ใช่ล้นเขื่อน
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

MOU แร่แรร์เอิร์ธ ไทย-สหรัฐ ที่ล่องหน

MOU แร่แรร์เอิร์ธ ไทย-สหรัฐ ที่ล่องหน

7 พ.ย. 2568

ล้านแล้ว…..จ้า ได้หมด….ถ้าสดชื่น

ล้านแล้ว…..จ้า ได้หมด….ถ้าสดชื่น

31 ต.ค. 2568

ปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย

ปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย

24 ต.ค. 2568

บันไดหนีไฟ คอนโดฯ หนีตาย หรือหนีไปตาย?

บันไดหนีไฟ คอนโดฯ หนีตาย หรือหนีไปตาย?

17 ต.ค. 2568

หวยรัฐ เจ้าปัญหา

หวยรัฐ เจ้าปัญหา

10 ต.ค. 2568

ร่างกม.นิรโทษกรรมรุกป่า

ร่างกม.นิรโทษกรรมรุกป่า

3 ต.ค. 2568

ครม.ฮันนีมูน

ครม.ฮันนีมูน

26 ก.ย. 2568

อายัด เฉพาะยอดเงินบัญชีต้องสงสัย จริงหรือ?

อายัด เฉพาะยอดเงินบัญชีต้องสงสัย จริงหรือ?

19 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved