ข่าวดาราสาวไต้หวันและกลุ่มเพื่อนชาย ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยตรวจค้นที่ด่านหน้าสถานทูตจีน ถนนรัชดาภิเษก ย่านห้วยขวาง ถือเป็นข่าวใหญ่ระดับโลก เมื่อเธอนำเรื่องที่เกิดขึ้นเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียผ่านอินเตอร์เนต
เธออ้างว่า กลุ่มของเธอมีผู้ที่มีบุหรี่ไฟฟ้า โดยไม่ทราบว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย เพราะเห็นมีขายอยู่ทั่วไป และเห็นว่ามีคนสูบในประเทศไทยในที่สาธารณะกลุ่มของเธอถูกตำรวจเรียกรับเงินจำนวน 27,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว
จากการสอบสวนในภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจยอมรับว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีบุหรี่ไฟฟ้าจริง แต่ไม่ได้ดำเนินการจับกุม และได้ปล่อยตัวไปซึ่งต่อมาคลิปวีดีโอจากกล้องที่ติดตัวตำรวจในขณะเกิดเหตุจับกุม ได้ถูกทำลาย แม้จะกู้ภาพมาได้ แต่ไม่มีข่าว ที่ปรากฏชัดเจนว่า มีภาพเคลื่อนไหวและเสียง ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งนับว่าเป็นเหตุบังเอิญโดยแท้
เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะปล่อยตัวนักท่องเที่ยว ทั้งที่มีของผิดกฎหมาย แต่ไม่ได้ถูกดำเนินคดีในข้อหาเรียกรับเงินจากนักท่องเที่ยว
ในหลายประเทศ บุหรี่ไฟฟ้าไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย เช่น ประเทศจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น อิตาลี นิวซีแลนด์ เดนมาร์ก แคนาดา ฝรั่งเศส เกาหลีใต้
เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ไม่เคยมีการแจ้งเตือนให้ทราบอย่างเป็นทางการและชัดเจนว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศไทยนักท่องเที่ยวยิ่งสับสนหนักเข้าไปอีก เมื่อทราบว่า กัญชาซึ่งเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง ไม่ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย หากใช้เพื่อการบำบัดรักษา
กฎหมายที่เกี่ยวกับ บุหรี่ไฟฟ้า ในประเทศไทย มีดังนี้
การจำหน่าย : มีความผิด ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ระบุห้ามขาย ห้ามให้บริการบารากุ บารากุไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาเติมของทั้งสองชนิด โดยระบุว่าพบสารเคมีที่เป็นอันตรายหลายชนิด รวมถึงการสูบร่วมกันอาจทำให้เกิดโรคติดต่อ ผู้จำหน่ายมีความผิดและโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าเป็นผู้ประกอบธุรกิจในฐานะผู้ผลิต ผู้สั่ง หรือผู้ที่นำเข้ามาเพื่อขาย ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปีปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การนำเข้า : มีความผิด ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. 2557 ที่กำหนดให้กรมศุลกากรตรวจจับหากพบผู้ใดนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า หรือน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจะต้องรับผิดตาม พ.ร.บ.การส่งออกไปนอก และการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522มาตรา 20 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของสินค้าที่นำเข้าหรือส่งออก หรือทั้งจำทั้งปรับ ประกอบกับ มาตรา 242 และ 244 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560
การขายและให้บริการ : มีความผิด ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2558 ห้ามให้บริการผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า หากผู้ใดฝ่าฝืนขายบุหรี่ไฟฟ้า จะต้องรับผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 (ฉบับที่ 3) มาตรา 56 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในกรณีที่ผู้นำเข้าและผู้ขายเป็นคนเดียวกันจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การสูบในที่สาธารณะ : มีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 (มาตรา 3-13)
แต่การครอบครอง บุหรี่ไฟฟ้า (เพื่อใช้ส่วนตัว) กลับต้องอาศัย “การใช้ดุลยพินิจ” ของผู้บังคับใช้กฎหมายในประเทศไทย ซึ่งถือตาม มาตรา 246 ตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560
“ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 242 (นำเข้าหรือส่งออกโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ” (ทั้งที่ยังไม่แน่ใจว่ากรณีการกระทำผิดดังกล่าวอยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายให้ปฏิบัติหน้าที่จับกุมได้หรือไม่)
กรณีนี้จึงไม่มีกฎหมายไทยบัญญัติที่ชัดเจนว่า การครอบครอง การเสพย์ และการใช้บุหรี่ไฟฟ้า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีโทษ
เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศสิงคโปร์ที่มีกฎหมาย Chewing Gum Ban-1992 ที่กำหนดห้ามนำเข้า ห้ามจำหน่ายและห้ามมีหมากฝรั่งในครอบครอง หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์/ครั้ง การถ่มน้ำลายในที่สาธารณะ เป็นการกระทำผิดกฎหมาย มีโทษปรับ 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์/ครั้ง ที่มีความชัดเจนและเป็นที่ทราบโดยทั่วไปทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่เข้าไปในประเทศสิงคโปร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รักษากฎหมาย ของประเทศสิงคโปร์ ไม่ต้องตีความที่ยุ่งยาก เหมือนเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย เพราะกฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจนแล้ว
ดังนั้นในเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า จึงควรทำให้เกิดความชัดเจนทั้ง ในทางกฎหมายที่ใช้ควบคุม และการใช้บังคับตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดโอกาสเรียกรับผลประโยชน์อันมิชอบ และเกิดความสับสนแก่คนทั่วไป ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี