วันพุธ ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ผลการนับคะแนนเสียงเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา แม้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะยังไม่ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ เพราะจะต้องใช้เวลาอีก 60 วัน นับจากวันเลือกตั้งเสร็จสิ้นจึงจะรับรองผลการเลือกตั้ง เนื่องจากต้องรอว่า จะมีการร้องเรียนหรือการคัดค้านเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งหรือไม่
ในขณะนี้ต้องถือว่า พรรคก้าวไกลโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี หรือแคนดิเดตนายกฯ เป็นพรรคที่ได้รับการเลือกตั้ง ที่มีจำนวน สส.มากที่สุด จึงมีสิทธิที่จะจัดตั้งรัฐบาลก่อนเป็นพรรคอันดับแรก และพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีโอกาสที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปเป็นคนที่30 ของประเทศไทย
สถานการณ์ที่ปรากฏตามสื่อ จะเห็นว่าบรรดาพรรคการเมืองที่เคยเป็นขั้วฝ่ายค้าน สามารถรวมตัวกันได้เป็นอย่างดี และเปิดโอกาสให้พรรคก้าวไกลเป็นพรรคอันดับแรกที่จะจัดตั้งรัฐบาล
แม้ว่าขณะนี้สามารถรวมตัวกันได้ถึง 313 เสียง จากจำนวน สส.ในสภาทั้งหมดที่มี 500 เสียง หรือได้ถึง 63% ของจำนวนเสียงทั้งหมดที่มีอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร แต่ยังนับว่าไม่พอ ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี มาจากที่ประชุมร่วมกันระหว่าง สส. และวุฒิสมาชิก
จำนวน สส. มีทั้งหมด 500 เสียง(เป็น สส.เขต 400 เสียง และ สส.บัญชีรายชื่ออีก 100 เสียง) วุฒิสมาชิกมีทั้งหมด 250 เสียง รวมสองสภาเป็น 750 เสียง ดังนั้นผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต้องได้รับเสียงสนับสนุน จากทั้งสองสภารวมกัน อย่างน้อยครึ่งหนึ่งต้องไม่ต่ำกว่า 375 เสียง
แม้พรรคก้าวไกล จะมีเสียงในสภาผู้แทนราษฎรถึง 63% แต่คงไม่สามารถรวมกับพรรคอื่นเพื่อจับขั้วเป็นรัฐบาลเพิ่มได้อีก เพราะติดเงื่อนไข ที่พรรคก้าวไกล
ได้ประกาศตัวอย่างชัดเจนว่า จะเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เกี่ยวกับความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งพรรคการเมืองฝ่ายที่เหลือได้แสดงท่าทีอย่างชัดเจนแล้วว่า จะไม่แก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ดังกล่าว
แสดงว่าพรรคก้าวไกล จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกบางส่วน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จึงจะสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้
แม้ว่าพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะสามารถฝ่าด่านวุฒิสมาชิกมาได้ ยังจะต้องเผชิญวิบากกรรมเกี่ยวกับการถือหุ้นไอทีวี ซึ่งเป็นหุ้นสื่อมวลชนอย่างหนึ่งที่มีผู้ร้องเรียนต่อกกต.แล้วว่า เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญปัจจุบัน และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3)
กรณีนี้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถือหุ้นไอทีวีมาตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2562 แล้ว แต่กกต. ไม่เคยพิจารณาถึงเรื่องนี้ และไม่เคยมีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แม้จะอ้างว่า เป็นการถือหุ้นไอทีวีในฐานะผู้จัดการมรดกของบิดา แต่ พิธาลิ้มเจริญรัตน์ ยังมีสิทธิในหุ้นนั้นในฐานะทายาทโดยธรรมตามกฎหมายอยู่ดี
ประเด็นมีว่า แม้ไอทีวีจะเป็นหุ้นสื่อมวลชนที่ชัดเจน แต่ปัจจุบันไม่ได้ประกอบกิจการ เพราะไอทีวีได้เลิกกิจการไปแล้ว รวมทั้งได้ปลดพนักงานออกอีกด้วย แต่ไอทีวียังมีสถานะเป็นนิติบุคคลอยู่ เนื่องจากยังมีคดีความฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการผิดสัญญา ซึ่งยังรอผลคดีตามกฎหมายอยู่
หากพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะรอดผลจากวิบากกรรมนี้ จะเป็นกรณีเดียว ที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วมีความเห็นในประเด็นที่ว่า แม้หุ้นไอทีวี เป็นหุ้นสื่อมวลชนที่ต้องห้ามตามกฎหมาย แต่ปัจจุบันไม่ได้ประกอบกิจการสื่อมวลชนแล้ว การถือหุ้นไอทีวีดังกล่าว จึงไม่มีผลต่อการเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่มีลักษณะเป็นการชี้นำเพื่อประโยชน์ทางการเมือง
สิ่งที่เราต้องคำนึงมีว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้เป็นศาลที่เกี่ยวข้องกับทางกฎหมายแต่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นศาลที่เกี่ยวข้องกับทางการเมืองด้วย เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นศาลรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปกครองของประเทศจึงไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือหนีห่างจากการเมืองได้
ไม่ว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะรอดจากวิบากกรรม และจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่หรือไม่ก็ตาม สิ่งที่ปรากฏให้เห็นในขณะนี้คือ ตลาดหุ้นขานรับด้วย ราคาหุ้นตกลงอย่างมาก และต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนและนักธุรกิจที่เป็นเจ้าของกิจการ ต่างวิตกกังวลว่า นโยบายของรัฐบาลใหม่ที่จะเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำและเงินเดือนขั้นต่ำ ทางภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมจะไม่สามารถปฏิบัติตามได้ และอาจต้องทยอยปิดตัวหรือย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้านอื่น อย่างเช่น ประเทศเวียดนามที่มีค่าแรงถูกกว่ามาก
ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า รัฐบาลใหม่จะเรียกความเชื่อมั่นจากภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมกลับคืนมาได้อย่างไร
หนทางการเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่นี้ ยังอีกยาวไกล

กต.แถลง ปล่อยตัว18ทหารเชลยศึก กลับกัมพูชา ยึดหลักมนุษยธรรม-อนุสัญญาเจนีวา
ด่วน! ปล่อย18ทหารกัมพูชาแล้ว ตามถ้อยแถลงร่วมJS หลังหยุดยิง72ชม.
รวบวงจรนรก! นาวิกโยธินจับ6จีนเทาลอบข้ามแดน หวังใช้เทศกาลบังตาจนท.
ดร สามารถ ราชพลสิทธิ์ โพสต์ร่ายยาว วงการวิศวกรรมไทย บทเรียนที่ถูกลืม
ศรัทธาแกร่งกว่ากระสุน เผยภาพสุดอัศจรรย์ พระบรมรูป ร.5 ยังคงตระหง่านกลางซากปรักหักพัง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี