nn ต้องยอมรับว่าประเทศไทยมีความแข็งแกร่งและมั่นคงทางด้านอาหารเป็นอันดับต้นๆ ของโลกและเป็นผู้เล่นรายใหญ่อันดับต้นของโลกในอุตสาหกรรมอาหารและผู้ส่งออกสินค้าอาหารในตลาดโลกด้วยเช่นกัน โดยมูลค่าเฉลี่ยของการส่งออกสินค้ากลุ่มอาหารอยู่ที่ประมาณ 1.4-1.5 ล้านล้านบาทต่อปี และด้วยจากการคาดการณ์ขององค์การสหประชาชาติ ที่ระบุว่าโลกกำลังจะเผชิญกับวิกฤตการขาดแคลนอาหาร เพราะได้รับปัจจัยลบหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นภาวะวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาเศรษฐกิจโลกที่เข้าสู่ภาวะถดถอย ประชากรของโลกที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (จาก 8 พันล้านคนในปัจจุบัน สู่ 1 หมื่นล้านคน ในปี 2593) ฯลฯ ทำให้ประเทศไทยโดดเด่นขึ้นอีกมากในสายตาของคนในวงการอุตสาหกรรมอาหารจากทั่วโลก
สะท้อนได้จากการจัดงาน THAIFEX-ANUGA ASIA ที่ไทยจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาหลายปี ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารของไทยและทั่วโลกเพิ่มขึ้นทุกปี และล่าสุดในงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2023 มีผู้ประกอบการ ธุรกิจอาหาร อาหารแช่แข็ง และเครื่องดื่ม เข้าร่วมออกบูธในงานกว่า 3 พันราย จาก 40 ประเทศทั่วโลก ถือเป็นการเน้นย้ำให้ทั่วโลกเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะการเป็นฮับ (Hub) อาหารไทย อาหารโลก และเป็นผู้นำการผลิตและส่งออกอาหาร ที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก และงานนี้จะเป็นเวทีสำคัญแห่งปีที่ทำให้ผู้ประกอบการไทยได้พบปะ เจรจาการค้า ตลอดจนสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจกับผู้นำเข้าจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพิ่มโอกาสในการขยายตลาดส่งออกสู่ต่างประเทศ
ต้องบอกอย่างนี้ว่าแม้หลายๆ ประเทศจะมีนโยบายการพึ่งพิงอาหารภายในประเทศ (Food Self-Sufficiency) แต่เมื่อพิจารณาแนวโน้มจำนวนประชากร ก็คาดว่าจะไม่เพียงพอและประเทศไทยเองมีอุตสาหกรรมอาหารที่แข็งแกร่ง เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญมากมาย เช่น ข้าว ผัก ผลไม้ มันสำปะหลัง และยังมีความสามารถในการแปรรูป สามารถคิดค้นนวัตกรรมทางด้านอาหาร มีมาตรฐานด้านความปลอดภัย คำนึงถึงความยั่งยืน อีกทั้งสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญ คือ มีศักยภาพในการส่งออก จนได้ชื่อว่าเป็นครัวของโลก (Kitchen of the World) สะท้อนได้จากความสำเร็จใน ปี 2565 ที่ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารอันดับที่ 15 ของโลก มีมูลค่าการส่งออกถึง 1.36 ล้านล้านบาทขยายตัวเพิ่มขึ้น 22.7% จากปี 2564
โลกการค้า...ขอนำเอาภาคเอกชนไทยที่เข้ามาร่วมงานครั้งนี้มานำเสนอพอสังเขป อย่างกรณีของ บริษัท เอเซียติค อุตสาหกรรมเกษตร จำกัด เป็นผู้นำธุรกิจมะพร้าวครบวงจร โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้ ธีม Local to Global สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ Sharing Coconut Culture With The World โดยการใช้ผลิตภัณฑ์มะพร้าวสร้างสรรค์เมนูที่มีความน่าสนใจมากขึ้น และนำไปใช้ได้อย่างหลากหลาย เป็นการนำมะพร้าวขึ้นชื่อของไทยไปสู่วัฒนธรรมอาหารต่างๆ ในเมนูและเวทีระดับโลก
ขณะที่ เครือเฮอริเทจ นำเสนอสินค้าไฮไลท์จากหลากหลายแบรนด์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น บลูไดมอนด์ อัลมอนด์ เอ็กซ์ตรีม จากแบรนด์
บลูไดมอนด์ ป๊อปคอร์นคุณภาพ แบรนด์ วันเดอร์พัฟฟ์และด้วยการเติบโตของอาหารเพื่อสุขภาพที่สูงขึ้นในยุคดิจิทัล เครือเฮอริเทจจึงวางแผนกลยุทธ์การทำธุรกิจ โดยการอัปเดต Website และสื่อ Social Media อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกค้าทราบถึงรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ใหม่และโปรโมชั่นต่างๆ รวมถึงวางจัดจำหน่ายสินค้าตามช่องทางออนไลน์และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ
ด้าน บริษัท ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CPFGS บริษัทจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหาร รวมถึงกิจการร้านอาหร ธุรกิจขนมสัตว์เลี้ยง และช่องทางให้บริการด้านอาหารแบบครบวงจร (Food Solutions) ภายใต้บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้นำผลิตภัณฑ์นำเข้าและส่งออกแบรนด์ต่างๆ ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช เนื้อไก่ เนื้อหมู ไข่ไก่สด รวมถึงอาหารพร้อมรับประทานหลากหลายเมนู เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และกลุ่มเครื่องปรุงรสจากซีพี มาจัดแสดงในงาน ที่สำคัญ ผลิตภัณฑ์ที่นำมาจัดแสดงครั้งนี้ต่อคู่ค้า พันธมิตร และผู้บริโภคจะเป็นไปตาม 3 เสาหลักเพื่อมุ่งสู่การบริโภคอย่างยั่งยืน ได้แก่ นวัตกรรม (INNOVATION) สุขภาพ (WELLNESS) และการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและโลก (PLANET) เพื่อก้าวสู่“ศูนย์กลางด้านอาหารของโลก”
ส่วน บริษัท ซีพีแรม จำกัด นำเสนอศักยภาพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอาหาร จัดแสดงผลงานวิจัยด้านอาหาร (Biotech) โดยศูนย์วิจัยและบริการทดสอบ บริษัท ซีพี ฟู้ดแล็บ จำกัด อาหารแห่งอนาคต Plant-BasedDiet และผลิตภัณฑ์แบรนด์อื่นๆ ในเครือ อาทิ เจดดราก้อน เลอแปง เดลี่ไทย เดลิกาเซีย เลดี้เจน วีจีฟอร์เลิฟ (VG for Love) ฯลฯ ทั้งนี้ ตลาดเบเกอรี่เป็นตลาดใหญ่มีมูลค่าตลาดในปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท และยังคงขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละประมาณ 7% (ข้อมูลจากอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย) รวมถึงการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้ซีพีแรม เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ จึงมั่นใจในการเดินหน้าวางแผนการตลาดเชิงรุก ในการผนึกกำลังกับธุรกิจห้าดาว ออกเมนูใหม่เพื่อสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับลูกค้าที่ใส่ใจการเลือกบริโภคสินค้ามากขึ้น
และอีกหนึ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ...คือ เครือเบทาโกร ซึ่งในงานนี้ต่อยอดแนวคิด “BETAGRO Smart Solutions for Sustainable life” ด้วยการนำเสนอ “Intelligent Business Solution” ด้วยนวัตกรรมอาหารและผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มุ่งตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ประกอบการอาหาร ทั้งกลุ่มอาหารสด อาหารแปรรูป อาหารพร้อมปรุงและอาหารพร้อมทาน ควบคู่ไปกับการนำเสนอบริการแบบครบวงจรทั้งการให้คำปรึกษาทางธุรกิจ การแนะนำช่องทางการจัดจำหน่ายแบบค้าส่ง “Betagro Shop” และการขนส่งผ่านเครือข่ายโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ภายใต้ “KERRY COOL” เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความสำเร็จทางธุรกิจร่วมกัน สำหรับไฮไลท์บูธเบทาโกรในงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2023 ประกอบด้วย โซนนวัตกรรมอาหารและผลิตภัณฑ์คุณภาพ (Food Innovation) นำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพ ตั้งแต่เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา ไข่ไก่ อาหารพร้อมปรุง พร้อมทาน ผลิตภัณฑ์ไส้กรอกในหลากหลายแบรนด์ ทั้ง Betagro, S-Pure และ Itoham ที่เกิดจากความมุ่งมั่นและตั้งใจในการคิดค้นนวัตกรรมอาหารของเบทาโกร โดยเฉพาะการดีไซน์แพ็กเกจตอบโจทย์ความสะดวกสบาย และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค รวมทั้งคำนึงถึงการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โลกการค้า...ย้ำว่ามีภาคเอกชนของไทยที่หลายรายที่พร้อมจะผงาดขึ้นในอุตสาหกรรมของไทยและของโลก ดังนั้น สิ่งที่สำคัญคือ นโยบายของรัฐบาล ที่ต้องเข้าไปดูแลสนับสนุนการส่งออกอย่างเป็นรูปธรรม โดยใช้หลัก “รัฐหนุน เอกชนนำ” ให้เอกชนเป็นทัพหน้า ส่วนรัฐเป็นผู้สนับสนุน เพื่อช่วยลดอุปสรรคในการส่งออกให้มากที่สุด และต้องไม่ลืม การส่งเสริมซอฟต์ พาวเวอร์ (Soft Power) อาหารไทย เพื่อทำให้ผู้คนทั่วโลกรู้จักและชื่นชอบอาหารไทยที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ซึ่งจะนำไปสู่ความต้องการสินค้าและบริการของไทยมากขึ้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี