วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / โลกการค้า
โลกการค้า

โลกการค้า

วันพฤหัสบดี ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
Aftershock...เริ่มสะเทือนถึงการท่องเที่ยวไทย

ดูทั้งหมด

  •  

** ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC  ธ.ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 8.2 ริกเตอร์ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่เมียนมาในช่วงบ่ายของวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ส่งแรงสั่นสะเทือนรุนแรงมายังหลายพื้นที่ในไทยให้ได้รับผลกระทบในวงกว้างซึ่งรวมถึงเชียงใหม่และกรุงเทพฯ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทย โดยแม้ว่าสนามบินทั่วประเทศจะกลับมาใช้งานตามปกติโดยไม่มีนักท่องเที่ยวตกค้างหลังประกาศปิดให้บริการกว่า 1 ชั่วโมง รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังอยู่ในไทยส่วนใหญ่สามารถกลับเข้าที่พักได้หลังโรงแรมที่เป็นตึกสูงหลายแห่งได้รับการประเมินความปลอดภัยเบื้องต้นแล้ว แต่เหตุแผ่นดินไหวนี้ย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติทันทีโดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังเกิดเหตุ

 เหตุแผ่นดินไหวเริ่มส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวไทย สะท้อนจากตัวเลขการยกเลิกห้องพักในช่วง 2 วันหลังเหตุการณ์ของสมาคมโรงแรมไทยที่มีการยกเลิกห้องพักแล้วประมาณ 1,100 บุกกิงทั่วประเทศ โดยจากข้อมูลของผู้ประกอบการโรงแรม ห้องพักที่ถูกยกเลิกส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ อีกทั้ง การสำรวจยอดการจองห้องพักล่วงหน้าในช่วงสงกรานต์ (11-17 เมษายน 2025) ของสมาชิกสมาคมโรงแรมไทย 52 แห่ง ณ วันที่ 3 เมษายน 2025 ยังพบว่ายอดการจองห้องพักลดลงราว -25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY)  โดยชลบุรีมีการจองห้องพักลดลงสูงสุดที่ราว -67%YOY ตามด้วยกรุงเทพฯ -32%YOY สุราษฎร์ธานี -19%YOY และเชียงใหม่ -11% YOY 


ทั้งนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงอยู่ในช่วงเฝ้าระวังสถานการณ์ในไทยอย่างใกล้ชิดก่อนที่จะตัดสินใจเดินทาง ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมาจากรัฐบาลหลายประเทศออกประกาศแนะนำให้พลเมืองที่จะเดินทางมาไทยให้ติดตามข่าวสารในไทยอย่างใกล้ชิดและปฏิบัติตามคำแนะนำของรัฐบาลไทยอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลของสหราชอาณาจักร, สิงคโปร์ และแคนาดา อีกทั้ง รัฐบาลบางประเทศอย่างรัฐบาลไอร์แลนด์ได้ยกระดับให้ไทยเป็น ‘High degree of caution’ , รัฐบาลออสเตรเลียยกระดับไทยเป็น ‘Level 2: Exercise a high degree of caution’ และรัฐบาลมาเก๊ายกระดับไทยเป็น  ‘Level 1 Travel Alert’  เพื่อให้พลเมืองที่จะเดินทางมาไทยในช่วงนี้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

ในช่วงที่ผ่านมา เหตุแผ่นดินไหวในประเทศที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในเอเชียและภัยธรรมชาติที่เคยเกิดในไทยส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในระยะสั้นไม่เกิน 3 เดือน อ้างอิงจากข้อมูลผลกระทบด้านการท่องเที่ยวจากเหตุแผ่นดินไหวที่มีขนาดใกล้เคียงกับไทยของประเทศในเอเชียที่ผ่านมา อย่างเช่น แผ่นดินไหวขนาด 6.6 ริกเตอร์ ในฮอกไกโดของญี่ปุ่นในช่วงกันยายน 2018 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาญี่ปุ่นลดลงกว่า 4.2 แสนคนในเดือนกันยายน หรือราว -16%  เทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนก่อน (MOM)  ซึ่งเป็นการลดลงที่สูงกว่าการลดลงเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวตามฤดูกาล ที่อยู่ที่ -8%MOM อย่างไรก็ดี เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถฟื้นตัวกลับมาเติบโตในระดับเดิมได้ภายใน 2 เดือนเนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของญี่ปุ่นอย่างโตเกียว โอซากะ ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว ในขณะที่เหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.4 ริกเตอร์ที่ไต้หวันในช่วงเมษายน 2024 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปราว 2 แสนคนในเดือนเมษายนหรือลดลง -25%MOM ซึ่งเป็นการลดลงที่สูงกว่าการลดลงของนักท่องเที่ยว ตามฤดูกาลที่อยู่ราว -13%MOM แต่เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวในไต้หวันรุนแรงกว่าในญี่ปุ่น อีกทั้ง จุดที่เกิดแผ่นดินไหวห่างจากเมืองหลวงอย่างไทเปเพียง 156 กิโลเมตรจึงใช้เวลาถึงราว 3 เดือนกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมาเติบโต ในระดับเดิมได้

สำหรับในไทย ภัยธรรมชาติที่เคยเกิดขึ้นอย่างเหตุการณ์สึนามิในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2004 ที่สร้างผลกระทบ ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ภูเก็ต พังงา ระนอง กระบี่ ตรัง และสตูล ได้ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงราว 2.9 แสนคนในเดือนมกราคม 2005 หรือราว -26%MOM ซึ่งสวนทางจากภาวะปกติที่นักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนมกราคมจะเติบโตราว 2%-4%MOM ซึ่งเหตุการณ์นี้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถฟื้นตัวกลับมาเติบโตในระดับเดิมได้ภายใน 3 เดือน ส่วนเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ในช่วงปลายปี 2011 ซึ่งพื้นที่กรุงเทพฯ ก็ได้รับผลกระทบในครั้งนั้นด้วย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงราว 1.3 แสนคนในเดือนพฤศจิกายนหรือราว -9%MOM ซึ่งสวนทางจากภาวะปกติ ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเติบโตราว 10%-12%MOM ด้วยเช่นกัน แต่เหตุอุทกภัยครั้งนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถ ฟื้นกลับมาเติบโตได้ภายในเวลา 2 เดือน

แม้ว่าเหตุแผ่นดินไหวในไทยจะไม่รุนแรงเท่ากับในฮอกไกโดและไต้หวัน หรือเหตุสึนามิที่ผ่านมา แต่คาดว่าจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ลดลงราว 2 แสน - 7 แสนคนตลอดระยะเวลาฟื้นตัว โดยผลกระทบจะแตกต่างกันใน 3 กรณี ซึ่งทาง SCB EIC ประเมินผลกระทบเบื้องต้นจากเหตุแผ่นดินไหวต่อภาคการท่องเที่ยวไทย ณ วันที่ 1 เมษายน 2025 ไว้ 3 กรณี ได้แก่ Better case, Base case และ Worse case โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นในแต่ละกรณีจะประเมินภายใต้กรอบแนวทาง ดังนี้ 1. การลดลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนเมษายน 2025 ที่สูงกว่าการลดลงเฉลี่ยตามฤดูกาลท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนเมษายนในช่วงปี 2023-2024 ซึ่งอยู่ที่ราว -6%MOM และ 2. ระยะเวลาการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2025 ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 38.2 ล้านตามสมมติฐานในแต่ละกรณี

กรณีที่ 1 Better case : นักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนเมษายนลดลงราว -9%MOM และใช้เวลาฟื้นตัวราว 2 เดือน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2025 ลดลงจากประมาณการเดิมราว 1.95 แสนคนตลอดระยะเวลาฟื้นตัว สูญเสียรายได้จากค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติไปราว 9.53 พันล้านบาท กรณีที่ 2 Base case : นักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนเมษายนลดลงราว -12%MOM และใช้เวลาฟื้นตัวราว 3 เดือน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2025 ลดลงจากประมาณการเดิมราว 4.2 แสนคนตลอดระยะเวลาฟื้นตัว สูญเสียรายได้จากค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติไปราว 2.06 หมื่นล้านบาท กรณีที่ 3 Worse case : นักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนเมษายนลดลงราว -15%MOM และใช้เวลาฟื้นตัวราว 4 เดือน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2025 ลดลงจากประมาณการเดิมราว 6.8 แสนคนตลอดระยะเวลาฟื้นตัว สูญเสียรายได้จากค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติไปราว 3.30 หมื่นล้านบาท

การเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะช่วยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวในไทยได้เร็วขึ้น โดยภาครัฐควรเร่งตรวจสอบความปลอดภัยของโรงแรมและแหล่งท่องเที่ยว ที่เป็นอาคารสูงอย่างละเอียดไม่เพียงเฉพาะในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวอย่างกรุงเทพฯและเชียงใหม่ แต่ควรตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารสูงทั่วประเทศ พร้อมกับการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติว่าอาคารสูงในประเทศไทยต้องผ่านมาตรฐานการออกแบบอาคารต้านทานแผ่นดินไหว (มยผ.1301/1302-61) ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีศักยภาพรองรับแรงสั่นสะเทือน และมีมาตรฐานใกล้เคียงกับระดับสากล รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลอาคารที่ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยแล้ว โดยภาครัฐอาจพิจารณาออกตราสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายรับรองอาคารเพื่อช่วยในการสื่อสารข้อมูลให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เข้าใจง่ายขึ้น และภาครัฐควรเร่งพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินที่สามารถแจ้งเตือนเหตุกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างทันท่วงทีเพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสมและยังสามารถเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการแจ้งข่าวสารให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ การออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้เดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากการเรียกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับคืนมาอาจจะต้องใช้เวลากว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเติบโตได้ในระดับเดิม ดังนั้น การออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศให้ทันต่อสถานการณ์ เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน จะช่วยลดผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวจากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ อีกทั้ง ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้อีกทางหนึ่งด้วย

** SCB EIC **

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:23 น. เชิญชมเทศกาลศิลปะ ‘พระนคร ออน โอ่งอ่าง : หันน่าเข้าคลอง’ 11-13 ก.ค.นี้
13:23 น. อำลาเจลีก!บีจีดึง'เจริญศักดิ์'คืนทัพสู้ไทยลีก
13:19 น. (คลิป) 'ณัฐวุฒิ'แซะ! ดาบในมือศาลรัฐธรรมนูญ อาจเป็นอาวุธทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
13:19 น. 'พิธา' ของจริง หรือ ของปลอม? วิจารณ์แนวคิด'ขี้ข้าชาวตะวันตก' ไม่สอดคล้องความจริง
13:17 น. มีนบุรีชวนช้อปสินค้า 2 ตลาด สร้างรายได้ชุมชน
ดูทั้งหมด
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2568
‘มาครง’เผยคุย‘แพทองธาร’แล้ว ลั่นคนไทยไว้วางใจมิตรภาพจาก‘ฝรั่งเศส’ได้เสมอ
‘หม่อมปนัดดา‘ ปรากฏตัวกลางม็อบ ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ของดให้สัมภาษณ์สื่อ
แกว่งเท้าหาเสี้ยน! ปรากฏการณ์แฉโพย‘สายส้ม’เข้มข้น-ล่อนจ้อน
'ออสเตรเลีย'ออกคำเตือนพลเมืองมา'ไทย'หลังพบวัตถุต้องสงสัยหลายเมืองท่องเที่ยวภาคใต้
ดูทั้งหมด
ต้นสนยักษ์ร่วมสมัยกับฟาโรห์
‘คลิปเขมร’เหตุอัปยศ‘แพทองธาร’
รู้ทันคอร์รัปชันด้วยวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แค่ศีลธรรม
วาทกรรมเจ็บจี๊ด
อุ๊งอิ๊งค์ 2 ปรับ ครม. ฟอร์มาลีน
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อำลาเจลีก!บีจีดึง'เจริญศักดิ์'คืนทัพสู้ไทยลีก

'พิธา' ของจริง หรือ ของปลอม? วิจารณ์แนวคิด'ขี้ข้าชาวตะวันตก' ไม่สอดคล้องความจริง

(คลิป) 'ณัฐวุฒิ'แซะ! ดาบในมือศาลรัฐธรรมนูญ อาจเป็นอาวุธทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง

ตำรวจพะเยาไล่ล่าแก๊งค้ายา ยิงสกัดยึดยาบ้า 1.5 แสนเม็ด คนร้ายเผ่นหนีเข้าป่า

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศกระทรวงมหาดไทย ขอสละสัญชาติไทย จำนวน 195 ราย

มีประโยชน์ยามเกิดภัยพิบัติ! ‘บก.ลายจุด’แนะแจก‘พาวเวอร์แบงก์’เป็นของที่ระลึก

  • Breaking News
  • เชิญชมเทศกาลศิลปะ ‘พระนคร ออน โอ่งอ่าง : หันน่าเข้าคลอง’ 11-13 ก.ค.นี้ เชิญชมเทศกาลศิลปะ ‘พระนคร ออน โอ่งอ่าง : หันน่าเข้าคลอง’ 11-13 ก.ค.นี้
  • อำลาเจลีก!บีจีดึง\'เจริญศักดิ์\'คืนทัพสู้ไทยลีก อำลาเจลีก!บีจีดึง'เจริญศักดิ์'คืนทัพสู้ไทยลีก
  • (คลิป) \'ณัฐวุฒิ\'แซะ! ดาบในมือศาลรัฐธรรมนูญ อาจเป็นอาวุธทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง (คลิป) 'ณัฐวุฒิ'แซะ! ดาบในมือศาลรัฐธรรมนูญ อาจเป็นอาวุธทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
  • \'พิธา\' ของจริง หรือ ของปลอม? วิจารณ์แนวคิด\'ขี้ข้าชาวตะวันตก\' ไม่สอดคล้องความจริง 'พิธา' ของจริง หรือ ของปลอม? วิจารณ์แนวคิด'ขี้ข้าชาวตะวันตก' ไม่สอดคล้องความจริง
  • มีนบุรีชวนช้อปสินค้า 2 ตลาด สร้างรายได้ชุมชน มีนบุรีชวนช้อปสินค้า 2 ตลาด สร้างรายได้ชุมชน
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

โลกการค้า : 26 มิถุนายน 2566

โลกการค้า : 26 มิถุนายน 2566

26 มิ.ย. 2568

3ตลาดสำคัญในอาเซียนของสินค้าไทย ที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ

3ตลาดสำคัญในอาเซียนของสินค้าไทย ที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ

19 มิ.ย. 2568

ความเสี่ยง”ภาษีทรัมป์”ลากยาว  การค้าโลกไม่สมดุล...คือต้นตอของปัญหา

ความเสี่ยง”ภาษีทรัมป์”ลากยาว การค้าโลกไม่สมดุล...คือต้นตอของปัญหา

12 มิ.ย. 2568

โลกการค้า : 5 มิถุนายน 2568

โลกการค้า : 5 มิถุนายน 2568

5 มิ.ย. 2568

โลกการค้า : 29 พฤษภาคม 2568

โลกการค้า : 29 พฤษภาคม 2568

29 พ.ค. 2568

7-11 ยังเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ที่จะยกระดับSMEไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

7-11 ยังเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ที่จะยกระดับSMEไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

22 พ.ค. 2568

ผู้ประกอบไทยหันมาทางนี้ มีวิธีรับมือ” Reciprocal Tariffs “ มาฝาก

ผู้ประกอบไทยหันมาทางนี้ มีวิธีรับมือ” Reciprocal Tariffs “ มาฝาก

15 พ.ค. 2568

โลกการค้า : 8 พฤษภาคม 2568

โลกการค้า : 8 พฤษภาคม 2568

8 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved