วันศุกร์ ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ข่าวดังในสื่อต่างๆ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เกี่ยวกับภัยคอลเซ็นเตอร์ในช่วงเร็วๆ นี้ เป็นกรณีผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ช่องน้อยสีช่องหนึ่ง ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือมิจฉาชีพหลอกลวงและเสียเงินไปเป็นจำนวนกว่า 1,000,000 บาท
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้อ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ติดต่อมาเรื่องการเสียภาษีที่ดินประจำปีโดยแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการเสียภาษีที่ดินของผู้ประกาศข่าวได้อย่างถูกต้อง และอ้างว่าต้องอัปเดตข้อมูล เนื่องจากรายชื่อตกหล่น และยังแนะนำให้แอดไลน์เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ และไลน์ที่แอดได้ระบุชัดว่า เป็นไลน์ของกรมที่ดิน ซึ่งมีข้อความตอบกลับว่า เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนออนไลน์ และยังได้โทรเข้ามาหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชั่นของกรมที่ดินผ่านโทรศัพท์มือถือระบบแอนดรอยด์ จนถูกดูดเงินในโมบายแบงกิ้ง สูญเงินในบัญชีธนาคาร
ภายหลังที่ทราบว่า ถูกหลอก ผู้ประกาศข่าวจึงได้รีบติดต่อธนาคารไปเพื่อขออายัดบัญชีปลายทาง แต่ธนาคารบอกว่า ต้องแจ้งความก่อน เพื่อขอรหัสถึงจะสามารถอายัดบัญชีปลายทางได้
ต่อมา ผู้ประกาศข่าวจึงได้แจ้งความที่สถานีตำรวจ พนักงานสอบสวนจึงมีหนังสือแจ้งให้ธนาคารอายัดเงินไว้ ทำให้สามารถอายัดบัญชีได้ทันบางส่วน
นอกจากกรณีนี้ ยังมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันอีกมากกว่า20 รายแล้ว และพบว่า เป็นกรณีที่เหตุเกิดวันเดียวกัน คือ วันที่ 9 สิงหาคม 2566 อีก 3 ราย ระยะเวลาเกิดเหตุไล่เลียงกันมา ห่างกันในแต่ละรายประมาณ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่ 9 โมงเช้าไปจนถึงช่วงเที่ยง ซึ่งทุกรายนั้นจะใช้กลโกงเดียวกันคืออ้างว่าเป็นกรมที่ดิน และถูกดูดเงินไป
ที่ผ่านมาผู้เสียหายทุกราย จะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือมิจฉาชีพหลอกให้ทำธุรกรรมการเงินหรือโอนเงินเข้าบัญชีปลายทางที่เป็นบัญชีม้า ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากธนาคารที่เป็นของบุคคลอื่น ซึ่งเป็นตัวแทนหรือเรียกว่า นอมินี
กรณีที่เกิดขึ้น คนเป็นจำนวนมากอาจจะยังไม่ทราบว่า การแจ้งอายัดบัญชีปลายทางหรือบัญชีม้า มีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คือ พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและ
ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2566
กฎหมายนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนที่ถูกหลอกลวงสามารถแจ้งไปที่ธนาคารโดยตรง เพื่อให้ธนาคารระงับบัญชีได้ทันที จากเดิมที่ต้องไปแจ้งความก่อน
มาตรา 7 แห่งพระราชกำหนดฯ ดังกล่าว ได้บัญญัติไว้ว่า “ในกรณีที่สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจได้รับแจ้งจากผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ถือบัญชีเงินฝากหรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ว่า ได้มีการทำธุรกรรมโดยบัญชีเงินฝากหรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวและเข้าข่ายเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวมีหน้าที่ระงับการทำธุรกรรมนั้นไว้ชั่วคราว พร้อมทั้งนำข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือกระบวนการเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลตามมาตรา 4 เพื่อให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจผู้รับโอนทุกทอดทราบและระงับการทำธุรกรรมดังกล่าวไว้ทันที และแจ้งให้ผู้เสียหายไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายใน 72 ชั่วโมง เมื่อมีการร้องทุกข์แล้ว ให้พนักงานสอบสวนแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับการทำธุรกรรมไว้ทราบ และให้พนักงานสอบสวนพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากและบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งความร้องทุกข์ หากไม่มีคำสั่งให้ระงับการทำธุรกรรมไว้ต่อไปภายในเวลาดังกล่าว ให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจยกเลิกการระงับการทำธุรกรรมนั้น”
เมื่อพิจารณาข้อกฎหมายดังกล่าวข้างต้นแล้ว จะเห็นได้ว่า เมื่อธนาคารได้รับแจ้งจากผู้เสียหายเจ้าของบัญชีว่า ถูกหลอกให้ทำธุรกรรมการเงินหรือโอนเงิน ทุกธนาคารมีหน้าที่อายัดบัญชีธนาคารได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ประชาชนไปแจ้งความยังสถานีตำรวจก่อน
การอายัดบัญชีดังกล่าวนั้น ธนาคารต้องครอบคลุมทั้งบัญชีธนาคารที่มีสมุดบัญชีและบัญชีธนาคารออนไลน์ เพื่อระงับเหตุไม่ให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง
กฎหมายฉบับนี้จึงเป็นกฎหมายสำคัญ ที่รัฐบาลผลักดันออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ และปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ทั้งหมด
ในทางปฏิบัติที่ผ่านมา ถึงแม้กฎหมายดังกล่าวจะบังคับใช้แล้ว แต่ยังมีหลายกรณี เมื่อผู้เสียหายติดต่อธนาคารเพื่อขออายัดบัญชีปลายทาง ธนาคารกลับแจ้งว่า ต้องแจ้งความก่อนจึงจะดำเนินการอายัดให้ได้
ทั้งที่กฎหมายกำหนดไว้ให้อำนาจธนาคารแล้ว แต่กลับไม่สามารถระงับการทำธุรกรรมการเงินได้ทันท่วงที ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก และไม่มีใครรับผิดชอบในความเสียหายนี้ได้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งมีหน้าที่คอยกำกับดูแลธนาคารต่างๆ ควรมีมาตรการที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม
พระราชกำหนด เพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดความเสียหายได้อย่างทันท่วงที หรือเพื่อระงับความเสียหายให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด
ในส่วนของประชาชนเอง ควรนำเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์ไว้เตือนสติให้มีความระมัดระวังอย่างมากในสถานการณ์ที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยมิจฉาชีพเช่นนี้
กรณีจำเป็นจะต้องติดต่อธนาคารเพื่อแจ้งขออายัดบัญชีปลายทาง ควรดำเนินการให้มีหลักฐาน หรือพยานรู้เห็นและบันทึกการสนทนาไว้ด้วย ซึ่งหากธนาคารปฏิเสธดำเนินการให้ โดยอ้างว่า ต้องไปแจ้งความก่อน และต่อมาเกิดความเสียหายโดยไม่สามารถระงับไว้ได้ทัน จะได้มีหลักฐานไว้เพื่อดำเนินการกับธนาคารเพื่อหาผู้ร่วมรับผิดชอบต่อไป
ทางที่ดีที่สุด เจ้าของบัญชีธนาคารควรจะหาทางป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตั้งแต่ต้น อย่าคาดหวังว่า จะมีใครแก้ปัญหาที่ปลายเหตุให้ตนได้ทั้งหมด
ไม่มีใครสามารถปกป้อง เจ้าของบัญชีธนาคาร ได้ดีเท่าตัวเอง

ยกเว้น 'ค่าไฟ' เดือน พ.ย. 68 ในพื้นที่ จ.สงขลา บรรเทาความเดือดร้อนน้ำท่วม
เจนสุดาเดือด โพสต์ฟาดแรงถึงผู้ใหญ่ หยุดลากเด็ก ทำคอนเทนต์เรียกคะแนนสงสาร
สรุปดราม่า พนักงานไดกิ้น หยุดงานประท้วงเรียกร้องเงินโบนัส ทองคำ จากบริษัท
อนุสรณ์ จี้ อนุทิน ไม่ควรเอาเรื่องแก้ รธน. มาเป็นตัวประกัน
อนุสรณ์ จับโป๊ะ อนุทิน ปมภาพหลุด ร่วมเฟรม เบน สมิธ ให้ภาพเล่าเรื่อง ทำไมถึงปราบสแกมเมอร์ไม่ได้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี