เวทีการประชุมเอเปก 2023 เมื่อไม่นานมานี้ นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ได้ประกาศว่า ประเทศไทยพร้อมรับการลงทุนจากทุกชาติและทุกรูปแบบ โดยรัฐบาลไทยกำลังขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่ เป็นการพัฒนาระบบขนส่งข้ามทะเล เพื่อเชื่อมต่อทะเลฝั่งอันดามันกับฝั่งอ่าวไทยเรียกชื่อว่า “โครงการแลนด์บริดจ์” (Landbridge) เพื่อทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและคมนาคมขนส่ง ซึ่งจะเป็นโอกาสการลงทุนสำหรับต่างชาติ
โครงการนี้ มีมาตั้งแต่สมัยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนก่อน เป็นหัวหน้ารัฐบาล และถือเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลชุดใหม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ และสานงานต่อเพื่อผลประโยชน์ประเทศชาติ
อาจจะกล่าวได้ว่า โครงการแลนด์บริดจ์ เป็นโครงการสืบเนื่องแนวคิดในทิศทางเดียวจากโครงการขุดคลองไทย (คอคอดกระ) ในพื้นที่แถบเดียวกันนี้ในยุคอดีต ซึ่งมีอุปสรรคข้อจำกัดในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านโอกาสการลงทุน เงื่อนไขข้อตกลงระหว่างประเทศ และรวมถึงเทคโนโลยีในการก่อสร้างระบบโลจิสติกส์
โครงการแลนด์บริดจ์ จะเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งหลายรูปแบบ ระบบถนน สะพาน ระบบราง เชื่อมโยงจากท่าเรือสองฟากฝั่ง จากระนอง ไปชุมพรระยะทางราว 100 กิโลเมตร มีมูลค่าการลงทุนราว 1 ล้านล้านบาท หากการดำเนินการโครงการสำเร็จ จะเทียบเท่ากับเส้นทางเดินเรือเส้นใหม่ของโลกแก้ไขปัญหาการจราจรทางเรือผ่านช่องแคบมะละกาที่ถูกกว่า เร็วกว่า และปลอดภัยกว่า การขนส่งสินค้าผ่านแลนด์บริดจ์ จะช่วยลดเวลาการเดินทางโดยรวม 4 วัน และลดต้นทุนโดยเฉลี่ยได้ถึง 15% เป็นโอกาสที่สอดรับกับโครงการสร้างเส้นทาง ONE BELT ONE ROAD ของประเทศจีน โดยมีแผนจะยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญสำหรับการผลิตและการขนส่งสู่ตลาดโลกในอนาคตต่อไป
รัฐบาลได้เริ่มเดินสายโรดโชว์ประชาสัมพันธ์โครงการรับฟังความคิดเห็นนักลงทุนต่างประเทศ ทั้งในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน โดยจะให้สัมปทานเป็นระยะเวลา 50 ปี จากนั้นจะจัดทำร่างกฎหมาย พ.ร.บ.ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) ซึ่งมีเค้าโครงบริบทแบบคล้ายกับ EEC ภาคตะวันออก
โครงการแลนด์บริดจ์ จะก่อให้เกิดการพัฒนาจะครอบคลุมพื้นที่จังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช คาดการณ์เบื้องต้น เกิดการจ้างงานในพื้นที่ท่าเรือน้ำลึก จำนวนราว 280,000 ตำแหน่ง โดยแบ่งเป็น จังหวัดระนอง จำนวนราว 130,000 ตำแหน่ง และ จังหวัดชุมพรจำนวนราว 150,000 ตำแหน่ง ทำการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน เวนคืนที่ดิน เริ่มการก่อสร้าง จนกระทั่งเปิดให้บริการคาดว่าจะใช้เวลานานถึงเดือนตุลาคม 2573
ในภาพรวม แลนด์บริดจ์ เป็นโครงการที่ใช้เทคโนโลยีการขนส่งผสมผสานที่มีในปัจจุบัน ซึ่งสะดวกและง่ายกว่าในการก่อสร้าง การปรับสมดุลสภาพสิ่งแวดล้อมทั้งยังทำให้มีการลงทุนและบำรุงรักษาได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับ คลองปานามา และคลองสุเอซ มิได้เป็นการแข่งขันกับเส้นทางการเดินเรือที่มีอยู่เดิม อันจะเป็นทางเลือกในการขนส่งสินค้า กล่าวคือ ผู้ขนส่งสินค้ารายใดจะใช้การขนส่งสินค้า โดยแลนด์บริดจ์ ก็สามารถกระทำได้ หรือประสงค์จะเดินเรือผ่านเส้นทางช่องแคบมะละกาใช้เวลา 3-5 วัน แบบเดิม ก็กระทำได้อย่างเสรี ไม่ผูกขาด เป็นช่องทางพัฒนาประเทศและสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอีกทางหนึ่ง มิใช่เป็นการตัดหน้าแข่งขัน ผูกขาดกิจการของประเทศเพื่อนบ้านที่มีอยู่เดิม
โครงการแลนด์บริดจ์นี้ถือว่า ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น เป็นเพียงการศึกษาข้อมูล และการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการว่า จะคุ้มค่าและคุ้มทุนหรือไม่ หากดำเนินการต่อไปเพราะโครงการมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านบาท
สภาผู้แทนราษฎรได้แต่งตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) หรือที่เรียกกันว่า คณะกรรมาธิการแลนด์บริดจ์
คณะกรรมธิการชุดนี้ประกอบด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมทั้งนักวิชาการ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า สส.ก้าวไกล 4 คน และนักวิชาการ 1 คน ได้ชิงลาออกในวันสุดท้าย ที่จะลงมติพิจารณาอนุมัติรายงานผลการศึกษาโครงการนี้ โดยไม่มีการขยายเวลาวาระการทำงาน หลังจากทำการพิจารณาข้อมูลความเป็นไปได้โครงการผ่านมาเป็นเวลา 90 วัน ภายใต้งบประมาณราว 68 ล้านบาท โดยให้เหตุผลที่ลาออกว่า รายงานการศึกษาโครงการมีปัญหา ขาดความรอบด้าน แต่ในที่สุดคณะกรรมาธิการเห็นชอบด้วยคะแนน 20 เสียง และไม่เห็นชอบเพียง 2 เสียง
ความจริงแล้ว คณะกรรมาธิการแลนด์บริดจ์ชุดนี้มีอำนาจหน้าที่เพียงศึกษาข้อมูลขั้นต้นเท่านั้น ไม่ใช่การอนุมัติโครงการแลนด์บริดจ์ทั้งโครงการ การจะอนุมัติโครงการยังต้องผ่านอีกหลายขั้นตอน รวมทั้งผ่านมติเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
การที่สส.ก้าวไกลชิงลาออกจากคณะกรรมาธิการ ทำให้ประชาชนและประเทศชาติสูญเสียโอกาส ที่จะได้รับฟังความคิดเห็นดีๆ และมีประโยชน์จากสส.ก้าวๆ ไกลในฐานะพรรคฝ่ายค้าน เพราะยังมีโอกาสแสดงบทบาท และความคิดเห็นท้วงติงในฐานะกรรมาธิการได้อีกหลายวาระ
การตัดสินใจลาออกจากคณะกรรมาธิการแลนด์บริดจ์ของสส.ก้าวไกลในครั้งนี้ อาจถูกใจด้อมส้มบางส่วนแต่ที่แน่ๆ ได้สร้างความผิดหวังและหาวเรอให้แก่ บรรดาคอการเมืองที่ติดตามพรรคก้าวไกล และที่กำลังคิดว่า จะเปลี่ยนใจมาสนับสนุนพรรคก้าวไกลกับเขาบ้าง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี