เอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 หรือหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามกฎหมายพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2532 เป็นที่ดินที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดสรรออกเอกสารสิทธิมอบให้แก่เกษตรกรไทยเพื่อใช้เป็นที่ทำกสิกรรม
ส่วนที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นที่ดินสงวนอนุรักษ์ไว้ให้ยังคงสภาพเป็นผืนป่า เพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่อาจให้เป็นเอกสิทธิผู้ใด ตามกฎหมายพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 เป็นที่ให้ต้นไม้ใหญ่และบรรดาสัตว์ป่าได้อาศัย ให้คนไทยทั้งหลายได้มีผืนป่าสร้างออกซิเจนใช้หายใจ ลดมลภาวะคาร์บอน ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ดูแล
รัฐบาลปัจจุบันได้มีนโยบายยกระดับ ส.ป.ก. 4-01 ให้เป็น “โฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม” ด้วยการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการใช้สอยให้แก่ผู้ครอบครองเข้าทำประโยชน์ให้มากขึ้น เช่น เป็นหลักประกันเงินกู้ได้, โอนเปลี่ยนมือระหว่างเกษตรกรด้วยกันเองได้ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ที่ดิน ส.ป.ก. กลับกลายเป็นประเด็นเขตที่ดินทับซ้อนกับที่ดินเขตป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เกิดเป็นข้อพิพาทระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐในสังกัดของทั้งสองกระทรวง
แต่ละฝ่ายต่างอ้างพยานหลักฐานมายืนยันขอบเขตที่ดินที่ปักหมุด ส.ป.ก. ลงไปแล้ว หากไม่ใช่ที่ดินรุกล้ำเขตป่าอุทยานแห่งชาติ จะยึดถือขอบเขตที่ดินตามแผนที่ของฝ่ายใด จะยึดถือความถูกต้องของขอบเขตที่ดิน ตามแผนที่ในเว็บไซต์ของสำนักจัดการแผนที่และสารบบที่ดิน มีการกำหนดพื้นที่สำหรับการปฏิรูปที่ดินเข้ามาในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ของกรมอุทยานแห่งชาติ หรือแผนที่เขตที่ดิน ส.ป.ก. ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่ทำโดยกรมแผนที่ทหาร ที่จะให้หน่วยงานราชการยึดถือแผนที่เพียงฉบับเดียว ที่เรียกว่าOne Map ซึ่งคณะรัฐมนตรีสมัยรัฐบาล คสช. มีมติเห็นชอบไว้วันที่ 22 กันยายน 2558
แต่หาก โฉนด ส.ป.ก. ออกมาทับซ้อนกับที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จริงโดยการพิสูจน์อย่างถูกต้อง โฉนด ส.ป.ก. จะต้องถูกเพิกถอน แม้จะมีเอกสารสิทธิ ส.ป.ก ออกให้แล้วก็ตาม (แนวคำพิพากษาศาลปกครองเพชรบุรีคดีหมายเลขดำที่ 29/2562 คดีหมายเลขแดงที่ 123/2563)
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ เป็นผู้แสดงตัวออกมาปกป้องผืนป่าอุทยาน ไม่เพียงที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ยังรวมถึงท้องที่ภูมิภาคอื่นด้วย เนื่องจาก นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ไม่เชื่อถือเขตตำแหน่งที่ดินของกรมแผนที่ทหาร เพราะเห็นว่ามีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากแผนที่ของกรมแผนที่ทหารไม่ได้ยึดโยงกับหมุดที่ดินที่มีอยู่เดิม ทำให้แนวเขตของอุทยานแห่งชาติมีความคลาดเคลื่อนไปจากเดิม พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า สิทธิ ส.ป.ก. พิพาทที่ออกให้นั้น พบข้อมูลส่อเค้าว่า มีนักธุรกิจ และนายทุนบางคนครอบครองและใช้ประโยชน์ ซึ่งมิใช่เกษตรกรตามเงื่อนไขของกฎหมายนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ได้เข้าไปถอดถอนหมุด ส.ป.ก. ที่ปักแสดงเขตไว้
เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงของการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส.ป.ก. ได้แจ้งความดำเนินคดีอาญานายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร เอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 159 และพระราชบัญญัติปราบปรามการทุจริต เพราะมั่นใจในความแม่นยำของกรมแผนที่ทหาร จึงเป็นความขัดแย้งในขอบเขตอำนาจหน้าที่ จากการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างของเจ้าหน้าที่รัฐด้วยกันเอง
แม้กรมแผนที่ทหาร ได้เข้าตรวจสอบ และแถลงในเบื้องต้นว่า โฉนด ส.ป.ก. พิพาทดังกล่าวไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานเขาใหญ่ แต่กลับมีเสียงคัดค้านมากมายจากหลายฝ่ายว่า ไม่น่าจะถูกต้อง หากหาข้อยุติไม่ได้ และคดีอาญาของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร จะต้องดำเนินต่อไป จะมีการนำสืบ และแสดงพยานหลักฐานให้เป็นที่ปรากฏต่อศาลว่า นายชัยวัฒน์ลิ้มลิขิตอักษร ได้กระทำผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งจะต้องเชื่อมโยงกับประเด็นว่า แนวเขตอุทยานแห่งชาติตามแผนที่ของกรมแผนที่ทหารถูกต้องหรือไม่ และแนวเขตที่ถูกต้องจะเป็นอย่างไร ซึ่งศาลจะต้องเป็นผู้วินิจฉัย
ประชาชนเจ้าของประเทศ ที่หวงแหนผลประโยชน์ของประเทศ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า นับเป็นเหตุบังเอิญโดยแท้ ที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ดิน ส.ป.ก.เป็นโฉนด ส.ป.ก. ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย และเป็นเหตุบังเอิญโดยแท้ที่เหลือเชื่ออีกเช่นกันว่า อาจมีผู้ได้ประโยชน์จากปรากฏการณ์นี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี