บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอล หรือ BCH จากการเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์ของ BCH หลังประกาศงบ 4Q66 ที่โรงพยาบาลเวิลด์ เมดิคอล (WMC) ในวันที่ 15 มีนาคม 2567 ซึ่งมี สาระสำคัญๆ ดังนี้
i) คาดการเติบโตต่อเนื่องในปี 2567F ผู้บริหาร BCH คาดรายได้ปี 2567 เติบโต YoY เป็นเลขสองหลัก ได้แรงหนุนจาก i) การเติบโตในส่วนของสิทธิประกันสังคม (SSO) ปรับเพิ่ม10.2% จากระดับเดิมในส่วนของค่าเหมาจ่ายรายหัวตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 อีกทั้งยังได้โควตา SSO อีก 3.14 แสนราย (+20.4% YoY)จะทำให้โควตาสูงสุดในปี 2567 อยู่ที่ 1.856 ล้านราย ii) ความถี่ในการตรวจร่างกายประจำปีมากขึ้นจากผู้ลงทะเบียนที่มีอายุ 35 ปี (เทียบกับ 55 ปีก่อนหน้านี้) บริการทดสอบประสิทธิภาพการนอนหลับ (40% ของสมาชิก SSO) บริการทันตกรรมเคลื่อนที่ (สำหรับกรณีรับรักษา >20 คน/วัน) การปลูกถ่ายไขกระดูก และ iii) รายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติที่ WMC แข็งแกร่ง
ii) สนับสนุนบริการด้านการแพทย์ในประเทศไทย เมื่อเปรียบเทียบราคาค่าบริการทางการแพทย์กับคู่แข่งรายอื่นๆ ในภูมิภาค นับได้ว่าไทยคิดค่าบริการถูกกว่าประเทศอื่น ๆ ราว 25-30%ขณะที่การปรับราคาค่าบริการทางการแพทย์จะทำได้โดยต้องผ่านกระบวนการของกรมการค้าภายในเสียก่อน นอกจากนั้นลิเบียเป็นประเทศใหม่ที่ผู้ป่วยชาวลิเบียจะเดินทางเข้ามารับการรักษาที่ BCH โดยสามารถไปเรียกเก็บบิลในจำนวนเงินที่สูงจากรัฐบาลของลิเบียได้ ดังนั้น BCH คาดว่ารายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติจะเติบโตได้มากกว่า 10% YoY ในปี 2567F
ในปี 2567 เราคิดว่าทั้งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล อรัญประเทศและโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ จะมีกำไรสุทธิช่วง 4Q67F (จากกำไรระดับ EBITDA อยู่ที่ 59.8 ล้านบาทปี 2566) นอกจากนี้ BCHจะไม่มีผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจากโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์แล้วหลังชำระคืนหนี้เงินกู้ 480 ล้านบาทไปใน 4Q66
เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567F ที่ 1.81 พันล้านบาท(+28.8% YoY) และที่ 2.17 พันล้านบาท (+19.8% YoY) ในปี 2568F หนุนจาก i) รายได้เติบโตต่อเนื่องโดยเพิ่ม 13.3% YoYและ 7.0% YoY ตามลำดับ และ ii) อัตรากำไรขั้นต้นแข็งแกร่งที่ 32.0% และ 33.0% (จาก 30.8% ในปี 2566) BCH ยังคงเป็นหนึ่งในหุ้นเด่นของเราในกลุ่มโรงพยาบาล จากการฟื้นตัวแข็งแกร่งและยังคงมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว เราคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย DCF ปี 2567 เดิมที่ 26.00 บาท
ปัจจัยเสี่ยงจาก COVID-19 ระบาด ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองรอบใหม่ในไทยและเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งใหญ่
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี