วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ll “ฉลากอาหาร” ถือเป็น “หัวใจ” สำคัญของสินค้าเพื่อการบริโภค เพราะคือสิ่งที่จะช่วยบ่งบอกถึงรายละเอียดและส่วนประกอบสำคัญในตัวสินค้า ที่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค แต่ฉลากอาหารที่ใช้อยู่ในปัจจุบันอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ที่หันมาสนใจในเรื่องของโภชนาการอาหารเพิ่มมากขึ้นทางกระทรวงสาธารณสุข จึงได้มีการปรับปรุง แก้ไขเพิ่มเติม ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 445-448 เกี่ยวกับฉลากโภชนาการ, อาหารที่ต้องแสดงฉลากโภชนาการ ค่าพลังงาน น้ำตาล ไขมันและโซเดียม แบบจีดีเอ (GDA : Guideline Daily Amount), การกล่าวอ้างทางสุขภาพของอาหารบนฉลาก และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2567
จากสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจากนี้อีกไม่นาน...บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น-อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ในฐานะหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนและส่งเสริม SME อย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์ 7 สนับสนุน SME จึงได้จัดสัมมนาพิเศษ “เตรียมความพร้อมด้านฉลากสินค้าตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 445-448” ให้กับผู้ประกอบการ SME และผู้ประกอบการรายใหญ่ ที่เป็นคู่ค้าและผู้ที่สนใจทั่วไปได้ update ข้อมูล โดยมี นางสาวนฤมล ฉัตรสง่าผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอาหารและการบริโภคอาหารจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข มาเป็นผู้ให้ความรู้ เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการในการปรับตัวให้ทันต่อกฎหมายใหม่ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการจำหน่ายสินค้า เพราะเมื่อถึงกำหนดบังคับใช้ฉลากอาหารฉบับใหม่แล้วผู้ประกอบการที่ไม่เปลี่ยนฉลาก สินค้าก็จะถูกถอนออกจาก Shelf จำหน่ายโดยอัตโนมัติในทันที
โดยใจความสำคัญของประกาศทั้ง 4 ฉบับ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริโภครับทราบถึงข้อมูลชนิดและปริมาณสารอาหารที่ได้รับจากการบริโภค เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบปริมาณสารอาหารกับอาหารประเภทเดียวกันได้ พร้อมรายละเอียดต่างๆ กำหนดคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ตลอดจนหลักเกณฑ์ในการกล่าวอ้างทางสุขภาพของอาหาร
1.รูปแบบกรอบข้อมูลโภชนาการ : ต้องเป็นกรอบแบบมาตรฐาน (ไม่มีกรอบแบบย่อ) กรณีนอกเหนือจากรูปแบบที่กำหนด ต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยารวมถึงมีการปรับข้อความ “หนึ่งหน่วยบริโภค” และ “จำนวนหน่วยบริโภค” เป็น “กินได้.. ครั้งต่อ...”ตลอดจนกำหนดจำนวนรายการสารอาหารบังคับน้อยลง จาก 15 รายการ เป็น 9 รายการ ได้แก่พลังงาน ไขมันทั้งหมด ไขมันอิ่มตัว คอเลสเตอรอล โปรตีน คาร์โบไฮเดรต น้ำตาลทั้งหมด โซเดียม และโพแทสเซียมพร้อมกำหนด “โพแทสเซียม” เป็นสารอาหารบังคับเพิ่มเติม
2.ปรับข้อกำหนดเงื่อนไขการแสดงกรอบข้อมูลโภชนาการ : การแสดงกรอบข้อมูลโภชนาการนั้น การแสดงสีของพื้นกรอบข้อมูลให้ใช้สีขาว ตัวอักษรต้องใช้สีที่เห็นและอ่านได้ชัดเจน และต้องเป็นสีเดียวกันสีเส้นกรอบ ขนาดของตัวอักษรต้องมีขนาดดังต่อไปนี้ ส่วนที่ 1 และ 2 ความสูงไม่น้อยกว่า 1.5 มม. ส่วนที่ 3, 4 และ 5ความสูงไม่น้อยกว่า 1 มม. พร้อมแสดงข้อมูลพลังงานและสารอาหารทุกรายการตามที่กำหนด แม้ว่าจะมีปริมาณที่ไม่มีนัยสำคัญก็ตาม การแสดงข้อมูลสารอาหารอื่นนอกเหนือจากที่กำหนดให้แสดงในกรอบข้อมูลโภชนาการ ต้องแสดงตามลำดับก่อนหลังตามเงื่อนไขที่กำหนด กำหนดค่าการแปลงหน่วย (Conversion factors) และการคำนวณค่าพลังงาน, การคำนวณค่าพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตทั้งหมด, ค่าการแปลงหน่วยของวิตามินและแร่ธาตุ ปัดตัวเลขวิตามินและแร่ธาตุกรณีปริมาณไม่มีนัยสำคัญจาก “<ร้อยละ 2”เป็น “น้อยกว่าร้อยละ 5 ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน” ตามมาตรฐานโคเด็กซ์ (Codex :คณะกรรมาธิการโครงการมาตรฐานอาหาร FAO/WHO มีหน้าที่กำหนดมาตรฐานอาหารให้เป็นมาตรฐานสากล)
3.วิธีการกำหนดปริมาณอาหารหนึ่งหน่วยบริโภคกับจำนวนหน่วยบริโภคต่อภาชนะบรรจุ: ปรับแก้ไขนิยามของ “หนึ่งหน่วยบริโภค หรือ ปริมาณที่กินต่อครั้ง” โดยเน้นใช้คำว่า “ปริมาณที่กินต่อครั้ง” ให้สอดคล้องกับข้อความที่ใช้ในกรอบข้อมูลโภชนาการ ขยายกลุ่มอาหารจาก 7 กลุ่ม เป็น 14 กลุ่ม พร้อมชนิดอาหาร และปริมาณหนึ่งหน่วยบริโภคอ้างอิง ปรับหลักเกณฑ์การกำหนดปริมาณที่กินต่อครั้ง วิธีการกำหนดจำนวนครั้งที่กินได้ต่อภาชนะบรรจุ ปรับเศษเป็นจำนวนเต็ม ให้ใช้ตามหลักการทางคณิตศาสตร์สากล
4.ปรับชื่อบัญชี : “ค่าอ้างอิงสารอาหารต่อวันสำหรับคนไทย (THAI REFERENCE DAILY INTAKES-THAI RDIs)” เพื่อเป็นค่ากลางสำหรับอ้างอิงการแสดงคุณค่าทางโภชนาการบนฉลากอาหาร ปรับลดช่วงอายุอ้างอิงจาก “อายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป” เป็น “อายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป” ไม่กำหนดค่า Thai RDIs ของฟลูออไรด์
5.ค่าอ้างอิงต่อวันของสารอาหาร : กำหนดค่าอ้างอิงต่อวัน (Thai RDIs) ของสารอาหารจำนวน 33 รายการ พิจารณาบนพื้นฐานของปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวัน (Daily IntakeReference Value, DIRVs) ของประชากรทั่วไปสุขภาพดีในช่วงอายุ 19-50 ปี และค่าพลังงานที่ควรได้รับต่อวัน 2,000 กิโลแคลอรี ปรับลดช่วงอายุอ้างอิงจาก “อายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป” เป็น “อายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป” อ้างอิงตามมาตรฐาน CODEX เพื่อแบ่งกลุ่มประชากรให้ชัดเจน โดยแยกกลุ่มทารกและเด็กเล็ก (อายุ 0-3 ปี) ออกจากกลุ่มประชากรทั่วไป ไม่กำหนดค่า Thai RDIs ของฟลูออไรด์ สอดคล้องกับหลักการพิจารณากำหนดค่า DRIs ของกรมอนามัย
6.เกณฑ์และเงื่อนไขการกล่าวอ้างทางโภชนาการ : ปรับเงื่อนไขการคำนวณปริมาณสารอาหารกรณีอาหารที่มีปริมาณหนึ่งหน่วยบริโภคอ้างอิงไม่เกิน 30 กรัม หรือไม่เกิน 2 ช้อนโต๊ะ จากการคำนวณ “ต่อ 50 กรัม” เป็น“ต่อ 2 เท่าของปริมาณหนึ่งหน่วยบริโภคอ้างอิง” และมีการเพิ่มเงื่อนไขปริมาณ “น้ำตาลทั้งหมด มากกว่า 13 กรัม” สอดคล้องกับเงื่อนไขการแสดงข้อความ “เพื่อสุขภาพ” และการกล่าวอ้างทางสุขภาพของอาหาร ปรับเงื่อนไขข้อความกล่าวอ้าง ไขมันอิ่มตัวต่ำ”“โซเดียมน้อย” “ไม่เติมน้ำตาลไม่ใส่น้ำตาล”“เป็นแหล่งของ, มี” “สูง, อุดม” กรณีเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารค่าต่ำสุด = 15% THAI RDIsค่าสูงสุด = ปรับชนิดและปริมาณตามบัญชีแนบท้ายประกาศ
สำหรับผู้ประกอบการที่ผลิตอาหารที่ยื่นขออนุญาตแสดงฉลากโภชนาการก่อนวันที่ประกาศฉบับใหม่บังคับใช้ ผู้ประกอบการยังคงสามารถจำหน่ายต่อไปได้ โดยต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 182) พ.ศ. 2541 เรื่อง ฉลากโภชนาการ แต่ต้องไม่เกินสามปี นับแต่ฉบับใหม่บังคับใช้คือ ไม่เกินวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2570 หลังจากนั้นต้องแสดงฉลากโภชนาการตามประกาศ ฉบับใหม่
กระบองเพชร

‘กรมชลประทาน’ชวนคนไทยเที่ยวปีใหม่ 2569 สัมผัสธรรมชาติ‘เขื่อนสวย น้ำใส’ทั่วประเทศ
ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน' ประจำวันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม 2568
องคมนตรีเชิญสิ่งของพระราชทาน เนื่องในโอกาสปีใหม่ ให้แก่เจ้าหน้าที่กองกำลังบูรพา
เปิดประวัติ บุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ก่อนโดนหมายจับพัวพันฟอกเงิน
ไทยย้ำจุดยืนหยุดยิง ไม่กระทบอธิปไตย ตรึงกำลังเฝ้าระวัง 24 ชม.

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี