บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัทสตาร์เฟล็กซ์ หรือ SFLEX เราคาดส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในโครงการ JV กับ SCGP ที่เวียดนามจะเพิ่มขึ้นใน 2Q - 3Q เนื่องจากกระบวนการผลิตเพิ่มกลับสู่ปกติ หลังชะลอไปใน 1Q67 จากการปรับปรุงกระบวนการบริหารจัดการภายในเป็นไตรมาสแรก และ 3Q67 เป็น High season ของธุรกิจ Rigid box (กล่องจั่วปัง) อุปสงค์จะเร่งตัวขึ้นก่อนเข้าสู่เทศกาลสำคัญๆ เช่น เทศกาลไหว้พระจันทร์ เทศกาลปีใหม่ เป็นต้น อย่างไรก็ดี ส่วนแบ่งกำไรฯ ใน 1Q67 ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย เราจึงปรับประมาณการส่วนแบ่งกำไรฯ ปีนี้ลงเป็น 27.5 ล้านบาท (เดิม 30 ล้านบาท) ผู้บริหารวางแผนที่จะพิจารณาลงทุนเครื่องจักรผลิต Flexible packaging ที่โรงงาน JV เนื่องจากลูกค้ากลุ่มสินค้า FMCG (Fast-moving consumer goods) ที่เวียดนามส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าที่ไทยอยู่แล้ว เราคาดจะมีความชัดเจนเรื่องแผนลงทุนในปีหน้า
โครงการ JV (Star Union) ที่ร่วมกับ TU เตรียมการผลิตFlexible packaging ป้อนให้กับสินค้าของ TU ใน 4Q67 เราประเมินโครงการนี้มีอุปสงค์รองรับจากกลุ่ม TUปัจจุบัน TU มีต้นทุนการซื้อFlexible packaging ปีละ +/-2 พันล้านบาท โดยคาดรายได้ปี 2567 - 69 จะอยู่ที่ 35 ล้านบาท 150 ล้านบาท และ 225 ล้านบาทตามลำดับ อิงสมมุติฐานรายได้จากกำลังการผลิต 1 ไลน์การผลิต (โครงการ JV นี้จะ Consolidate ในงบการเงินรวม)
จากข้อมูล Opportunity day หุ้น NEO ล่าสุด NEO วางแผนที่จะขยายกำลังผลิตอีกเท่าตัวในปี 2569 โดยเฉพาะสินค้าประเภทน้ำยาซักผ้าซึ่งจะเพิ่มขึ้น ทดแทนผงซักฟอก โดยสัดส่วนการใช้น้ำยาซักผ้ากับผงซักฟอกปัจจุบันอยู่ที่ 40:60 และคาดว่าจะเปลี่ยนเป็น 50:50 ในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น น้ำเชื่อม ที่มีแนวโน้มใช้งานเพิ่มขึ้นแทนการใช้น้ำตาลทราย การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคเหล่านี้ จะหนุนอุปสงค์การใช้ Flexible packagingของ SFLEX ให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
เราปรับประมาณการฯปี 2567 - 68 ขึ้น 8% และ 7% ตามลำดับโดย i) เราปรับสมมุติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2567 - 68 ขึ้น 23.6%และ 23.35% (เดิม 22.5% และ 22.25%) ตามลำดับ ii) ปรับสมมุติฐานEffective tax rate ปี 2567 - 68 ลงเป็น 2.5% และ 5% (เดิม7% และ 10%) ตามลำดับ เนื่องจากการได้ใช้ประโยชน์สิทธิประโยชน์ทางภาษีมากกว่าคาด อย่างไรก็ดี iii) เราปรับสมมุติฐานอัตราดอกเบี้ยจ่ายปี 2567-68 ขึ้น เป็น 36 ล้านบาท และ 46.5 ล้านบาท(เดิม 26 ล้านบาท และ 20 ล้านบาท) ตามลำดับ
เนื่องจาก Valuation ที่ถูกมาก Forward PE เพียง 12.2 เท่าเราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” และได้ราคาเป้าหมายใหม่ 5.8 บาท (เดิม 5.25 บาท)
ปัจจัยเสี่ยงจากความผันผวนของวัตถุดิบ เศรษฐกิจชะลอตัวกว่าคาด
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี