วันอังคาร ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568
“ลงทุนใน Block SK408 ที่มาเลเซีย “
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP)เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม PTTEP ได้ทำข้อตกลงกับ TotalEnergies SE (TTE) เพื่อซื้อหุ้น 49.99% ใน AzurVista Resources Pte. Ltd. (AzurVista Resources) ซึ่งถือหุ้น 20% (participating interest) ในโครงการ SK408 ธุรกรรมนี้จะทำให้ PTTEP ถือหุ้นทางอ้อม 9.998% ในโครงการ SK408 ซึ่งเป็นเป็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติและคอนเดนเสทที่ตั้งอยู่ในบริเวณน้ำตื้นนอกชายฝั่งมาเลเซีย และดำเนินการภายใต้สัญญา Production Sharing Contract (PSC) โดยปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 750 mmscfd และคอนเดนเสทอยู่ที่ประมาณ 15 KBD โครงการนี้ป้อนก๊าซให้กับโรงงาน LNG liquefaction complex บนฝั่ง ซึ่งเมื่ออิงจากสำรองที่พิสูจน์แล้ว คาดว่าจะพบ (probable reserves หรือ 2P) ที่ 52 ล้าน BOE การลงทุนรอบนี้คิดเป็น EV/BOE ประมาณ US$6-7/BOE ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาคในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาที่ US$8.4/BOE
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้นอีก 1% เป็น 5.63 หมื่นล้านบาทในปี 2569F และ 5.58 หมื่นล้านบาทในปี 2570F หลังจากที่ PTTEP เข้าซื้อหุ้นทางอ้อม 9.998% ของโครงการ SK408 ในมาเลเซียเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม เราคาดว่าโครงการ SK408 จะสร้างกำไรให้ PTTEP ประมาณ 20 ล้านดอลลาร์ฯ ต่อปี ผ่านรายการส่วนแบ่งกำไร/ขาดทุนจากบริษัทร่วมในงบกำไรขาดทุน โดยอิงจากราคาขายก๊าซของโครงการที่ US$4-5/mmbtu และต้นทุนต่อหน่วยที่ประมาณ US$20/BOE เรายังคาดว่าโครงการนี้จะทำให้ปริมาณยอดขายของ PTTEP เพิ่มขึ้นประมาณปีละ 10 KBOED (อิงตามส่วนได้เสียหรือ equity basis) หรือเท่ากับ 2% ของประมาณการปริมาณยอดขายรวมของเรา อย่างไรก็ตาม โครงการนี้จะไม่กระทบกับราคาขายเฉลี่ย (ASP) หรือต้นทุนต่อหน่วยของ PTTEP เพราะไม่ได้นำมาบันทึกในงบรวมแบบทุกรายการ (line-by-line basis)
เรายังคงคำแนะนำถือ PTTEP โดยคงราคาเป้าหมาย DCF ปี 2569F ที่ 120.00 บาท ใช้ WACC ที่ 8.7% และ terminal growth ที่ 0.5% ถึงแม้เราจะคาดว่าผลประกอบการใน 4Q68F จะฟื้นตัว QoQ เนื่องจากคาดว่าปริมาณยอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 558 KBOED (+9% QoQ) แต่ผลประกอบการถูกคาดว่าจะลดลง YoY เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงมาอยู่ที่ US$60/bbl ใน 4Q68 (-18% YoY) ราคาหุ้นยังคงถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบเรามองว่ามี upside จำกัดเนื่องจาก i) รัสเซียและยูเครนอาจจะสามารถกำหนดกรอบการทำข้อตกลงสันติภาพกันได้ และ ii) อุปทานน้ำมันดิบของ OPEC+ ที่เพิ่มขึ้น โดยทางกลุ่มได้เพิ่มการผลิตรวม 2.88 MBD ในช่วงเดือนเมษายน – ธันวาคม
ปัจจัยเสี่ยงความผันผวนของราคาน้ำมันดิบและก๊าซ
ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)

ราชกิจจาฯประกาศ พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศ-คำสั่ง คสช. ที่หมดความจำเป็นและไม่เหมาะกับกาลปัจจุบัน
รองนายกฯกัมพูชารอลุ้น คาด18ทหารเชลยศึกจะถูกปล่อยตัวพรุ่งนี้ ลั่นจะไม่มีปัญหาใดๆ
ส้มไม่ได้ปลอดเทาจริง เพียงแต่เทายังไม่ถูกจับได้เท่านั้น
ในหลวงทรงรับ ทหารบาดเจ็บชายแดน เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์-พระราชทานสิ่งของเยี่ยม
ที่ปรึกษารมว.กลาโหม เคลียร์ชัด ปมข่าวเสี้ยม รัสเซีย-ไทย-เบลารุส

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี