“ภาวการณ์จับจ่ายใช้สอยยังคงอ่อนแอ”

บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้น บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ หรือ HMPRO จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยในเดือนเมษายน 2568 อยู่ที่ 55.4  ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม จากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายภาษีต่างตอบแทนของสหรัฐ ซึ่งเมื่อพิจารณาเป็นรายภาค พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงทั้ง YoY และ MoM ในทุกภาค ถึงแม้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของประเทศไทยจะฟื้นตัวขึ้นจากช่วงที่แย่ที่สุดตอนที่ COVID-19 ระบาด แต่ดัชนีในระดับปัจจุบันก็ยังกลับไปไม่ถึงระดับก่อน COVID-19 ระบาด ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ต่ำอาจเป็นตัวบ่งชี้ถึงภาวะการจับจ่ายใช้สอยที่อ่อนแอ

ถึงแม้บริษัทจะคาดว่ามีอุปสงค์การซ่อมแซมอาคารหลังแผ่นดินไหว แต่ภาวะอุปสงค์โดยรวมที่ยังคงซบเซาน่าจะมีน้ำหนักมากกว่า และ ฉุด same-stores sales ของ HMPRO โดย same-store-sales ของบริษัทลดลงอยู่ในระดับเลขตัวเดียวสูงๆถึงสองหลักในเดือนเมษายน-พฤษภาคม (จาก -3.3% ใน 1Q68) และ เมื่อประกอบกับผลกระทบจากปัจจัยฤดูกาล (สภาพอากาศที่ร้อนกว่าในปีที่แล้วช่วยกระตุ้นอุปสงค์เครื่องปรับอากาศ ในขณะที่ปีนี้หน้าฝนมาเร็ว) เราคาดว่ากำไรใน 2Q68 จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ

เราคาดว่าผลประกอบการของ HMPRO จะยังไม่น่าสนใจในไตรมาสที่สาม เพราะเป็นช่วง low season แต่ผลประกอบการอาจจะฟื้นตัวได้ QoQ ในไตรมาสที่สี่ซึ่ งตามปกติจะเป็นช่วง high season และมักจะเป็นไตรมาสที่กำไรของบริษัทสูงที่สุดในรอบปี อย่างไรก็ตามเรามองว่าการที่กำไรจะเพิ่มขึ้น YoY ใน 4Q68 ยังดูท้าทาย เราคิดว่าบริษัทน่าจะทำกำไรได้ตามประมาณการปี 2568F ของเราที่ 6.5 พันล้านบาท (ทรงตัว YoY) แต่มองว่าไม่มี upside ดังนั้นเราจึงยังคงประมาณการกำไรเต็มปีเอาไว้เท่าเดิม

เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” โดยประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568F ที่ 8.20 บาท

ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง, ขยายสาขาได้ต่ำกว่าเป้า, ราคาพืชผลอ่อนแอ, ภัยธรรมชาติ, สินค้าค้างสต็อกเป็นจำนวนมาก

ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)