“ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารแข็งแกร่ง”
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลหรือMINT จากการที่MINT รายงานกำไรปกติ2Q68 ที่ 3.41 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% YoY และพุ่งขึ้นมากเทียบ QoQ โดยสูงกว่าเราคาด 1.8% และสูงกว่าตลาดคาด 2.9% กำไรสุทธิ3.09 พันล้านบาทรวมรายการพิเศษหลายรายการ (-324 ล้านบาท) ที่บันทึกในไตรมาสนี้โดยรวมแล้ว กำไรปกติ2Q68 เป็นไปตามเราและตลาดคาด ขณะที่กำไรปกติ 2Q68 คิดเป็น 38.1%ของการประมาณการทั้งปีของเรา กำไรปกติ 1H68 คิดเป็น 48.5% ของประมาณการทั้งปี
การเติบโตหนุนจากผลการดำเนินงานของทั้งธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารแข็งแกร่งขึ้น ธุรกิจโรงแรมยังได้อานิสงส์จากอุปสงค์การเดินทางทั่วโลกฟื้นตัวโดยเฉพาะในยุโรปและมัลดีฟส์ ผนวกกับ
แบรนด์ที่แข็งแกร่งของบริษัท ธุรกิจร้านอาหารยังโตต่อเนื่องผ่านการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์และกิจกรรมทางการตลาดที่ภายใต้แบรนด์หลัก ทำให้ยอดขายโตขึ้นค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆได้แก่ยูโร (EUR) ดอลลาร์สหรัฐ (USD) และดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) เมื่อเทียบกับปีก่อน
ธุรกิจโรงแรม: RevPar สกุลบาทลดลง 4% YoY ใน 2Q68 จากเงินบาทแข็งค่า
ใน 2Q68 เงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆทำให้กระทบต่อผลการดำเนินงานเมื่อแปลงเป็นสกุลบาท หากไม่รวมผลกระทบRevPAR จะดีขึ้น YoY ในเชิงบวกซึ่งหนุนจากโรงแรมในยุโรปและมัลดีฟส์มีผลงานที่ดีขึ้นแต่เมื่อคำนวณเป็นTHB การแข็งค่าของสกุลเงินทำให้รายได้ต่อห้องต่อคืน (RevPAR) ที่รายงานลดลงไป 4% YoY
ธุรกิจร้านอาหาร: SSS ลดลง 1.7% YoY และ TSS ขยับขึ้น 0.4% YoY
ใน 2Q68 รายได้หลักจากร้านอาหารทั้งหมดของ Minor Food (ที่อัตราแลกเปลี่ยนคงที่)เติบโต 4% YoY อยู่ที่ 8.1 พันล้านบาทหนุนจากรายได้ร้านอาหารในออสเตรเลียและสิงคโปร์เติบโตดีผลงานของThe Coffee Club ดีขึ้นหลังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้นของธุรกิจคั่วกาแฟภายใต้สัญญาของ NOMAD ช่วยดันรายได้ในออสเตรเลียให้ดีขึ้น ขณะที่การเปิดตัวแบรนด์ใหม่และการขยายเครือข่ายหนุนให้ร้านอาหารในสิงคโปร์เติบโตแต่รายได้จากแฟรนไชส์ลดลง 6% YoY จากค่าธรรมเนียม
แฟรนไชส์เริ่มต้นที่สูงขึ้นจากร้านอาหารแฟรนไชส์ในไทยที่เพิ่มขึ้นไม่พอที่จะชดเชยร้านอาหารแฟรนไชส์ในต่างประเทศที่ชะลอลง หากรวมผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ รายได้หลักใน 2Q68 จะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
เมื่อมองระยะถัดไปใน 3Q68F เราคาดว่าผลการดำเนินงานจะแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยจะได้แรงหนุนจากในยุโรปที่เป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยวแข็งแกร่ง เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมายกลางปี 2569F ที่ 33.50 บาท
ปัจจัยเสี่ยงจากความไม่สงบทางการเมือง, เกิดโรคระบาดขั้นรุนแรง และเศรษฐกิจชะลอตัวลง
ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี