“...ไม่อยากให้ uncle (อา) ไปฟังคนที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับเรา ..อย่างพวกแม่ทัพภาคสอง เป็นคนของฝั่งตรงข้ามหมดเลย....เพราะตอนนี้ทางนั้นเขาอยากจะดูเท่.... จริงๆ แล้วถ้าท่านอยากได้อะไรก็ให้ท่านบอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะจัดการให้...”
เป็นถ้อยคำบางตอนของบทสนทนาทางโทรศัพท์ เพื่อยุติข้อขัดแย้งด้านดินแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ของผู้นำรัฐบาลไทยกับกัมพูชา ซึ่งผู้นำสูงสุดของรัฐบาลฝ่ายบริหารของประเทศไทยเจรจากับผู้นำของฝ่ายกัมพูชา ผ่านล่ามแปล ในประเด็นปัญหาข้อขัดแย้งระหว่างประเทศ
ฮุนเซน ผู้นำกัมพูชาตัวจริงเนื่องจากเป็นบิดาของ ฮุน มาเนตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า เป็นผู้นำคลิปสนทนาเผยแพร่สู่สาธารณชน ต่อมาได้ปฏิเสธว่า การอัดคลิปสนทนา และเผยแพร่สู่สาธารณชน เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่กัมพูชาคนหนึ่ง ที่ไม่พอใจกรณีที่นายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวหาว่า ผู้นำกัมพูชาไม่เป็นมืออาชีพ
การดักฟังทางโทรศัพท์ ลักลอบอัดเสียง นำไปเปิดเผยหรือเผยแพร่ มีความผิดตามกฎหมายไทย ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 21 เรื่อง ห้ามการดักฟังทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด ซึ่งประกาศ ณ วันที่ 24 กันยายน 2549 โดย พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองฯ
กฎหมายดังกล่าว กำหนดโทษไว้ในกรณีที่ ผู้ใดดักฟัง ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผยข้อความที่ติดต่อทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด โดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ที่ได้รับรู้ข้อความจากการกระทำความผิดดังกล่าว ใช้ประโยชน์หรือเปิดเผยข้อความนั้นกับคนอื่น โดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย มีโทษเช่นเดียวกัน
ผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดดังกล่าวข้างต้น โทษจำคุก 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แม้ว่า ผู้ที่กระทำความผิดไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแต่การเผยแพร่ได้เกิดขึ้นในประเทศประเทศไทยแล้ว ถือว่า ต้องรับผิดตามกฎหมายไทย หากผู้ที่กระทำความผิดเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ตามกฎหมายไทย ให้สิทธิเจ้าหน้าที่ของรัฐในการดักฟังทางโทรศัพท์ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลข่าวสาร ในการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ และในการป้องกันและปราบปราม เช่น พระราชบัญญัติข่าวกรองแห่งชาติ พ.ศ. 2538, พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกพ.ศ. 2547, พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติดพ.ศ. 2519, พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542, พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551, พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547,พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556
กฎหมายไทยที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดักฟังการสนทนาทางโทรศัพท์ได้ มีเจตนารมณ์ให้สิทธิ และความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์ส่วนรวม และประโยชน์ของประเทศชาติ
คลิปสนทนาทางโทรศัพท์ อุ๊งอิ๊งค์-ฮุนเซน ไม่ได้เป็นประเด็นในเรื่องของการแอบบันทึกเสียง สนทนาทางโทรศัพท์ และนำมาเผยแพร่โดยมิชอบ แต่เพียงอย่างเดียว
ประเด็นสำคัญอยู่ตรงที่ว่า ผู้นำของประเทศไทยซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี น่าจะมีวุฒิภาวะในการเป็นผู้นำประเทศมากกว่านี้ ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ต้องไม่ด้อยค่าทหารที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาอาณาเขตของประเทศชาติ และต้องไม่แสดงท่าทีอ่อนน้อมหรือยอมรับจนเสื่อมเสียศักดิ์ศรีของประเทศ
คลิปเสียงสนทนาโทรศัพท์หลุดนี้ เรียกได้ว่า พรรษาทางการเมืองแตกต่างกันมาก หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า กระดูก (ทางการเมือง) คนละเบอร์กัน
ดร.รุจิระ บุนนาค
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี