วันพุธ ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์โลกธุรกิจ / หมุนตามทุน
หมุนตามทุน

หมุนตามทุน

วันพุธ ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
หมุนตามทุน : ภาคเอกชน..สุดทนปัญหาคอรัปชั่น ผนึกกำลังหลายภาคส่วนตั้งทีมปราบโกง

ดูทั้งหมด

  •  

** คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย พร้อมด้วย คณะทำงาน  “Zero Corruption: กกร. และเพื่อน ไม่ทน” ต่อยอดจากโครงการ Reinvent Thailand ร่วมแถลงจุดยืนร่วมของภาคเอกชนในการสร้างประเทศไทยโปร่งใส แข่งขันได้ อย่างยั่งยืน

ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน กล่าวว่า จากที่ประชุม คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ได้เห็นชอบแต่งตั้ง คณะทำงาน Zero Corruption: กกร. และเพื่อน ไม่ทน เพื่อรวบรวมข้อเสนอจากภาคธุรกิจและภาคประชาสังคม พร้อมจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายที่จะนำเสนอต่อรัฐบาลอย่างเป็นระบบ เพื่อให้มาตรการเหล่านี้ถูกนำไปปฏิบัติ ได้จริง และสามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงสร้างระบบเศรษฐกิจและการเมืองไทยที่โปร่งใส เป็นธรรม และ เพื่อให้การขับเคลื่อนงานของคณะทำงานฯ มีความเข้มแข็งสามารถยกระดับการทำงานให้ครอบคลุม จึงได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะทำงาน ภายใต้ ชื่อ “คณะทำงาน Zero Corruption: กกร. และเพื่อน ไม่ทน” เพื่อประกาศจุดยืนของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ  ซึ่งจะเป็นการยกระดับขีดความสามารถของประเทศ โดยเริ่มจากการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน Government Efficiency (ประสิทธิภาพของภาครัฐ) ซึ่งเป็นอุปสรรคหลักต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย


โครงการฯ นี้ นอกจากความร่วมมือ 3 หน่วยงาน ภายใต้ กกร. แล้ว ยังได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายสำคัญ ได้แก่   1. องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันแห่งประเทศไทย (ACT) 2. แนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC), และ 3. สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) (TIJ) รวมทั้งหน่วยงานทางวิชาการ ได้แก่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI)  เพื่อร่วมกันออกแบบนโยบาย ระบบ และกลไก ที่นำไปสู่สังคมโปร่งใสและตรวจสอบได้ และกำหนด Action Plan เราไม่ได้บ่นอย่างเดียว แต่เราจะมี Action เพื่อให้ทุกภาคส่วนทำร่วมกัน

นอกจากนี้ การทำงานของเรา ยังขยายสู่กลุ่มหน่วยป้องกันและปราบปราม เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องโดยตรง เพื่อเชื่อมโยงสู่การบังคับใช้กฎหมายเชิงระบบ พร้อมด้วยเครือข่ายสนับสนุนจากภาคเอกชน เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สภาธุรกิจตลาดทุนไทย, สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย, หอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย และภาคีเอกชนอื่น ๆ ที่พร้อมช่วยประชาสัมพันธ์โครงการของเรา เช่น สมาคมการค้า อาทิ สมาคมตลาดสดไทย, สมาคมผู้ค้าปลีกไทย, สมาคมโรงแรมไทย และสมาคมภัตตาคารไทย เป็นต้น

ด้านคุณเกรียงไกร เธียรนุกุล  ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า  ภาคอุตสาหกรรมไทยในวันนี้ไม่ได้เพียงแค่ผลิตสินค้าเพื่อแข่งขันในตลาดโลกเท่านั้น แต่กำลังก้าวสู่ยุคที่ต้องผลิต ‘ความโปร่งใส’ เป็นมาตรฐานใหม่ของการดำเนินธุรกิจ เพราะการทุจริตไม่ใช่แค่ปัญหาทางศีลธรรมที่บั่นทอนความเชื่อมั่นของสังคม แต่คือ ‘ต้นทุนที่มองไม่เห็น’  ที่กัดกร่อนศักยภาพของประเทศ ทั้งด้านการลงทุน เทคโนโลยี และโอกาสทางเศรษฐกิจในอนาคต ดังนั้น ภาคอุตสาหกรรมจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการสร้างระบบที่สุจริต ตรวจสอบได้ เพื่อยกระดับศักยภาพของประเทศในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นด้านดิจิทัล นวัตกรรม มาตรฐานสากล หรือการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งจะทำให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตที่มีคุณภาพและได้รับความเชื่อมั่นจากประชาคมโลก

“การพัฒนาเศรษฐกิจไม่อาจเกิดขึ้นได้ หากยังมีร่องรอยของการทุจริตแทรกอยู่ในระบบ เพราะทุกการกระทำที่ไม่โปร่งใส คือ อุปสรรคต่อการเติบโตของชาติและความเชื่อมั่นของนักลงทุน”

ขณะที่คุณกอบศักดิ์  ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ประเทศไทยเผชิญความท้าทายใน 3 ด้าน คือ 1. ความเปราะบางเชิงโครงสร้าง มีเศรษฐกิจนอกระบบสูงเป็นลำดับต้นๆ ในเอเชียที่ราว 48% ของ GDP อีกทั้ง หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงเมื่อรวมหนี้นอกระบบ เกิน 100% ของ GDP  2. ขาดความสามารถในการแข่งขันในโลกใหม่ โดยเศรษฐกิจไทยเติบโตตามหลังประเทศเพื่อนบ้าน  3. ความท้าทายของภาครัฐ ที่มีกฎระเบียบจำนวนมากถึงกว่า 100,000 ฉบับ บางส่วนล้าสมัยและซ้ำซ้อน อีกทั้ง ข้อมูลของภาครัฐยังไม่เชื่อมโยงกัน ซึ่งทั้ง 3 ด้านเป็นความท้าทายที่มีความเกี่ยวโยงกับปัญหาคอร์รัปชัน และ Trust and Confidence ในระบบเศรษฐกิจไทย

รศ.ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ ที่ปรึกษาประจำสภามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และคณะทำงาน Zero Corruption: กกร. และเพื่อน ไม่ทน ร่วมกับ ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน กล่าวว่า การดำเนินงานของคณะทำงานฯ จะเน้นการดำเนินการผ่าน กรอบการดำเนินงาน “6 ด้านต้านทุจริต” ดังนี้ 1.การปลูกฝังจิตสำนึก ส่งเสริมให้คนไทยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตสำนึกและวัฒนธรรมองค์กรโปร่งใส 2.นโยบายต่อต้านการทุจริตในองค์กร ผลักดันให้ภาคธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐมีนโยบาย มาตรการ และการกำกับภายในที่ชัดเจน ครอบคลุมถึงการบริหารทรัพยากรบุคคล การจัดซื้อจัดจ้าง และการประเมินผล  3.ระบบบริหารความเสี่ยง  จัดทำเครื่องมือระบุ วิเคราะห์ และประเมินความเสี่ยงด้านการทุจริตอย่างเป็นระบบ พร้อมแนวทางติดตาม ป้องกัน และตรวจสอบอย่างเข้มงวด 4. การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ ผลักดันให้ข้อมูลภาครัฐถูกเปิดเผยในรูปแบบดิจิทัล ให้ภาคเอกชน สื่อมวลชน และประชาชนสามารถเข้าถึง ตรวจสอบ และนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่าย เชื่อมโยงกับแนวทาง OECD และ OGP 5. เทคโนโลยีเพื่อความโปร่งใส ใช้เทคโนโลยี Big Data และ AI ในการตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติ เชื่อมโยงฐานข้อมูลจากหลายหน่วยงาน และสนับสนุนการตรวจสอบแบบ real-time เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันคอร์รัปชั่น 6. แนวทางการร้องเรียนและคุ้มครองผู้เปิดเผยข้อมูล สร้างระบบรับเรื่องร้องเรียนที่ปลอดภัย คุ้มครองผู้เปิดโปงข้อมูล และกำหนดแนวทางปฏิบัติให้ทุกภาคส่วนสามารถแจ้งเบาะแสได้โดยไม่ถูกคุกคาม

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และคณะทำงาน Zero Corruption: กกร. และเพื่อน ไม่ทน กล่าวว่า ผลสำรวจ "ดัชนีสถานการณ์           คอร์รัปชันไทย (Thai CSI)" ประจำเดือนมิถุนายน 2568 โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นการสำรวจจาก 3 กลุ่มตัวอย่างหลัก จำนวน 2,400 ตัวอย่าง (ประชาชน, ผู้ประกอบการ/ภาคเอกชน, และข้าราชการ/ภาครัฐ) พบว่า  ดัชนีรวมปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 36 จากระดับ 37 ในการสำรวจเมื่อเดือนธันวาคม 2567 สะท้อนว่าสถานการณ์  คอร์รัปชัน ไทยในภาพรวมแย่ลง โดยดัชนีย่อยทั้งด้าน "ปัญหาและความรุนแรง" "การป้องกัน" และ "การปราบปราม" ล้วนปรับตัวลดลงทั้งหมด

ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่ากลุ่มตัวอย่างมีความกังวลต่อสถานการณ์อย่างยิ่ง โดย 87% มองว่าปัญหาคอร์รัปชันในปัจจุบัน "รุนแรงขึ้น" เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และ 74% คาดการณ์ว่า "จะรุนแรงขึ้น" ในปีหน้า แม้ว่าปัญหาจะยังรุนแรง แต่มีสัญญาณเชิงบวกคือ "ค่าเฉลี่ยความสามารถที่จะทานทนต่อการทุจริต (Tolerance of corruption)" ที่ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.92 (ในระดับ 0-10 โดย 0 หมายถึง เกลียดการทุจริตที่สุด) สะท้อนว่าสังคมไทยไม่ยอมรับและไม่ทนต่อปัญหานี้อย่างชัดเจน

เมื่อเจาะลึกถึงสาเหตุสำคัญที่สุดของการทุจริต กลุ่มตัวอย่างระบุว่าเกิดจาก "ความไม่เข้มงวดของการบังคับใช้กฎหมาย" (13.5%) "กระบวนการทางการเมืองขาดความโปร่งใส" (11.6%) และ "ผลประโยชน์ทางการเมือง" (11.3%) โดยรูปแบบการทุจริตที่พบบ่อยที่สุดคือ "การไม่เปิดเผยข้อมูล หรือเปิดเผยข้อมูลไม่ครบถ้วน" (13.7%) “การเอื้อประโยชน์แก่ญาติ/พรรคพวก (Nepotism & cronyism)” (12.3%) และ "การใช้ตำแหน่งทางการเมืองเพื่อเอื้อประโยชน์แก่พรรคพวก" (10.9%)

สำหรับข้อเสนอเร่งด่วนที่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการมากที่สุด คือ "การตรวจสอบการทุจริตของนักการเมือง" (11.5%) และ “สนับสนุนให้เครือข่าย/ภาคธุรกิจ/ภาคประชาชนในการตรวจสอบ” (11.5%) ขณะที่กลยุทธ์สำคัญที่รัฐควรให้ความสำคัญอันดับแรก คือ "การสร้างกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส ตรวจสอบได้โดยบุคคลภายนอก" (22.9%) และ "การวางนโยบายเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการแข่งขันอย่างโปร่งใสและเท่าเทียม" (22.1%)

"ผลดัชนี CSI ที่ปรับตัวลดลงครั้งนี้สะท้อนวิกฤตความเชื่อมั่นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการที่ดัชนีย่อยทั้งด้านการป้องกัน การปราบปราม และความรุนแรงของปัญหา แย่ลงพร้อมกันทั้งหมด สิ่งที่น่ากังวลคือความเชื่อมั่นต่อองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ปราบปรามการทุจริตอยู่ในระดับต่ำมาก ในทางกลับกันความเชื่อมั่นต่อพลังของภาคประชาชนและสื่อมวลชนกลับเพิ่มสูงขึ้น ภาครัฐจึงต้องเร่งพิสูจน์ตัวเองโดยการ 'บังคับใช้กฎหมาย' อย่างจริงจัง และสร้าง 'กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส' เพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นกลับคืนมาโดยด่วน"”

** กระบองเพชร**

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:21 น. ไปก่อนไทย!สิงคโปร์คว้าตั๋วเอเชียนคัพรอบ41ปี
22:14 น. ‘น่าน’ประชุมเตรียมพร้อมจัดงานประเพณีแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2
22:06 น. จาก'อังกฤษ'สู่'ไทย' : เปิดใจ'จู๊ด เบลล์'วันแจ้งเกิดช้างศึก
22:01 น. พ่อค้าแม่ค้าแห่จองล็อกขายสินค้าฟรี งานพลุนานาชาติ‘เมืองพัทยา’
21:55 น. ปากดีต้องโดนแบบนี้! 'ยุ้ย ญาติเยอะ'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่
ดูทั้งหมด
การทูตหยุดโลก 'อ.ธรณ์'ชี้ความสำคัญ ในหลวงเสด็จเยือนจีน
ยูเนสโกประกาศยกย่อง 'ในหลวงรัชกาลที่ 9' และ 'สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ'
เบื้องหลังฉลองพระองค์ 'สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี'
แรงมากแม่! 'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์สตอรี่ปริศนาพูดถึงเวรกรรม
งดงามดุจจันทรา! เปิดรายละเอียด'ไหมเปลือก 6 เส้น' ที่สุดแห่งเส้นใยชั้นนอกสู่ฉลองพระองค์อันวิจิตร
ดูทั้งหมด
การกลับมาของสภาพคล่องโลกหลัง Government Shutdown สหรัฐฯ - จะเป็นตัวเร่งรอบใหม่ของตลาดคริปโตหรือไม่?
ชะตาชีวิตของ‘ทักษิณ’
เทศกาลลอยกระทง...ขยะที่ลอยไม่ไปไหน กับปัญหาคอร์รัปชันที่ยังไม่จมหาย
3 หลี่ กงกง
1.76 หมื่นล้านบาท ทำไมทักษิณต้องจ่ายภาษีขายหุ้นชินฯ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ปากดีต้องโดนแบบนี้! 'ยุ้ย ญาติเยอะ'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่

จาก'อังกฤษ'สู่'ไทย' : เปิดใจ'จู๊ด เบลล์'วันแจ้งเกิดช้างศึก

เรื่องชวนคิด!!! เลือก'ปธ.กกต.คนใหม่'ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?

ศึกอสรพิษ!‘งูบู๊ตะขาบ’ สุดท้ายไม่พ้นมือกู้ภัยอุดรธานี

ฟุตบอลลั่นกวาดหมด! สมาคมกีฬาฟันธง241ทองซีเกมส์

แฟนคลับส่งกำลังใจ! 'เก้า สุภัสสรา'เผยป่วยเนื้องอกในมดลูก เมนส์มาไม่หยุดจนเป็นลม

  • Breaking News
  • ไปก่อนไทย!สิงคโปร์คว้าตั๋วเอเชียนคัพรอบ41ปี ไปก่อนไทย!สิงคโปร์คว้าตั๋วเอเชียนคัพรอบ41ปี
  • ‘น่าน’ประชุมเตรียมพร้อมจัดงานประเพณีแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2 ‘น่าน’ประชุมเตรียมพร้อมจัดงานประเพณีแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2
  • จาก\'อังกฤษ\'สู่\'ไทย\' : เปิดใจ\'จู๊ด เบลล์\'วันแจ้งเกิดช้างศึก จาก'อังกฤษ'สู่'ไทย' : เปิดใจ'จู๊ด เบลล์'วันแจ้งเกิดช้างศึก
  • พ่อค้าแม่ค้าแห่จองล็อกขายสินค้าฟรี งานพลุนานาชาติ‘เมืองพัทยา’ พ่อค้าแม่ค้าแห่จองล็อกขายสินค้าฟรี งานพลุนานาชาติ‘เมืองพัทยา’
  • ปากดีต้องโดนแบบนี้! \'ยุ้ย ญาติเยอะ\'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่ ปากดีต้องโดนแบบนี้! 'ยุ้ย ญาติเยอะ'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

หมุนตามทุน : ภาคเอกชน..สุดทนปัญหาคอรัปชั่น ผนึกกำลังหลายภาคส่วนตั้งทีมปราบโกง

หมุนตามทุน : ภาคเอกชน..สุดทนปัญหาคอรัปชั่น ผนึกกำลังหลายภาคส่วนตั้งทีมปราบโกง

19 พ.ย. 2568

หมุนตามทุน : วัสดุก่อนสร้าง-ค่าแรงพุ่ง ดันดัชนีราคาก่อสร้างQ3เพิ่มขึ้น

หมุนตามทุน : วัสดุก่อนสร้าง-ค่าแรงพุ่ง ดันดัชนีราคาก่อสร้างQ3เพิ่มขึ้น

12 พ.ย. 2568

หมุนตามทุน : สมาคมการค้าเหล็กทรงยาวมาตรฐาน…วอนรัฐคุมเข้มมาตรฐาน มอก

หมุนตามทุน : สมาคมการค้าเหล็กทรงยาวมาตรฐาน…วอนรัฐคุมเข้มมาตรฐาน มอก

5 พ.ย. 2568

หมุนตามทุน : อะไรที่ไทยควรทำกับเรื่อง “เหมือง Rare Earths”

หมุนตามทุน : อะไรที่ไทยควรทำกับเรื่อง “เหมือง Rare Earths”

29 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : ราคาทองคำยังไปต่อ...แต่นักลงทุนต้องระวังจังหวะย่อตัว

หมุนตามทุน : ราคาทองคำยังไปต่อ...แต่นักลงทุนต้องระวังจังหวะย่อตัว

22 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : ภาษีเหล็ก 50% ของสหรัฐฯ...กระทบไทยหนัก

หมุนตามทุน : ภาษีเหล็ก 50% ของสหรัฐฯ...กระทบไทยหนัก

15 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : ยังพอลงทุนได้อีกหรือเปล่า???

หมุนตามทุน : ยังพอลงทุนได้อีกหรือเปล่า???

8 ต.ค. 2568

หมุนตามทุน : จับตา...อนาคตอุตสาหกรรมไทย

หมุนตามทุน : จับตา...อนาคตอุตสาหกรรมไทย

1 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved