“มองแนวโน้ม 4Q68 ดีขึ้น”

บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทโรงพยาบาลจุฬารัตน์หรือ CHG ทั้งนี้ CHG รายงานกำไรสุทธิ 3Q68 ที่ 272 ล้านบาท (-34.8% YoY แต่ +31.1% QoQ) โดยไม่มีรายการพิเศษต่างๆ ในไตรมาสนี้ ขณะที่กำไรสุทธิ 3Q68 คิดเป็น 26.9% ของประมาณการทั้งปีของเรา ส่วนกำไรสุทธิ 9M68 ที่ 705 ล้านบาท (-19.3% YoY) คิดเป็น 69.6% ของคาดการณ์ทั้งปีของเรา

ประเด็นสำคัญ ๆ เกี่ยวกับ CHG:

i)  ผู้บริหารระบุว่าผู้ป่วยใน (IPD) 3Q68 ลดลง YoY จากมีโรคระบาดน้อยกว่า 3Q67 ซึ่งมีฐานรายได้สูงจากโรคระบาดตามฤดูกาล

ii) บริษัทมองแนวโน้ม 4Q68 เติบโต YoY เชิงบวก โดยเฉพาะรายได้จากผู้ป่วยที่ชำระเงินสดเติบโตขึ้นราว 10% YoY ในเดือนกันยายน 2568

iii) รายได้จากกลุ่มโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (Adj. RW ≥ 2) โดยเฉพาะรายได้จากการผ่าตัดกระเพาะอาหารลดลงราว 5 ล้านบาทต่อไตรมาสมาตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยสำนักงานประกันสังคม (SSO) ได้อนุมัติให้ทำหัตถการดังกล่าวได้เพียง 4 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงโรงพยาบาลในเครือ CHG อยู่ด้วย

iv) ผู้บริหารยืนยันว่า SSO จะทำการจ่ายเงินค่ารักษาเฉพาะทาง (RW>2) ปี 2568 ได้ตามกฎระเบียบของ SSO ที่ประกาศไว้

v) บริษัทมีแผนก่อสร้างโรงพยาบาลจุฬารัตน์ ระยอง ซึ่งกำหนดจะเปิดให้บริการในปี 2570 โดยมีจำนวนเตียงรวม 200 เตียง และจะเปิดให้บริการในเฟสแรกจำนวน 59 เตียง โดยที่โรงพยาบาลแห่งนี้จะมีความเชี่ยวชาญด้านการรักษามะเร็ง ซึ่งอาศัยความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ของบริษัทและชื่อเสียงที่มั่นคงเป็นที่ยอมรับในพื้นที่จังหวัดระยอง

ปัจจุบัน เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568F ที่ 1.01 พันล้านบาท (+4.9% YoY) และปี 2569F ที่ 1.07 พันล้านบาท (+5.1% YoY)

เราเชื่อว่าราคาหุ้น CHG ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วช่วง 2Q68 ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย DCF ปี 2569F ที่ 1.90 บาท

ปัจจัยเสี่ยงโรคระบาด เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และความไม่สงบทางการเมืองรอบใหม่

ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)