วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568
** นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ มองว่า ถึงทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นเดือนธันวาคมซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปี 2568 คาดว่าจะอยู่ในโหมดของการฟื้นตัว หลังจากที่หมดข่าวร้ายในระยะสั้นไปแล้ว ทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3 ที่อ่อนแอ หรือแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่เกิดจากการปรับตะกร้าของดัชนี MSCI โดยตลาดหุ้นจะเริ่มซึมซับข่าวดีเข้ามามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการยุติโครงการ QT ของ Fed, ความเป็นไปได้ในการลดดอกเบี้ยของ Fed และกนง.ซึ่งปัจจุบันยังไม่ถูก Fully priced in, การเข้าสู่ช่วง High season ของการบริโภคและการท่องเที่ยว รวมถึงสภาพคล่องในประเทศที่จะไหลเข้าสู่กองทุนลดหย่อนภาษีต่างๆ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ทั้งนี้ ทรีนีตี้ประเมินว่ามีโอกาสที่จะเห็นเม็ดเงินไหลเข้าสู่กองทุนหุ้นมากกว่าเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จากอัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจของตลาดหุ้นเมื่อเทียบกับตลาดพันธบัตร ณ เวลานี้
ประเมินกรอบการแกว่งตัวในกรณีฐานของ SET Index เดือนธันวาคมนี้ที่ระดับ 1230-1300 จุด โดยหากเกิดความผันผวนมากกว่านั้น มองว่ากรอบแนวรับและแนวต้านสำคัญจะอยู่ที่บริเวณ 1200 และ 1330 จุดตามลำดับ ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำนักลงทุนที่ได้เข้าสะสมหุ้นไปเมื่อปลายเดือนที่แล้วในช่วงที่ดัชนีย่อตัวลงมา สามารถถือครองหุ้นในส่วนดังกล่าวได้ โดยสัญญาณที่ดีล่าสุดที่เกิดขึ้นได้แก่เครื่องชี้ Market breadth ของตลาดหุ้นไทยที่ยกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับภาพดัชนีที่มีการปรับตัวลงมาบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตัวหุ้นต่างๆที่สูงขึ้นและพร้อมสะสมกำลังเพื่อรอรับการปรับตัวขึ้นตอบรับข่าวดีในช่วงถัดไป
ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่าบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวน 817 บริษัท คิดเป็น 98.7% จากทั้งหมด 828 บริษัท (รวม SET และ mai ที่มีกำหนดส่งงบการเงิน ณ สิ้นงวด 30 กันยายน 2568 และไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน) นำส่งผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2568 พบว่ามี บจ.รายงานกำไรสุทธิ 602 บริษัท คิดเป็น 73.7% ของ บจ. ที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด
ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2568 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน บจ. ใน SET มียอดขาย 12,432,596 ล้านบาท ลดลง 6.0 % ต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายการขายและบริหารลดลง 6.6% และ 1.2% ตามลำดับ ทำให้บจ. มีกำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core profit) 844,047 ล้านบาท ลดลง 7.3% อย่างไรก็ดี บจ. ขนาดใหญ่หลายแห่งมีกำไรจากการควบรวมกิจการ การปรับโครงสร้างธุรกิจ และการลงทุนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ บจ. มีกำไรสุทธิ 886,814 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.8% หากไม่รวม บจ.ในหมวดธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีภัณฑ์ บจ. มียอดขายลดลง 0.7% และมีกำไรจากการดำเนินงาน และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1.2% และ 16.4% ตามลำดับ ด้านฐานะการเงินของ บจ. ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ D/E ratio (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ 1.49 เท่า ลดลงจาก 1.56 เท่า ณ ช่วงเดียวกันในปีก่อน
สำหรับงวดไตรมาส 3/2568 เทียบกับไตรมาส 3/2567 บจ.ส่วนใหญ่มียอดขายลดลง แต่มีกำไรจากการดำเนินงานและกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 21.0% และ 31.4% ตามลำดับเนื่องจาก บจ. ในธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันมีราคาส่วนต่างค่าการกลั่นต่ำผิดปกติในปีก่อน ทั้งนี้ หากไม่รวม บจ. ในหมวดธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีภัณฑ์ บจ. มียอดขายและมีกำไรจากการดำเนินงานลดลง 11.9% และ 3.2% ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5.3%
ขณะที่บริษัทจดทะเบียนใน mai จำนวน 222 บริษัท คิดเป็น 97% จากทั้งหมด 229 บริษัท (ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือNC และบริษัทที่ปิดงบไม่ตรงงวด) นำส่งผลการดำเนินงาน โดยไตรมาส 3 ของปี 2568 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มียอดขายรวม 50,719 ล้านบาท ลดลง 5.6% ต้นทุนขาย 37,206 ล้านบาท ลดลง 7.3%กำไรขั้นต้น 13,514 ล้านบาท ลดลง 0.7% โดยมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 0.1% ส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 3,232 ล้านบาท ลดลง 3.0%และมีกำไรสุทธิรวม 620 ล้านบาท ลดลง 10.9% และหากพิจารณาความสามารถในการทำกำไรพบว่า บจ. มีอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) เพิ่มขึ้นจาก 25.3% เป็น26.6% ขณะที่อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (OPM)เพิ่มขึ้นจากระดับ 6.2% มาอยู่ที่ระดับ 6.4% ส่วนอัตรากำไรสุทธิ (NPM) ลดลงเล็กน้อยจาก 1.3% เป็น 1.2%
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2568 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มียอดขายรวม 151,127 ล้านบาท ลดลง 3.6% ต้นทุนขาย 111,422 ล้านบาท ลดลง 4.0% กำไรขั้นต้น 39,705 ล้านบาท ลดลง 2.2% โดยมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 2.2% ส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 9,702 ล้านบาท ลดลง 13.5% และมีกำไรสุทธิรวม 3,722 ล้านบาท ลดลง 38.9%
** กระบองเพชร**


เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี