** ได้รับการยืนยันจากการแถลงการณ์ของบริษัทค้านำมันของไทย และคำให้สมภาษณ์ของ คุณพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร...แล้วว่า ประเทศไทยไม่ได้ส่งออกน้ำมันไปที่กัมพูชามาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568 ที่มีการเปิดฉากปะทะกันครั้งแรก...!! แต่มีเอ๊ะอยู่นิดเดียวที่รถขนน้ำมันที่ไปจ่ออยู่ชายแดน สสป.ลาว นั้น...อธิบดีกรมศุลกากร...บอกว่าตรวจสอบแล้วว่าส่งออกไปที่ สปป.ลาว จริงๆ อันนี้เราตรวจสอบได้...แต่หลังจากนั้นน้ำมันจะถูกส่งไปไหนต่อ...ตรวจสอบไม่ได้แล้ว...อืม...ท่านพูดจริงว่าส่งไป สปป.ลาว จริงๆ...แต่ใครเอาไปใช้ต่อเรามิอาจหยั่งรู้ได้นิ...จะส่งต่อไปที่ไหนเราก็ตรวจสอบไม่ได้...ส่วนที่ท่านอธิบดีกรมศุลกากร...บอกว่าปริมาณการส่งออกน้ำมันไป สปป.ลาว...ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างผิดปรกติ...เลยอยากถามว่าไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างผิดปรกตินับตั้งแต่ช่วงเวลาไหนเหรอ...ปริมาณการนำเข้าของ สปป.ลาว มันสอดคล้องกับปริมาณการใช้นำมันของ สปป.ลาว ไหม เมื่อเทียบกับขนาดจีดีพีของเขา...!! พูดตรงๆนะ...การปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชาครั้งนี้...กัมพูชาเตรียมตัวมาดีพอสมควรเลย...ดูจากปริมาณอาวุธที่เขาใช้ก็รู้...กระสุนปืนใหญ่ ปืนคอ ลูกกระสุน MB 21...เขายังยิงได้ไม่อั้น และต่อเนื่องมากว่าร่วม 10 วัน...น้ำมันเชื้อเพลิง...ก็คือหนึ่งในยุทธปัจจัยสำคัญ มีหรือว่าจะคิดไม่ออกว่าต้องสะสมไว้ขนาดไหน...ข้อมูลเหล่านี้ต้องล้วงลงไปให้ลึกๆๆ...เผื่อว่าจะได้ข้อมูลสำคัญและเป็นอีกหนึ่งแรงที่ได้ช่วยชาติในยามนี้...** น้ำท่วมใหญ่ที่ภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่หาดใหญ่ที่หนักหนามาก...ความเสียหายต่อทรัพย์สินมหาศาลจริงๆ...กรณีรถยนต์ที่จมน้ำ...มีลูกค้าของ บ.วิริยะประกันภัย มากถึง 4.3 พันคัน เป็นรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 200 คัน...ค่าสินไหมมากขนาดไหนไม่ต้องพูดถึง...แต่ที่ต้องพูดถึงคือสปิริตของวิริยะประกันภัย...ทันที่น้ำลดและสำรวจความเสียหายได้...มีคำสั่งตรงลงมาจาก...คุณอมร ทองธิว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ.วิริยะประกันภัย...ว่าให้เร่งจ่ายสินไหมให้ลูกค้าทุกรายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้...และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ...แม้สาขาของบริษัทจะถูกน้ำท่วมด้วยเหมือนกัน...แต่น้ำลดแล้วก็แค่ล้างโคลนออก...ยังไม่ต้องซ่อมแซมอะไรใหม่...ก็เอาเคาท์เตอร์ที่ชาวบ้านเขาใช้ขายก๊วยเตี๋ยว...เอามาทำเป็นโต๊ะทำงาน เปิดให้ลูกค้า มายื่นขอรับสินไหมกันเลย...ตอนนี้ก็ทยอยจ่ายกันทุกวัน...ได้ใจจริงๆเลยครับ...สมแล้วที่มีหลักการทางธุรกิจว่า...ความซื่อสัตย์คือนโยบาย...**

** อนันตเดช พงษ์พันธุ์ **