สมัยเรียนวิชาภาษาไทย ครูภาษาไทยสอนว่า ภาษานั้นสามารถแยกออกได้เป็น วัจนภาษาและอวัจนภาษา วัจนภาษาหมายถึงภาษาที่ใช้พูดใช้เขียนกันทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นภาษาใดในโลกก็ตาม ส่วนอวัจนภาษาเป็นภาษาท่าทางโดยปราศจากคำพูด ซึ่งภาษาแบบนี้บางทีก็มีความหมายนัยประหวัดและความหมายแฝงซ่อนอยู่ เรื่องการค้นหาความหมายในอวัจนภาษาทั้งหลายทั้งมวลนี่แหละที่กำลังฮือฮากันทั่วโลกนาทีน
ทุกคนย่อมรู้ว่าการเจริญสัมพันธไมตรีทางการทูตนั้นจะใช้ภาษาดอกไม้ในการเจรจาต้าอ้วยกันเสมอ อวยกันไปยอกันมา หยอดโน่นนิดนี่หน่อยชื่นมื่นที่สุด แต่เบื้องหลังภาษาดอกไม้ทั้งหลายนี่สิ..เผลอๆ จัดหนักเต็มไปด้วยน้ำร้อนน้ำลายและคำด่าดิบๆ หากดูกันดีๆ แล้ว “ทีท่า” ระหว่างกันเหล่านี้จะสะท้อนให้เห็นออกมาทาง “อวัจนภาษา” นี่แหละ
เพิ่งเกิดเรื่องขึ้นสดๆ ร้อนๆ และกลายเป็น ทอล์คออฟเดอะทาวน์ หรือจะว่าไปแล้วก็เป็น ทอล์คออฟเดอะเวิล์ด น่าจะถูกกว่า เมื่อมังกรสะบัดหางฟาดลุงแซมอย่างจังกลางสนามบินเมืองหางโจว ซึ่งมีการจัดประชุมกลุ่มประเทศที่เรียกว่า G20 หรือกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ จี 20 ที่ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2542 เป็นกลุ่มรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้บริหารธนาคารกลางจากประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 19 ประเทศ รวมกับสหภาพยุโรป
ประเทศทั้ง 19 ประเทศประกอบด้วยกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 8 ประเทศ (จี-8) คือ อังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น เยอรมนี รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศระบบเศรษฐกิจเกิดใหม่ขนาดใหญ่อีก 11 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เม็กซิโก ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ และตุรกี
ประเทศในกลุ่มจี 20 มีขนาดเศรษฐกิจรวมกันเท่ากับ 90 เปอร์เซ็นต์ของเศรษฐกิจโลก และมีประชากรรวมกันประมาณ 2 ใน 3 ของโลก ดังนั้นการประชุมครั้งนี้จึงถือเป็นการประชุมระดับโลก และที่สำคัญคือเป็นการเดินทางเยือนแผ่นดินจีนครั้งสุดท้ายในฐานะประธานาธิบดีของโอบาม่า เพราะใกล้หมดวาระแล้ว
พอล้อของเครื่องบินแอร์ฟอร์ตวันแตะรันเวย์ปุ๊บ ดราม่าระหว่างประเทศก็เริ่มต้นขึ้นเลยทีเดียว ตามรายงานข่าวหนักไปทางอัดเจ้าภาพฝ่ายจีนว่า “ไม่เป็นมิตร” ทั้งที่จะว่าไปแล้วถือเป็นการแลกหมัดกันอย่างเรียกเสียงโห่ฮาจากชาวโลก
อาเฮียมังกรจีนนั้นเข้มงวดกับการรักษาความปลอดภัยในครั้งนี้มากจนไม่มีข้อยกเว้นใดๆ แม้แต่กับ ซูซาน ไรซ์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของรัฐบาลวอชิงตัน ตลอดจนกองทัพสื่อมวลชนจากทำเนียบขาว ที่เดินทางมารอทำข่าวและบันทึกภาพ เมื่อผู้นำสหรัฐฯเดินทางมาถึง บรรดาเหยี่ยวข่าวและช่างภาพผู้ติดตามจะได้รับการจัดสรรพื้นที่บริเวณด้านใต้ของปีกเครื่องบิน ให้เป็นพื้นที่สำหรับถ่ายภาพในจังหวะที่ผู้นำสหรัฐฯ ก้าวเท้าลงบันไดจากตัวเครื่อง
แต่ว่าเจ้าหน้าที่ของจีนได้ปิดกั้นพื้นที่ดังกล่าวด้วยเชือกสีน้ำเงินเพื่อป้องกันมิให้มีการเข้าถึงตัวผู้นำสหรัฐฯ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่กลายเป็นว่าเรื่องนี้ทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯกับเจ้าหน้าที่จีนทะเลาะกันอย่างรุนแรง แถมมีการถ่ายคลิปแพร่ภาพว่อนไปทั่วโลกทำให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายอเมริกันตะคอกใส่เจ้าหน้าที่จีนอย่างไม่สบอารมณ์ว่า
“นี่คือเครื่องบินสหรัฐฯ.. และนี่คือประธานาธิบดีสหรัฐฯ !"
แต่ยังไม่ทันสิ้นเสียง เจ้าหน้าที่ชายทางฝ่ายจีนก็เว้งแตกสวนออกมาดังลั่นไปทั้งสนามบินว่า
“นี่ประเทศจีน และนี่คือสนามบินของจีน!"
ประเด็นที่เปิดศึกกลางสนามบินคือไม่มีบันใดปูพรมแดงให้โอบาม่าเดินฉีกยิ้มลงมาเยี่ยงผู้นำประเทศอื่น ดังนั้นจึงต้องใช้บันไดฉุกเฉินในเครื่องบินเดินลงมาอย่างไม่สมเกียรติ ผิดกับตอนต้อนรับประธานาธิบดีปูตินราวฟ้ากับเหว เพราะพี่หมีขาวเดินลงบันไดปูพรมแดงมาอย่างสง่าผ่าเผย
จะว่าไปแล้วจีนก็ให้การต้อนรับผุ้นำทุกชาติอย่างให้เกียรติ แต่ในกรณีอเมริกานั้น อาจจะเป็นไปได้ว่าเรียกร้องประเทศโน้นประเทศนี้ให้ทำตามกฎของตนตลอดเวลาจนเคยตัว เมื่อมาเหยียบแผ่นดินมังกรและนำเครื่องบินลำใหญ่โตมโหฬารมาด้วยก็จุกจิกหยุมหยิมเอากับอาเฮียเจ้าของประเทศจนเกิดเรื่องกระทบกระทั่งหมางใจกันที่สนามบิน กระนั้นลุงแซมก็ยังไม่วายปากดีด้วยการกัดแขวะพญามังกร โดยเฉพาะนางซูซาน ไรซ์ ถึงกับออกปากว่า
“พวกเขาทำสิ่งต่าง ๆ ซึ่งเราไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลย”
ไอ้ประโยคแหละที่แสดงสันดานมะริกันออกมาอย่างชัดเจน เพราะเท่ากับยอมรับว่าได้ใจในการวางอำนาจให้ประเทศอื่นทำตามกฎและหลักเกณฑ์ของตนแต่ฝ่ายเดียว พอมังกรพ่นไฟใส่จนหน้าเกรียมไปนิดก็ขัดใจกันเป็นแถว แต่ทุเรศไปกว่านั้นคือ ทั้งขบวนมีแสดงทัศนะว่า เรื่องนี้ตอกย้ำให้เห็นช่องว่างความแตกต่างด้านความคิดเห็นของสองประเทศในเรื่องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพของสื่อมวลชน
เอ้า..ดันไปแว้งกัดหางมังกรอีกจนได้ มีการยกตัวสูงแล้วเหยียดคนอื่นต่ำอีกนะ ลุง ช่างปากเสียอย่างร้ายกาจจริงๆ แต่ในขณะที่ลุงแซมบ่นอุบอิบๆ อยู่นั้น ชาวโลกที่รุมมุงดูเหตุการณ์นี้ต่างตบมือกระทืบตีนโห่ฮาสะใจกันเพียบ
จะยกเว้นก็แต่พวกวอนนาบีลิเบอรัลในบ้านเราหลายกลุ่มที่ทนไม่ได้หากใครแตะต้องคุณพ่ออเมริกา ถึงกับออกมาด่าคนที่สะใจต่างๆ นานาว่า คนที่สะใจกับการที่จีนทำตัว “ทราม” ทางการทูตนั้นย่อมเป็นคนถ่อยและทรามไม่ต่างกันนัก แถมตบท้ายแบบโชว์ความเหนือกว่าทำนองว่าให้ระวังไว้เถอะเพราะจีนเองก็อันตรายเหมือนกัน บางคนก็ออกมาเทศนาว่าผู้ที่สะใจในเรื่องนี้คือเห็นด้วยกับการลดทอนคุณค่าของมนุษย์..เพราะจีนไม่ทำหน้าที่ต้อนรับแขกเมือง น่าละอาย และควรถูกประณามอย่างหนัก
อ่านแล้วเท่มากจริงๆ แต่วางถุงกาวลงก่อนก็ได้นะ เพราะเรื่องทั้งหมดมีอยู่ว่า ทางการจีนได้เตรียมบันไดพรมแดงไว้ต้อนรับผู้นำทุกชาตินั่นแหละ แต่ด้วยความที่คนจีดนั้นพูดอังกฤษไม่ได้ คนขับรถบันไดติดพรมแดงสื่อสารกันไม่รู้เรื่องกับมะริกัน ทางการจีนเลยเสนอว่าให้เอาล่ามนั่งไปด้วยจะได้คุยกันรู้เรื่อง แต่งานนี้ลุงแซมดันบอกปัดเองว่าไม่เอาบันไดพรมแดง สุดท้ายโอบาม่าเลยต้องเดินหงอยๆ ลงบันไดมาอย่างน่าเอ็นดูตามข่าวนั่นแหละ
ขอพูดตรงๆ ว่าไม่ได้รักใคร่ชื่นชมอาเฮียมังกรจีนมากมายเท่าใดนักหรอก เพราะรู้ว่าเผลอๆ เฮียก็อาจจะออกลาย “อั้งยี่” ไล่เลี๊ยะพ๊ะชาวบ้านเหมือนกัน แต่ถ้าเทียบกับลุงแซมแล้ว ความต่ำทรามของเฮียแกน้อยกว่าลุงแซมพะเรอเกวียน ในเมื่อเฮียใช้แม่ไม้กังฟูฟาดกลางกะบาลลุงแซม ไทยมุงอย่างเราๆ ก็ต้องเป่าปากปิ๊ดปิ๊วกันบ้าง เพราะลุงแซมถ่อยใส่ชาวบ้านร้านถิ่นทั่วโลกมานานแล้ว แถมบางหนยังก้าวก่ายเข้าไปเสี้ยมให้คนในประเทศเดียวกันฆ่ากันเองอีกด้วย ไม่เชื่อลองไปถามประเทศแถวตะวันออกกลางบางประเทศดูสิ นาทีนี้ลุงแซมเดินไปทางไหนก็มีแต่คนยี้ใส่กันทั่วหน้า
ปีกลายพญามังกรไปเยือนอังกฤษ ปรากฎว่าสมเด็จพระราชินีอังกฤษมาต้อนรับเฮียสี่ด้วยตนเอง แถมยังนั่งไปในรถคันเดียวกันอย่างสมเกียรติ โดยมีเหล่าทหารกองเกียรติยศและราชองครักษ์ตบเท้าเข้าแสดงความเคารพมารอต้อนรับเพียบ แต่พอโอบามาพาเมียมาเยือนอังกฤษ มีแค่รถ Range Rover มาต้อนรับ ส่วนคนที่มาต้อนรับก็คือม็อบต่อต้าน TTIP ของสหรัฐกับอียู ดูน่ารักไม่ใช่เล่น ไม่มี๊..ไม่มีเลยกองทหารเกียรติยศทั้งหลายทั้งปวงแบบที่เฮียสี่ได้ชมเป็นขวัญตาข้างๆ ควีนออฟอิงแลนด์
เมื่อครั้งที่ลุงแซมแวะไปหาลูกหาบอันดับหนึ่งในแถบอาหรับคือซาอุดิอาระเบีย กษัตริย์ไม่ไปรับโอบาม่าแต่อย่างใด แต่ส่งผู้นำท้องถิ่นกับทูตอเมริกันไปรับแทน เล่นเอาโอบาม่าสีตกกลางทะเลทรายกันเลยทีเดียว
แต่หากเหล่าลิเบอรัลวอนนาบีไทยย้อนกลับไปอ่านข่าวจะเห็นว่าสิ่งที่ลุงแซมทำไว้กับเฮียสี่ก็แสบวายป่วงเหมือนกัน เดือนนี้เมื่อปีกลายเฮียสี่เดินทางไปเจรจาต้าอ้วยกับโอบาม่า แต่โอบามาให้การต้อนรับเฮียสีอย่างขอไปที เพราะโป๊บเสด็จมาเยือนอเมริกาช่วงนั้นพอดี งานนี้เล่นเอาเฮียสี่ร้องไอ๊หย๋า เพราะนอกจากจะเจอการต้อนรับแบบเสียไม่ได้แล้ว ก่อนหน้าการมาเยือน ลุงแซมให้ผู้นำระดับต่าง ๆ ออกมาอัดมังกรจีนอย่างสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสงครามไซเบอร์ เรื่องค่าเงินหยวน เรื่องเศรษฐกิจจีนที่ตกต่ำ และเป็นต้นเหตุให้ฉุดเศรษฐกิจโลกให้ดิ่งเหว รวมไปถึงเรื่องเกาะเทียมของจีนในทะเลจีนใต้
พูดแบบบ้านๆ คงต้องบอกว่า มีอย่างที่ไหน รู้ว่าแขกกำลังเดินทางมาบ้าน แต่กลับปล่อยหมาเป็นฝูงๆ ให้ออกไปเห่าใส่หน้า แถมยังให้คนใช้ในบ้านยืนนินทาด่าแขกให้ได้ยินอย่างถนัดชัดเจน แบบนี้แขกจะสนิทใจในการมาพักบ้านได้อย่างไร เฮียสี่ก็คงคิดทำนองนี้นั่นแหละ
มาวันนี้ลุงแซมมาเหยียบแผ่นดินมังกรเลยต้องถอนขนกันบ้างพอสะดุ้งเป็นการเอาคืน จะว่าไปลุงแซมก็กร่างสุดตีนจนไม่สนใจจะปฏิบัติตามกฎของประเทศไหนมาจนเคยตัว พอไม่ได้ดังใจหรือโดนด่าตรงๆ ก็ชักดิ้นชักงอเพราะรับไม่ได้กับแรงอัดกลับเหล่านั้น
ถ้าการต้อนรับผู้นำประเทศต่างๆของจีน ให้เกียรติเป็นมาตรฐานเดียวกัน ถือว่าการกระทำของจีนรับได้ แต่หากอาคันตุกะจะมาขอการต้อนรับเป็นพิเศษเพื่อแสดงความเป็นมหาอำนาจแล้วเบ่งต่อเจ้าของบ้านแบบนี้ ก็สมควรโดนศอกกลับแล้ว นี่แหละที่เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์โลกแท้ๆ ไม่ต้องให้ใครออกมาทำเท่สั่งสอนเรื่องคุณค่าความเป็น “มนุษย์” หรอก
แต่อย่างไรก็ตาม ในการพบปะกันระหว่างโอบาม่าและเฮียสี่อันเป็นสาระหลักมากกว่าเรื่องลงประตูไหนใช้บันไดไหนก็เป็นไปอย่างน่าพอใจ แม้จะงัดข้อกันบ้างนิดหน่อย แต่ก็ดูราบรื่นพอสมควรและบรรลุเจตนารมย์ในการประชุม เรื่องนี้แหละที่คือสาระสำคัญที่สุด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี