ตุ๊กตาผ้าเก่าๆ ตัวนั้นถูกจัดวางไว้ข้างหน้าต่างร้านขายของเก่าแบบแอนธีค ซึ่งปัจจุบันไม่ค่อยมีใครเห็นตุ๊กตาแบบนี้เท่าไหร่แล้ว ตุ๊กตาแร็กจีดี้ แอนน์ ดูซื่อๆ เป็นตุ๊กตาผ้าเย็บด้วยมือ ผมแดงและจมูกสามเหลี่ยม มีต้นกำเนิดย้อนไปในปี คศ. 1880 สมัยก่อนถือเป็นตุ๊กตายอดนิยมสำหรับเด็กๆ เลยทีเดียว
เมื่อตุ๊กตาแบบนี้เป็นของเก่า คุณแม่ของสาวน้อยดอนน่าเลยอยากซื้อให้ลูกสาวเป็นของขวัญวันเกิด เพราะถือเป็นของล้ำค่าจากแม่สู่ลูกสาวเช่นเดียวกับแม่ในยุคปี คศ.1880 ที่เย็บตุ๊กตาผ้าแบบนี้ให้ลูกสาวสุดที่รักเล่นในวัยเยาว์ จึงผลักประตูร้านเดินเข้าไปถามราคา แล้วอุ้มตุ๊กตาผ้าผมแดงตัวนั้นกลับบ้าน
ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องแนวแฮปปี้เอ็นดี้งใช่ไหม..ถ้าตอบว่า “ใช่” นั่นแสดงว่าคิดผิดแล้ว..เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของความสยองทั้งปวงในเวลาต่อมา
ในปี คศ.1970 ดอนน่า นักเรียนวิชาพยาบาลได้ตุ๊กตาผ้าผมแดงแบบแร็กจีดี้ แอนน์ซึ่งเป็นงานเย็บมือแบบเก่าจากคุณแม่ของเธอเป็นของขวัญวันเกิด โดยที่คุณแม่ไปเจอตุ๊กตาตัวนี้ที่ร้านขายของแอนธีคแห่งหนึ่งเลยคิดถึงลูกสาวขึ้นมา
ดอนน่านำตุ๊กตามาไว้ในอพาทเมนต์ใกล้หอพักพยาบาลโดยเช่าอยู่ร่วมกับแองจี้ เพื่อนนักเรียนพยาบาลเช่นเดียวกัน ด้วยความคิดถึงแม่ ดอนน่าจึงวางตุ๊กตาตัวนี้ไว้ที่หัวเตียง เพราะเป็นเหมือนตัวแทนความรักของแม่มีต่อเธอ แต่อีกสามวันต่อมาเกิดเรื่องประหลาดขึ้นภายในอพาทเมนต์เล็กๆ แห่งนั้น
ทั้งดอนน่าและแองจี้สังเกตว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับตุ๊กตาตัวนี้ เพราะดูเหมือนว่ามันมีชีวิตเดินไปมาได้เองรอบห้อง เช่นหากวางตุ๊กตาทิ้งไว้ในท่าหนึ่ง พอกลับมาจะพบว่ามันนั่งอีกท่าหนึ่งที่ไม่ใช่ท่าแรกที่วางตุ๊กตาเอาไว้ บางทีพบว่าตุ๊กตากำลังนั่งกอดอกหรือแม้แต่ไขว้ห้างเหมือนคน แต่น่าตระหนกที่สุดคือ ครั้งหนึ่งทั้งคู่พบว่าตุ๊กตาผ้าตัวนี้ยืนบนขาของตัวเองโดยพิงเก้าอี้อยู่ในห้องกินข้าว หลายต่อหลายหน ดอนน่าทิ้งเจ้าตุ๊กตาแร็กจีดี้ แอนน์ ไว้บนโซฟาในห้องรับแขก แต่พอกลับมาจากเรียนพบว่าตุ๊กตามาอยู่บนเตียงของเธอทั้งๆที่ไม่มีใครอยู่บ้านและประตูห้องนอนก็ปิดสนิท
คืนหนึ่งดอนน่ากลับจากเรียนหนังสือ ทันทีที่เปิดประตูห้องนอนพบว่า ตุ๊กตาตัวนั้นเคลื่อนที่เองอีกแล้วโดยที่คราวนี้นั่งอยู่บนเตียงของเธอ
หลังจากเกิดเรื่องแปลกๆ หลายครั้งติดต่อกัน ทั้งคู่ก็ติดต่อร่างทรง ดอนน่าจึงได้รู้ว่าในตุ๊กตาตัวนั้นมีวิญญาณเด็กหญิงตัวน้อยสิงอยู่นาม แอนนาเบลล์ ฮิกกินส์ แอนนาเบลล์เป็นเด็กผู้หญิงที่เคยอยู่ในละแวกอพาทเมนต์ที่เธอกับแองจี้เช่าอยู่ แอนนาเบลล์มีวัยเพียง 7 ขวบเท่านั้นตอนมีคนพบร่างไร้ชีวิตบริเวณทุ่งหญ้า อันเป็นที่สร้างอพาทเมนต์หลังนี้
ดอนน่าเริ่มหวาดกลัวตุ๊กตาแอนนาเบลล์ เพราะรู้สึกว่าแอนนาเบลล์ไม่ได้เป็นวิญญาณเด็กหญิงแอนนาเบลล์อย่างแน่นอน หากแต่เป็นอะไรบางอย่างที่น่าสะพรึงกว่านั้น เธอจึงติดต่อกับบาทหลวงฮีแกนแห่งสำนัก Episcopal ฮีแกนเชื่อว่ามีดวงวิญญาณเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริง จึงติดต่อบาทหลวงอีกท่านหนึ่งซึ่งแนะนำครอบครัววอร์เรนส์ให้ดอนน่ารู้จัก
เอ็ดและลอร์เรน วอร์เรน เป็นคนทรงและเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์สิ่งของสยองขวัญที่เชื่อกันว่ามีวิญญาณสิงอยู่ภายใน ทั้งคู่ขอพบดอนน่าเพื่อเผชิญหน้ากับแอนนาเบลล์ หลังจากที่คุยกับดอนน่าและแองจี้ ก็สรุปได้ว่า ตุ๊กตานั้นไม่ได้ถูกสิง แต่ถูกชักใยด้วยพลังงานชั่วร้าย เพราะวิญญาณจะไม่สิงอยู่ในสิ่งของหรือบ้าน หากแต่ต้องการเข้าสิงคน แต่วิญญาณก็สามารถตรึงตัวเองไว้กับสิ่งของได้
กรณีของแอนนาเบลล์ วิญญาณร้ายควบคุมตุ๊กตา ทำให้มีชีวิตเพื่อเรียกร้องความสนใจ เมื่อได้ข้อสรุปในการสืบสวนแล้ว ครอบครัววอร์เรนคิดว่าควรให้บาทหลวงสวดเพื่อปัดเป่าขับไล่วิญญาณในอพาทเมนต์
ครอบครัววอร์เรนทำตู้พิเศษไว้ใส่แอนนาเบลล์ในพิพิธภัณฑ์ออคคัลท์ ตั้งแต่เข้าไปอยู่ในตู้นี้ แอนนาเบลล์ไม่เคยโผล่ที่ไหนอีกเลย
แต่มีเคสหนึ่งที่มีคนมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ลบหลู่อิทธิฤทธิ์ของแอนนาเบลล์ หลังจากที่เอ็ดเล่าเรื่องของแอนนาเบลล์ให้ฟัง ชายคนนั้นตรงไปที่ตู้เคาะกระจกแล้วพูดจาท้าทาย ระหว่างทางกลับบ้าน ชายหนุ่มและแฟนสาวควบคุมรถไม่ได้ ชนต้นไม้ยับเยิน ชายหนุ่มตายคาที่ แฟนสาวรอดชีวิตมาได้ แต่ก็ต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน
ปัจจุบันนี้แอนนาเบลล์ถูกกักเอาไว้ในตู้กระจก ที่สร้างขึ้นพิเศษที่พิพิธภัณฑ์ออคคัลท์รัฐคอนเนคติกัต รวมกับสิ่งของแปลกประหลาดอื่นๆ ของนายและนางวอร์เรน แม้ในปัจจุบันก็ยังมีรายงานว่า แอนนาเบลล์ยังออกมาสร้างความสยองขวัญให้กับผู้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์อยู่เรื่อยๆ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี