ดูเหมือนว่าทุกวันนี้ เดินไปที่ไหนก็ได้ยินคนพูดคำหยาบกันเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นเด็กนักเรียน ไล่มาตั้งแต่เด็กประถมตัวกระเปี๊ยก ไปจนเด็กมัธยมวัยฮอร์โมนว้าวุ่น ลามเข้าไปสู่เด็กมหาวิทยาลัย คนวัยทำงาน ก็ได้ยินคำหยาบลอยมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ แม้กระทั่งคนที่เป็นพ่อคนแม่คน ก็ได้ยินอยู่เรื่อยๆ จนน่าแปลกใจ ได้ยินแม้กระทั่งระหว่างนั่งรอรับลูกที่โรงเรียน !
ด้วยความที่ภาษาไทยเรา มีแบ่งชนชั้นทางภาษาเยอะมาก ต่างจากภาษาอังกฤษที่มีแค่ I กับ You แต่บ้านเรามีเยอะจริงๆ ยังไม่นับคำสบถมากมาย คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่า
1.เป็นสิทธิ์ของฉันที่จะพูดอะไรก็ได้
2.เข้าใจไปว่าการพูดหยาบ เป็นการแสดงความสนิท
ขอให้เข้าใจใหม่ว่า
1.คุณไม่ได้มีสิทธิ์ในการพูดหยาบที่ไหนก็ได้
ขอเปรียบเทียบกับการสูบบุหรี่ เมื่อมีใครสูบบุหรี่ ควันบุหรี่มันกระทบกับคนอื่น เพราะควันมันฟุ้งกระจายไปทั่ว คำพูดของเราก็เช่นกัน เมื่อเราเปล่งเสียงออกไป เสียงของเราก็ดังไปทั่วบริเวณนั้น
ถ้ามีใครสูบบุหรี่ในบ้านคุณ หากคุณไม่ชอบบุหรี่ คุณคงไม่ยอมและต้องขอให้คนๆ นั้นหยุดสูบ หรือไปสูบที่อื่นไกลๆ เพราะควันบุหรี่มันมีผลกระทบกับจมูก หลอดลม ทำให้คุณไอมากหรือแพ้น้ำหูน้ำตาไหล ทำนองเดียวกัน คำหยาบที่คุณเปล่งออกไป มันก็ไปกระทบกับคนอื่น ไม่ใช่ทุกคนที่อยากฟังคำหยาบ ผมคนนึงล่ะ ที่ฟังแล้วมันอึดอัดและหงุดหงิด ยังไม่นับการเขียนคำหยาบ ที่เราเห็นเกลื่อนกลาดบนโลก Social network
ที่แย่กว่าคือ คำที่พูดไม่คิดจากคนพวกนั้น มันเข้าหูลูกๆ ผม เวลาที่ลูกผมถามความหมายแต่ละคำ ต้องอธิบายกันยาว แล้วต้องกำชับตบท้ายว่า คำแบบนี้บ้านเราไม่ใช้นะลูก น่าเสียดายที่บ้านเรายังไม่มีวัฒนธรรมไปสะกิดหรือเตือนคนที่พูดหยาบ ให้หยุดใช้คำหยาบ
2. การแสดงความสนิทสนม ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคำหยาบ
คำหยาบ คือ คำที่ทุกคนในสังคมนั้นๆ เห็นพ้องว่า ไม่ควรนำมาใช้ ไม่ใช่สิ่งที่สมควรเอามาพูดกัน คุณจะใช้คำหยาบพูดกับเจ้านาย รัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรีเวลาที่พบหน้ากันหรือเปล่า? ดังนั้นโดยปกติแล้ว คำหยาบมักสร้างความตึงเครียดให้กับทั้งผู้พูดและผู้ฟัง เพราะเป็นจิตใต้สำนึกที่รู้ๆ อยู่ว่า นี่เป็นคำที่ไม่ควรใช้ คำหยาบจะต่างจากความผิดอีกหลายอย่าง เพราะไม่มีบทลงโทษตามกฎหมาย ต่างจากการขโมยของ แบบนี้โดนจับแน่ๆ แปลว่า ถ้าอยากสนิทสนมกัน ไม่จำเป็นต้องพูดคำหยาบ
ผมกับหมอสาริณีสนิทกันที่สุดในโลก แต่เราไม่เคยเรียกสรรพนามแทนกันว่า กู มึง หงุดหงิดก็พูดไอ้เหี้ย โกรธกันก็พูดไอ้สัตว์ ไอ้ห่าเอ๊ย เชี่ยแม่ง
แค่อ่านก็เครียดแล้วใช่ไหมครับ?
ผมกับภรรยา ก็เรียกกันดีๆ น่ารักๆ สุภาพๆ “เค้า” “เตง” ย่อมาจาก ตัวเอง
ที่แย่กว่านั้น คำหยาบทั้งมวล กระตุ้นความโกรธได้ง่ายมาก แล้วคุณจะเสี่ยงยั่วโมโหคู่สนทนาคุณไปทำไม?
ฝึกกันใหม่ครับ
ใครที่พูดอยู่ ต้องฝึกเลิกพูด แล้วคุณจะรู้ว่าไม่ง่ายเท่าไหร่ เพราะมันติดลิ้นไปเสียแล้ว ใครที่มีลูก ต้องเน้นอย่างมาก สอนลูกว่าคำหยาบไม่ควรไปพูดที่ไหนเลย คำหยาบไม่ได้ทำให้ลูกสนิทกับเพื่อนมากขึ้น ที่แย่คือ มันลดคุณค่าของตัวลูกเอง ลูกรู้ไหมว่า ผู้ชายดีๆ พอเวลาได้ยินผู้หญิงหน้าตาดีพูดคำหยาบ เค้าจะเลิกสนใจแล้วมองหาคนที่ดีกว่า แปลว่าคำหยาบมันจะดึงเอามาแต่ผู้ชายที่ดีน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เข้ามาในชีวิต และพ่วงด้วยความยุ่งเหยิง
ทำนองเดียวกัน ผู้หญิงดีๆ เค้าก็ไม่อยากยุ่งกับผู้ชายที่ใช้คำหยาบ เค้าจะมองหาผู้ชายที่ดีกว่านั้น ผู้ชายดีๆที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติที่ดี มีอยู่จริง แล้วคนก็จะเข้าใจไปว่าเป็นเรื่องของความโชคดีซะงั้น
สมมติลูกคุณไปเดินอยู่ แล้วก็พูดกันอย่างสนุกสนานกับเพื่อนและเต็มไปด้วยคำหยาบ ใครจะรู้ว่าอาจมีคนที่เป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักลูก บังเอิญผ่านไปได้ยิน แล้วอาจมีผลกระทบกับอนาคตโดยไม่จำเป็น ไม่คุ้มเลย
สรุปสั้นๆ คือ คำหยาบไม่ควรพูด ไม่ควรเขียน และไม่มีที่ใช้ครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี