แก้ร้อนด้วยขนมจีนซาวน้ำแล้วตามด้วยก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย
ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยต้มยำ
ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย เป็นก๋วยเตี๋ยวประจำถิ่นของชาวสุโขทัย ที่กินต่อเนื่องกันมาอย่างยาวนาน เอกลักษณ์ของก๋วยเตี๋ยวสูตรโบราณขนานแท้ ต้องไม่ขาดกระเทียมไทยเจียวกับกากหมู ถั่วลิสงคั่วป่นใหม่ หมูแดง ถั่วฝักยาวหั่นแฉลบลวก และใบผักชีฝรั่งซอยละเอียด การปรุงรสต้มยำกลมกล่อมจัดจ้าน หากจะปรุงรสเปรี้ยวก็ต้องใช้มะนาวสดเท่านั้น สำหรับน้ำซุปก็ต้องใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลโตนด เพราะจะช่วยเสริมความกลมกล่อมให้แก่น้ำซุปมากยิ่งขึ้น
ในบรรดาก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยต้องยกให้ ห้องอาหารสมทรง เจ้ายุทธจักรก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยแห่งกรุงเทพฯ ร้านนี้อยู่ริมถนนสามเสนระหว่างซอย 3 กับซอย 5 เดิมเปิดร้านที่หน้าวัดสังเวชนาน 40 กว่าปี จึงย้ายมายังที่ตั้งในปัจจุบันได้ 3 ปี เพราะอยู่ริมถนนสามเสนมีที่จอดรถริมถนนได้เป็นบางเวลาหรือไปจอดในวัดสามพระยาสะดวกกว่าเดิม ร้านนี้สร้างชื่อด้วยก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย และขนมอินทนิล
ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยแห้ง
ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยของที่นี่เป็นสูตรของสุโขทัยแท้ เพราะชาวสุโขทัยมาเอง มีทั้งแห้งและน้ำ เครื่องเคราใส่ง่ายๆ จำพวกหมูแดงและหมูสับ ใส่ชนิดไม่ขี้เหนียว น้ำก๋วยเตี๋ยวเคี่ยวน้ำต้มกระดูกมาอย่างดีหอมหวานเหมือนน้ำซุปชั้นยอด ถ้าสั่งแบบต้มยำได้รสเข้มลึกถึงอกถึงใจพระเดชพระคุณ ใส่หมูบะช่อ หมูแดง หัวไชโป๊ว ถั่วฝักยาว ปรุงตามตำรับดั้งเดิม ได้รสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม จัดจ้าน เผ็ดกำลังดี ถั่วฝักยาวก็มีวิธีหั่นเฉียงแล้วลวกไม่เหม็นเขียว แถมโรยกากหมูกรอบมาให้มากอย่างไม่หวง
ขนมจีนซาวน้ำ
ขนมจีนซาวน้ำ เป็นอาหารไทยโบราณที่หากินได้ยาก อยากกินต้องมาที่ร้านสมทรงนี้ ใส่เครื่องเคราครบตามตำรับไทยแท้ เมื่อก่อนนิยมกินคลายร้อน นับเป็นอาหารไทยประจำฤดูร้อน ถึงพริกถึงขิงด้วยขิงซอย กระเทียมสดฝาน กุ้งแห้งป่นโรย ราดด้วยหัวกะทิเคี่ยวเข้มข้นลอยมากับแจงลอน(ลูกชิ้นปลากรายลวก) สับปะรดซอยแซมหน้า แล้วบีบน้ำมะนาว แปลงจากตำรับสมุทรสงครามและเพชรบุรีด้วยการปรุงรสหวานด้วยน้ำตาลโตนดหรือน้ำตาลมะพร้าว ท้ายสุดตักพริกขี้หนู น้ำปลาราดมากน้อยตามแต่รสปากของคนกิน ยังความสดชื่นให้กับการกินอาหารหน้าร้อนได้ฉ่ำใจอย่างน่าแปลก
ถาดกับข้าวหลากหลาย
เป็นร้านข้าวราดแกงฝีมือดีอีกร้านหนึ่งของกรุงเทพฯ ด้วยรสมือของชาวสุโขทัยของแท้ บรรดาเครื่องแกงและเครื่องปรุง โขลกตำกันเองในครัว สามารถสัมผัสได้ถึงความสดใหม่และรสของบรรดาแกงและผัดต่างๆ กับข้าวของร้านนี้ชูรสถึงเครื่อง กลิ่นรสแกงเขียวหวานแตกต่างจากเจ้าอื่น ทำให้ระลึกถึงรสมือคนเก่าแก่ที่นับวันจะเลือนหาย นอกจากนั้นยังบริการอาหารจานเดียวประเภทข้าวแกงและขนมจีน เช่น ข้าว-ขนมจีนราดแกงตามวัน เช่น แกงลูกชิ้นปลากราย แกงเนื้อ ผัดกะเพราะเนื้อ ไก่อบ ยำปลาทู ผัดเผ็ดปลาดุก ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย เป็นต้น
ขนมจีนแกงไก่
แม้จะย้ายร้านมา ก็ยกความอร่อยมาไว้ที่ร้านใหม่อย่างครบถ้วน แกงเขียวหวานไก่หรือเนื้อ รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม แต่ละวันจะมีรายการเด็ดสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนอยู่เสมอแก้เบื่อ และขึ้นอยู่กับวัตถุดิบตามแต่ฤดูกาล โดยทางร้านจะหมั่นเพิ่มเมนูความอร่อยเป็นพิเศษ
ผัดกะเพราเนื้อราดข้าว
พอได้ยินคำว่าผัดกะเพรา ต่างก็พร้อมใจกันเรียกว่ากับข้าวสิ้นคิด แต่อยากจะเรียกว่าเป็นอาหารอมตะมากกว่า ปรุงง่ายๆ มีเพียงพริกขี้หนูโขลกกับกระเทียม เหยาะน้ำปลา ใบมะกรูดฉีก กับใบกะเพราอีกขยุ้ม เพียงแค่นี้ก็เจริญอาหารได้ทุกวันไม่รู้เบื่อ (ปัจจุบันเพี้ยนกันไปหมดด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊ว และผักอื่นๆ ที่ไม่ใช่ใบกะเพรา จนไม่รู้ว่าเป็นอาหารชาติไหนกันแน่)
ข้าวคลุกกะปิ
กลิ่นกะปิชั้นดีหอมโชยมาแตะจมูกแต่ไกล เดาว่าเมื่อเดิมใช้น้ำพริกกะปิก้นถ้วยมาผัดคลุกเคล้ากับข้าวเย็น จนได้ข้าวเรียงเม็ดสวย รสชาตินวลแกมเผ็ดเล็กน้อย วางผักสดกินแนม เช่น มะเขือเปราะสด แตงกวา ถั่วฝักยาว ถั่วพู ฯลฯ ตักหมูหวานเคี่ยว วางเคียงไข่เค็มอีกเสี้ยว เป็นอีกหนึ่งความเรียบง่ายของกับข้าวแบบชาวบ้าน องค์ประกอบเหล่านี้เมื่อผสมกันให้ความรู้สึกเจริญอาหารเหมือนนั่งกินอยู่ริมทุ่ง
ไชโป๊วผัดไข่
กับข้าวง่ายๆ ประจำบ้านที่เราคุ้นเคยกินกันมาแต่อ้อนแต่ออก แต่เมื่อได้ชิมของร้านนี้ รสชาติไม่เหมือนที่ผัดกินกันเองตามบ้าน ได้พยายามลองทำเองอย่างไรก็ไม่เหมือนของที่นี่ เหมือนมีเวทมนต์สูตรลี้ลับที่ไม่บอกใคร
หมูกะปิ
โดยปรกติเมื่อเห็นอาหารทำจากหมูสามชั้นถ้ามันเลี่ยนใครเห็นก็จะเบือนหน้าหนี แต่แค่เห็นสีสันหมูกะปิในถาดนี้ ก็กระตุ้นต่อมให้อยากคลุกข้าวกินหรือกินแก้เผ็ดจากแกงทั้งหลาย ลักษณะสีสันที่คลุกเคล้าด้วยเครื่องปรุงที่เคี่ยวได้กำลังดี แถมโรยใบมะกรูดซอยละเอียดให้ความหอม จนทำให้ไม่รู้สึกถึงความมันน่าเกรงว่าจะไปเติมไขมันในพุง
ยำหมูสามรส
ยำยอดนิยมถาดนี้มีแทบทุกวัน หั่นหมูย่างเป็นเส้น ยำกับผลไม้รสเปรี้ยว ทีเด็ดทีขาดอยู่ที่การปรุงน้ำยำที่ครบรสเข้มสะท้านใจ
ขนมอินทนิล
อิ่มจากของคาวแล้วก็ต้องตบท้ายด้วยขนมหวานเป็นการล้างปากกับขนมอินทนิล ซึ่งเดี๋ยวนี้หากินได้ยาก แทบไม่เคยพบจากร้านอื่น เป็นขนมไทยที่ใช้แป้งผสมน้ำใบเตยสีเขียว นำไปกวนจนเหนียว ปั้นเป็นก้อน กินคู่กับน้ำกะทิหอมควันเทียน ใส่น้ำแข็งลงไปเพิ่มความเย็นสดชื่น เคี้ยวหนึบหนับ ที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมทำขายกันทั่วไปก็อาจเป็นเพราะกระบวนการทำต้องใช้เวลาในการกวนค่อนข้างนาน จึงมีขายสัปดาห์ละ 1 วัน โดยเป็นขนมประจำวันจันทร์เท่านั้น
ข้าวฟ่างเปียก หอมหวานอร่อย
ขนมหวานสูตรโบราณที่นานๆ ได้พบสักหนคือ ข้าวฟ่างเปียก เป็นขนมไทยรสชาติอร่อยอีกชนิดหนึ่ง มีความหวานมันอย่างเป็นเอกลักษณ์ ด้วยกลิ่นหอมจากใบเตย ใช้ข้าวฟ่างชนิดเม็ดเล็ก ได้รสหวานจากน้ำตาลอ้อย รสมันจากกะทิคั้นสด เติมเกลือเค็มปะแล่ม ควรกินแบบอุ่นเพราะทิ้งนานมักจะอืดได้ง่าย กินแล้วอุ่นท้องและอุ่นใจเป็นที่สุด บางคนไม่ชอบกินร้อนสามารถใช้เทคนิคโดยนำไปแช่เย็นก็ไม่ผิดกติกาอันใด
ห้องอาหารสมทรง
173 ถนนสามเสน ระหว่างซอย 3 และ ซอย 5
ตรงข้ามวัดใหม่อมตรส เยื้องปั๊มปตท. ก่อนถึงที่ทำการเขตพระนคร
โทร : 080-4443110 , 061-9711883
เปิดทุกวัน 09:30 น. - 17:00 น.
แผนที่ มูฮัมหมัด พันธ์โพธิ์
ภาพ แพรไพลิน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี