การจากไปของ ลุงธง แจ่มศรี หรือ ลุงดิน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย คนที่ 4 เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทำให้คนในสังคมจำนวนหนึ่งได้รับรู้เรื่องราวบางอย่างของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.), ของลุงธง แจ่มศรี และของสหายนำบางคนของ พคท. ที่พวกเขายังไม่เคยได้รับรู้ ผ่านการนำเสนอข่าวสาร และบทความของสื่อสำนักต่างๆ
ในท่ามกลางข่าวสารและบทความดังกล่าว มีข่าว 2 ข่าว ที่อ่านแล้วชวนให้ต้องคิด ข่าวแรกคือ การโพสต์แสดงความเสียใจและไว้อาลัยในเฟซบุ๊คของ ไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) อีกข่าวคือ การกุมมือจ่านิว ฝากอนาคตประเทศของ มธ. รุ่นแรก
กล่าวสำหรับข่าวแรก คุณไพศาล พืชมงคล ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊คของตน ในวันเดียวกับที่ลุงธงจากไปว่า
“ขอแสดงความเสียใจและไว้อาลัยต่อการจากไปของลุงธง แจ่มศรี อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย คุณูปการต่อประเทศชาติของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยและลุงธง แจ่มศรี ที่สำคัญประการหนึ่งคือปฏิเสธข้อเสนอของกองทัพเวียดนาม เมื่อครั้ง ยกกำลัง 3 แสนคนพร้อมรถถังมาประชิดชายแดนไทยและเสนอให้กองทัพปลดแอกประชาชนของพรรคคอมมิวนิสต์ไทยเป็นกองหน้าเข้ายึดภาคอีสานแบบที่เฮงสัมรินยึดกัมพูชา แต่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยได้ปฏิเสธ พร้อมกับยื่นคำขาดกลับไปว่า ห้ามไม่ให้กองทัพเวียดนามลุกล้ำดินแดนประเทศไทยเด็ดขาด มิฉะนั้นกองทัพปลดแอกประชาชนจะแปรขบวนเข้าร่วมกับกองทัพไทย และจะออกสู่แนวหน้าทำสงครามกับกองทัพเวียดนามเอง จากนั้นก็ได้แจ้งข่าวสารมายังกองทัพไทย เพื่อเตรียมรับมือกับสงคราม!! คนบางคนแม้ศัตรูยังต้องเคารพยำเกรง แต่คนบางคน แม้มิตรก็ยังต้องเหยียดหยาม! คนเราเกิดมาแล้วต้องตาย แต่คุณค่าการตายไม่เท่ากัน บ้างหนักกว่าขุนเขา บ้างเบากว่าขนนก! ความตายของคนรับใช้ชาติประชาชนหนักกว่าขุนเขา!!!”
การเปิดเผยความจริงในประวัติศาสตร์ ที่ พคท. ปฏิเสธไม่รับความช่วยเหลือ และไม่ยอมให้เวียดนามกับลาวนำกองทัพเข้ามาในดินแดนไทยนั้น เป็นความจริงที่อดีตสมาชิก พคท. และผู้สนใจติดตามข่าวสารด้านนี้ทราบมานานแล้ว เช่นเดียวกับที่ทราบว่า นายผี อัศนี พลจันทร หรือ ลุงไฟ หรือ ลุงบ่อไร อดีตกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ต้องเสียสละชีวิตลงในดินแดนลาวภายหลังจากถูกจับกุมตัวไปเพราะไม่ยอมรับแนวทางที่เวียดนามกับลาวนำเสนอ
กระนั้นก็ต้องขอขอบคุณ คุณไพศาล พืชมงคล ที่ออกมาเปิดเผยความจริง ในขณะที่ชนชั้นนำ และผู้กุมกลไกอำนาจรัฐที่เกี่ยวข้องดูเหมือนพยายามเลี่ยงไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้ มิหนำยังฉวยโอกาสที่ลาวกับเวียดนามตัดความช่วยเหลือ พคท. ไปเร่งถล่มฐานที่มั่น และที่มั่นทางการทหารของ พคท. เป็นการใหญ่ การออกมาเปิดเผยของคุณไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี ที่ทำงานรับใช้ใกล้ชิด พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งกุมอำนาจรัฐอยู่ในเวลานี้ ย่อมเป็นการยืนยันความจริงในประวัติศาสตร์ได้ดีและมีน้ำหนักกว่าที่จะออกมาจากปากของบรรดาสหาย พคท. ด้วยกันเอง
จากนี้ บรรดาพวกขวาตกขอบ หรือพวกที่ชอบใส่ร้ายป้ายสี พคท. ว่าขายชาติ ควรจะได้เลิกกล่าวหาแบบนี้เสียที ในทางกลับกัน เวลาเห็นอดีตสหายบางคน หรือนักเคลื่อนไหวทางการเมืองบางคนที่ชอบแสดงตนว่าเป็นคนหัวก้าวหน้า เป็นนักประชาธิปไตย หรือกระทั่งเป็นนักสังคมนิยม แต่ชอบไปเรียกร้องให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงประเทศตนเอง จะได้จำแนกและเข้าใจให้ชัดเจนว่า คนเหล่านี้ไม่ใช่ชาวพรรคคอมมิวนิสต์ คนเหล่านี้เป็นแต่เป็นเพียงพวกที่อาศัยภาพลักษณ์ของคอมมิวนิสต์มาหลอกให้คนอื่นเชื่อว่าตนเป็นคนก้าวหน้า และรักความเป็นธรรมเท่านั้นเอง
สำหรับข่าวที่ 2 ที่จั่วหัวว่า “มธ. รุ่นแรก กุมมือจ่านิวฝากอนาคตประเทศ” รายงานข่าวพูดถึงบรรยากาศในงาน ผู้มาร่วมงาน ซึ่งจำนวนไม่น้อยเป็นกลุ่มคนในปีกเสื้อแดง พร้อมภาพ ลุงสัมผัส พึ่งประดิษฐ์ อดีตฝ่ายนำคนหนึ่งของ พคท. ในวัย 93 ปี ที่มาเป็นประธานทอดผ้ามหาบังสุกุล กุมมือจ่านิว สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ เนื้อข่าวยังรายงานด้วยว่า ลุงสัมผัส ซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รุ่นแรก กล่าวกับจ่านิว ที่เป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์รุ่นหลังๆ ว่า “ผมแก่แล้ว ขอฝากประเทศชาติไว้กับคนรุ่นคุณด้วย” บางสำนักข่าวเลื่อนเปื้อนไปถึงขั้นเชิดชู “จ่านิว” ว่า เป็นผู้สืบทอด “ธง แจ่มศรี”
ข่าวนี้ สำหรับคนที่เลือกแล้วว่าจะต่อต้านระบอบเผด็จการทหาร แต่ไม่ต่อต้านระบอบคอร์รัปชันโกงกินของทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นอดีตสหายหรือไม่ หรือเป็นลูกแม่โดมหรือไม่ ย่อมรู้สึกฮึกห้าวเหิมหาญและยินดี แต่สำหรับคนที่เขาไม่เอาทั้งระบอบเผด็จการทหารและระบอบคอร์รัปชันโกงกินของทักษิณ โดยเฉพาะคนที่เป็นอดีตสหายและลูกแม่โดมด้วยแล้ว เขาคงรู้สึกเศร้าและสงสารเห็นใจลุงสัมผัส ที่ถูกคนบางกลุ่มใช้ภาพบางภาพและคำพูดบางประโยคของลุงไปทึกทักชักจูงให้ผู้คนเข้าใจไปตามแนวความเชื่อและผลประโยชน์ของพวกเขา
ชั่วชีวิตของลุงสัมผัส ไม่เคยปรากฏว่าลุงจะออกมาสนับสนุนระบอบเผด็จการทหาร หรือออกมาสนับสนุนระบอบคอร์รัปชันโกงกินของทักษิณ ลุงต่อสู้ติดคุกติดตะรางมา ก็เพราะต่อต้านเผด็จการ ต่อต้านการโกงบ้านกินเมือง ค่าที่เป็นอดีตสหายนำที่มีอายุมาก ลูกหลานมาหามาอำลา ก็ต้องจับมือให้พร ฝากความปรารถนาดีให้คนรุ่นหลังไปทำให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน คนที่มีอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ และต่อสู้มาชั่วชีวิตอย่างลุง คงไม่ฝากอนาคตประเทศไว้กับคนที่รับใช้ หรือไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับการโกงบ้านกินเมืองของกลุ่มคนในระบอบทักษิณ ไม่เชื่อก็ลองส่งนักข่าวไปสัมภาษณ์ลุงที่บ้านสิครับ เพราะการเอาภาพและคำพูดสองสามคำมาเผยแพร่ในลักษณะนี้อาจทำให้คนเข้าใจลุงไปในทางที่ผู้นำเสนอข่าวอยากให้เป็น ซึ่งถ้าความจริงไม่เป็นเช่นนั้น ก็คงไม่เป็นธรรมสำหรับลุง
ชั่วอายุของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็เช่นกัน มหาวิทยาลัยนี้สอนให้ลูกศิษย์ลูกหารักประชาชน เป็นมหาวิทยาลัยที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ผลิตลูกศิษย์ลูกหาที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองมามาก แม้ในหมู่ลูกแม่โดมจะมีความเห็นทางการเมืองเหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้าง ซึ่งก็เป็นธรรมดาของสังคม อย่านำสถาบันการศึกษาที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรีอย่างธรรมศาสตร์มารับใช้ผลประโยชน์ทางการเมืองของใครอีกเลยครับ
ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี