เมืองแต้จิ๋วเป็นจังหวัดหนึ่งของมณฑลกวางโจว (กวางตุ้ง) มีชื่อทางการว่า เตี่ยจิวฮู่ (เฉาโจวฝู่) เดิมตัวเมืองแต้จิ๋วอยู่ที่อำเภอเมืองเตี่ยอัน จึงถือสำเนียงของอำเภอนี้เป็นภาษาแต้จิ๋วมาตรฐานมานานนับร้อยปี ส่วนอำเภอ ซัวเถา เดิมเป็นเพียงหมู่บ้านประมงในอำเภอเท่งไฮ้ จนถึงพ.ศ. 2404 จึงเปิดซัวเถาเป็นท่าเรือตามสนธิสัญญาเทียนสินที่จีนทำกับอังกฤษเมื่อ พ.ศ. 2401 ซัวเถาจึงเป็นศูนย์กลางการค้าและมีความเจริญเรื่อยมา จนแยกเป็นอำเภออิสระจากอำเภอเท่งไฮ้แล้วกลายเป็นศูนย์กลางการปกครองถิ่นแต้จิ๋วทั้งหมดด้วย ปัจจุบันจึงนิยมเรียกถิ่นนี้ว่า “แต้ซัว” หรือ “เตี่ยซัว”
เฉาโจวฝู่หรือจังหวัดแต้จิ๋วนี้มีพื้นที่ปกครอง 9 อำเภอ ต่างอำเภอสำเนียงพูดจะเหน่อต่างกันแต่โดยรวมก็สื่อสารกันรู้เรื่อง อีกทั้งวัฒนธรรมการกินความเป็นอยู่ ก็แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย
โต๊ะอาหารแบบแต้จิ๋ว
ภัตตาคาร “เฉาเซียง” (潮香大酒楼) เป็นคำอ่านสำเนียงแมนดารินหรือจีนกลาง แปลว่าภัตตาคารที่หอมกลิ่นอายแต้จิ๋ว ตั้งอยู่ที่ถนนรัชดาภิเษก ข้างรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีรัชดาภิเษก ในชั้น 1- 2 ของโรงแรม The Travellers
กลิ่นความหอมแบบจีนดั้งเดิมผสานกับวัตถุดิบสดใหม่ เมนูมีเอกลักษณ์แถมหลากหลายให้เลือกกันแบบละลานตา
ร้านนี้เป็นร้านอาหารจีนน้องใหม่เปิดได้ประมาณ 2 ปีเท่านั้น โดยพื้นฐานเป็นอาหารจีนแต้จิ๋ว ประยุกต์กับอาหารจีนที่คัดสรรจากมณฑลอื่น เพื่อเพิ่มความหลากหลาย เหมาะกับการได้สัมผัสรสชาติอาหารที่แตกต่าง เชฟใหญ่ส่งตรงมาจากซัวเถาเพื่อได้ชิมรสชาติแต้จิ๋วแท้ บรรดาเครื่องปรุงหลายชนิดก็นำเข้าจากจีนโดยตรง จุดเด่นคือวัตถุดิบจากทะเลอันหลายหลากสดใหม่บ้างเป็นตัวเป็นๆ ได้รสชาติฉ่ำเด้งของอาหารแต่ละจาน บรรยากาศก็เรียกว่าเหมือนหลุดมาจากเมืองซัวเถา
จัดโต๊ะเหมือนร้านจีนในโรงแรม 5 ดาว
เห็ดโคนญี่ปุ่นผัดไข่เค็ม
จานแรกเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย หน้าตาดูธรรมดาไม่ถึงกับเห็นแล้วชวนหยิบนัก แต่พอได้ชิมชิ้นแรกลิ้นได้รับรสแปลกดีมีทั้งความหวานกรอบและรสมันจากไข่เค็ม ไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน เห็ดโคนถูกนำไปทอดจนกรอบฟู เคี้ยวกินแล้วได้รู้สึกความโปร่งกรอบมีกลิ่นของไข่เค็มแทรกทุกคำจึงหยิบกินไปเรื่อยชนิดไม่หยุดปาก
มะเขือยาวอบกับหมูสับ
มะเขืออบซอสรสชาติหวานๆ เค็มๆ กลมกล่อม สัมผัสของมะเขือนุ่มรสเข้าเนื้อหมูสับ ผัดได้กำลังพอเหมาะไม่เละ ไม่กระด้างจนเกินไป เป็นจานที่เรียบง่าย แต่ทำกินเองที่บ้านเนื้อมะเขือมักออกสีดำคล้ำไม่ได้สีสวยและอร่อยเท่านี้ เหมือนเสกคาถาเข้าไปด้วย
ขาห่านอบบะหมี่
รายการที่ทางร้านให้การแนะนำว่าต้องชิม ขาห่านอบได้เปื่อยนุ่มกำลังดี สามารถเลาะออกด้วยตะเกียบคู่เดียว บะหมี่ก็ลวกมากำลังดีใส่รองก้นหม้อฟุ้งกลิ่นเครื่องยาจีน รสชาติกำลังพอดี มีความหวานเค็มกลมกล่อมครบรส กลิ่นพะโล้โชยหอมชวนหิว
ตับห่านและเป็ดพะโล้
เป็นจานเอกของที่นี่ ขอสารภาพว่าไม่เคยพบตับจากสัตว์ปีกที่ไหนจะมีรสสัมผัสอันเยี่ยมยอดได้ปานนี้ เข้าปากนุ่มปานจะละลายปราศจากเอ็นใดๆ ติดมาให้รำคาญ แม้แต่ฟัวร์กราส์จากฝรั่งเศสว่าที่ว่าแพงนักหนายังสู้ไม่ได้เพราะจะมันมากไปจนต้องกินกับซอสหรือแยมให้ความเปรี้ยวหวานช่วยตัดเลี่ยน ตับห่านหัวสิงโต (พันธุ์ห่านใหญ่น้ำหนักตัว 10-15 กิโลกรัม) ตับนี้นำเข้าจากจีนที่คัดมาแต่ตับชั้นเลิศ หนักลูกละประมาณ 1 กิโลกรัม แล้วเอามาต้มพะโล้ตามสูตรของซัวเถาดั้งเดิม ปรุงรสชาติได้ดีมากไร้กลิ่นสาบสางทั้งเนื้อ ทั้งตับ จิ้มกินกับน้ำจิ้มกระเทียมสับพริกสับใส่เกลือน้ำส้มสายชู ยิ่งทำให้รสชาติลงตัวมากขึ้น เคล็ดพะโล้ของทางร้านโดยหมักกับสมุนไพรมากกว่า10 ชนิดจนได้รสชาติกลมกล่อมเหมือนกินที่เมืองจีน เนื้อเป็ดพะโล้หั่นหนานุ่มจนแยกไม่ออกว่าเป็นเนื้อเป็ดหรือเนื้อห่าน
กบทอดพริกเกลือ
กบหั่นชิ้นพอดีกินเอาไปทอดกรอบ แล้วผัดแห้งกับพริก ต้นหอมซอย ปรุงรสได้พอดีไม่เค็ม และเผ็ดจนเกินไป แทะเล่นหรือกินเป็นกับก็เข้ากันดี
เป็ดกีต้าร์
เป็นรายการอาหารรุ่นเก่าที่สมัยก่อนแบะตัวเป็ดให้แบนแล้วทอด ส่วนของร้านนี้ใช้การหมักเป็ดด้วยเครื่องเทศกลิ่นทำนองเดียวกับเป็ดปักกิ่ง แล้วยกขึ้นตักน้ำมันที่เดือดพล่านราดบนตัวเป็ดซ้ำๆ จนกรอบสีสวย ผึ่งให้อุ่นจนหนังกรอบยิ่งขึ้น จึงแล่เนื้อหนังวางเรียงบนจานคืนร่างเป็ดอีกหน เนื้อเป็ดค่อนข้างนุ่มหนังกรอบ รสชาติแทบไม่ต่างจากเป็ดปักกิ่งสักกี่มากน้อย มีเอกลักษณ์ของรสหวานเค็มกลมกล่อม จิ้มกินกับซีอิ๊วหวานแนมขิงดอง
เกี๊ยวนึ่งแบบแต้จิ๋ว
แผ่นแป้งหนากว่าตัวเกี๊ยวกวางตุ้ง แป้งเกี๊ยวนี้เป็นเฉพาะแบบของชาวแต้จิ๋วที่หนานุ่มคล้านเกี๊ยวซ่าญี่ปุ่น จับเป็นตัวห่อใบกุยฉ่าย หรือไส้ต่างๆ เช่น ไส้เผือก ไส้หน่อไม้ ฯลฯ น้ำจิ้มคือน้ำซีอิ๊วผสมขิงสับ
ผัดผักปวยเล้ง (Spinach)
เป็นผักเพิ่มพลังของการ์ตูนชุดป๊อปอาย ที่คนส่วนใหญ่คุ้นชินกับชื่อเรียกว่า ผักโขม ซึ่งก็คือ Spinach ส่วนผักโขมนั้นคือ Amaranth หากแต่ทั้ง 2 ผักนี้เป็นผักใบเขียวเข้มก้านอวบที่มีถิ่นกำเนิดในแถบอาหรับนี้ก็ให้สารอาหารทรงคุณค่ามากมาย
กุ๊กร้านนี้มีเทคนิคการผัดผักปวยเล้งนี้เป็นพิเศษ มีเพียงกระเทียมและซีอิ๊ว หรือเกลือ ก็ผัดได้ผักสีเขียวมรกตชวนกิน
ไก่บ้านต้ม
แอบไปดูในครัว พบไก่ต้ม 2 ตัวครึ่งแขวนห้อยโทงเทง ลักษณะคือไก่บ้านธรรมดา แต่ดูน่ากิน อยากจะเสียมรรยาทขอให้สับมาสักจานก็เกรงใจจะไม่เหลือให้ลูกค้ารายอื่น เดาเอาว่าคงใช้ปรุงอะไรพิเศษสักรายการสองรายการ
ยำไก่ฉีก
ตัวไก่ต้มที่เห็นเขาเอามาฉีกตามเส้น ยำกับน้ำส้มจีนกับซีอิ๊ว แซมด้วยพริกขี้หนูสับประปราย ก็กลายเป็นรายการพื้นบ้านแบบง่ายๆ ของชาวแต้จิ๋ว
ไก่ในน้ำมันหมาล่า
รายการนี้ไม่ได้ฉีกไก่ต้ม แต่สับเป็นชิ้นรองด้วยถั่วแดง แล้วราดด้วยน้ำมันหมาล่ากับซีอิ๊วชั้นดี โรยหอมซอย งาขาวคั่ว แฉลบพริกชี้ฟ้าประดับ รสเผ็ดแบบชาลิ้น ดูหรูหราไปอีกแบบหนึ่ง
หนังปลาฉลามน้ำแดง
นึกไม่ถึงว่าหนังปลาฉลามนั้นกินได้ นานมาแล้วเคยไปแคมป์ที่เกาะ ชาวประมงเอาลูกฉลามตัวยาวประมาณเมตรกว่ามาให้ จำใจแล่หนังออกเหลือแต่เนื้อมาปรุงกับข้าว กลิ่นคาวจัดฟุ้งไปทั่ว อีกทั้งหนังปลาสากปานกระดาษทราย ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ต่อมามีการต่อต้านการกินหูฉลามที่มนุษย์ล่ากินหูปีละจำนวนมหาศาล จึงเลือนๆ ไปว่าเนื้อลูกฉลามนั้นหากรู้วิธีดับคาวนั้นอร่อยมาก
ร้านนี้นำเข้าหนังฉลามแห้งทำสำเร็จรูปมาจากเมืองจีน การเตรียมต้องเอาไปต้มกับขิงและต้นหอมจนนิ่ม แช่น้ำสักระยะแล้วเอาซอยเป็นเส้น จากนั้นจะใช้ปรุงอะไรก็ได้ ที่นิยมน่าจะเป็นการตุ๋นน้ำแดงกับเห็ดหอมร่วมด้วยสมุนไพรบางชนิดที่ไม่บอกใคร รสชาติใช้ได้เวลาเคี้ยวจะหยุ่นหนึบหนับ รู้สึกจะได้ถึงคอลลาเจนแล่นพล่านไปทั่วสรรพางค์
ปลาเก๋านึ่งซีอิ๊ว
ปลาเก๋าเป็นตัวใหญ่น้ำหนักกว่าหนึ่งกิโลกรัม เนื้อสดและแน่น ราดด้วยซีอิ๊วฮ่องกงอย่างเยี่ยม หอมฉลุยไม่เค็มกับหวานเกินเหตุ แหวกเนื้อปลาสดขาวเป็นยวงรสดีไม่มีที่ติ นุ่มและมีความชุ่มฉ่ำในตัวเข้ากับน้ำซีอิ๊วที่นึ่งมารสชาติกลมกล่อม โรยหน้าด้วยขิงซอยละเอียดยิบกันคาว ไม่ต้องจิ้มกับน้ำจิ้ม เพียงจุ่มในน้ำซีอิ๊วในจานก็อร่อยเป็นธรรมชาติ
กุ้งผัดซอส X.O.
อีกเมนูของร้านที่เป็นจานเด่น ใช้กุ้งชีแฮ้ตัวใหญ่สดมากปานเพิ่งขึ้นจากน้ำ ทอดกุ้งได้กรอบกินได้ทั้งหัว เมื่อผัดกับซอสเอ็กซ์โอได้รสชาติเข้มข้น มีกลิ่นหอมและรสชาติเผ็ดอ่อนๆ อันซอส X.O. นี้สันนิษฐานว่าดัดแปลงจากน้ำพริกเผาของไทยเรา โดยเปลี่ยนวัตถุดิบ เช่น กุ้งแห้ง หอยเชลล์แห้งชั้นเยี่ยม คนจีนใช้ผัดกับอาหารทะเลบ้างก็ใส่ในซุปราคาแพง
พระกระโดดกำแพง
นักวิจารณ์อาหารในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษยกย่องให้ “พระกระโดดกำแพง”เป็น “ซุปที่แพงที่สุดในโลก” เมื่อปี ค.ศ. 2005 ร้านอาหารจีน Kai Mayfair ในกรุงลอนดอน ขายถ้วยสำหรับ 1 ที่ ในราคา 108 ปอนด์ หรือประมาณ 6,000 บาท ทั้งนี้เพราะส่วนประกอบของซุปถ้วยนี้ล้วนเป็นสุดยอดวัตถุดิบราคาแพงที่สุด เช่น หูฉลาม กระเพาะปลาสด ปลิงทะเล เป๋าฮื้อ หอยเชลล์แห้ง เอ็นกวาง แฮมยูนาน และเครื่องยาจีนทรงคุณค่าอีกหลายชนิด เช่น โสม ถั่งเช่า ฮ่วยซัว เก๋ากี้ ฯลฯ ตามแต่ซินแสจะเขียนให้ จึงทำให้ซุปบันลือโลกโถนี้เป็นที่กล่าวขวัญ
พระกระโดดกำแพงของร้านนี้ เต็มไปด้วยองค์ประกอบสำคัญครบครัน ตั้งแต่หูฉลาม ปลิงทะเล กระเพาะปลา เป๋าฮื้อ ใส่มาอย่างไม่บันยะบันยัง ชิมคำแรกก็รู้สึกถึงนิพพานเลยทีเดียว
อุ้งเท้าจระเข้น้ำแดง
อุ้งเท้าจระเข้น้ำแดงนี้อาจจะมีเพียงเจ้าเดียวของประเทศไทย เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่าต้องใช้เวลาตุ๋นถึง 8 ชั่วโมง และต้องสั่งล่วงหน้า ขายชามละ 800 บาท ขณะที่ไปกินที่ฮ่องกงราคาจะสูงกว่าบ้านเราร่วม 10 เท่าตัว รสชาติเหมือนกินเอ็นส่วนคากิหมู นุ่มเด้งหยุ่น เมื่อตุ๋นน้ำแดงกับเม็ดบัวกับส่วนประกอบต่างๆ แซมผักบร็อคโครี่ ก็อร่อยไปอีกท่วงทำนองหนึ่ง
นักอนุรักษ์ไม่ต้องมามองค้อน เพราะเรามีฟาร์มจระเข้ทั่วประเทศ บางทีหลุดออกมาให้ตื่นเต้นวิ่งหนีฮือฮา หนังจระเข้เราส่งออกจำนวนมากให้บริษัททำกระเป๋า รองเท้า เข็มขัด เราจึงมีเนื้อสดจระเข้เหลือมาก แม้แต่ตลาดติดแอร์เจ้าใหญ่ของเรายังมีเนื้อบ้องตันแช่แข็งขายให้บรรดาภัตตาคารอาหารป่าทั้งหลายเอาไปแกง หรือผัดเผ็ด
ชาวจีนมีความเชื่อในสรรพคุณที่ว่าเนื้อจระเข้ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและปรับความสมดุลให้กับร่างกาย ในตำรับแพทย์แผนจีนโบราณได้ให้ข้อมูลไว้ว่า เนื้อจระเข้มีสรรพคุณทางยา ช่วยบำบัดโรคหอบหืด เบาหวาน โรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะคนที่ไตและปอดทำงานผิดปกติ ร่างกายอ่อนแอและเจ็บป่วย ให้ลองกินเนื้อจระเข้จะช่วยบำบัดได้เป็นอย่างดี
เป๋าฮื้อน้ำแดง
หอยเป๋าฮื้อ หรือหอยโข่งทะเล หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า อะบาโลน (Abalone) เป็นหอยโข่งทะเลฝาเดียว อาศัยตามก้อนหินแถบชายฝั่งทะเล จัดเป็นอาหารอันมีเนื้อนุ่มละเอียดหวาน กลิ่นหอมอร่อย ทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการกว่า 20 ชนิด มีโปรตีนสูงสามารถเพิ่มภูมิต้านทานในร่างกาย ช่วยทำลายหยุดยั้งการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง โดยไม่มีผลข้างเคียงไปทำลายเซลล์อื่นๆ และยังมีสรรพคุณช่วยลดความดัน เบาหวาน ต่อมลูกหมาก แพทย์แผนจีนบอกว่าช่วยบำรุงอิน(หยิน) โดยไม่ทำให้ร้อนใน เปลือกหอยชั้นนอกใช้เป็นส่วนประกอบของสมุนไพรรักษาตาและโรคกระเพาะได้ดี สถาบันวิจัยของฝรั่งเศสกับออสเตรเลียพบว่า หอยเป๋าฮื้อมีสารที่ช่วยลดการสึกหลอของข้อและกระดูกอ่อนได้เป็นอย่างดี
เป๋าฮื้อเป็นหอยฝาเดียว ทั่วโลกมีประมาณ 100 สายพันธุ์ ประเทศไทยเราก็เลี้ยงได้ที่หัวหิน ประจวบ ภูเก็ต ฯลฯ ต่างก็ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่เป๋าฮื้อที่ดีที่สุดนั้นอาศัยอยู่ในทะเลญี่ปุ่นตอนเหนือ ตากแห้งแล้วราคาสูงชั่งละเกือบแสนบาทไทย รองลงมาคือเป๋าฮื้อจากเม็กซิโกที่ราคาย่อมเยามาหน่อย บรรจุกระป๋องราคากระป๋องละ 4,000-5,000 บาทตามแต่ขนาด
เป๋าฮื้อนั้นมีความอร่อยในตัวเอง ชนิดที่ต้มสุกบรรจุกระป๋องหลับตาข้างหนึ่งทำอะไรก็อร่อย อาเสี่ยบางคนเอามาต้มข้าวต้ม หรือยำแบบไทย ที่นิยมมากที่สุดคือทำน้ำแดง
ปลาไหลนึ่งบ๊วย
ปลาไหลหูดำที่คนจีนเรียก “โอวอิ่วมั้ว” เป็นปลาไหลทะเล ลักษณะตัวยาวป้อม ไม่เหมือนปลาไหลไทยที่ยาวและเนื้อน้อย ชาวญี่ปุ่นนิยมเลาะก้างออกแล้วย่างซีอิ๊ว ส่วนชาวแต้จิ๋วปรุงได้หลายแบบ เช่น ตุ๋นน้ำใส ต้มเค็มกับผักกาดดอง หรือนึ่งบ๊วย เป็นต้น เป็นเนื้อปลาที่มีรสชาติและความมันในตัวเอง
ต้มแซ่บปลากับหม่าล่า
เสิร์ฟมาเป็นหม้อด้วยการนำปลาไปต้มกับซุปเผ็ดหม่าล่าผสมสมุนไพรยาจีน รสเข้มข้นและหน้าตาฟ้องเลยว่าค่อนข้างเผ็ดร้อนแบบฉบับหม่าล่าจนชาลิ้น ส่วนซุปก็คล้ายกับต้มน้ำแดงแต่ใสกว่า
เต้าหู้คลุกถั่วบด
ใช้เต้าหู้อ่อนหั่นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทอดไฟกลางพอให้ออกเหลืองไม่ถึงกับไหม้ คลุกกับถั่วบดผสมน้ำตาลเกลือแล้วโรยหน้าพูน ทำให้เต้าหูอ่อนทอดมีสัมผัสนุ่มอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ
บัวลอยไส้งาดำกับนมสด
แป้งหุ้มงาดำบดนวดได้ยืดหยุ่นและเหนียวกำลังพอเหมาะ ต้มกับน้ำนมสดนัยว่าช่วยเพิ่มพูนสรรพคุณ หรือจะสั่งแบบบัวลอยน้ำขิงก็มีบริการ
เทียนหม่าเพี่ยน (天麻) Gastrodiae Rhizoma
สมุนไพรจีนสรรพคุณครอบจักรวาล รสชาติหวานหอมและติดขมนิดหนึ่ง เป็นพืชกลุ่มกล้วยไม้ เจริญร่วมกับเห็ดเรืองแสงชนิดหนึ่ง ชื่อ Armillaria melle โดยเห็ดจะช่วยให้เกิดการสร้างหัว ซึ่งเป็นส่วนที่นำไปเป็นสมุนไพร มีรสหวานเป็นกลาง คุณสมบัติของหัวเทียนหม่าเพี่ยน เช่น ต้านมะเร็ง กันลมชัก แก้ปวด สมานแผลสด บำรุงระบบประสาทเข้าสู่เส้นลมปราณ ลดหยางตับ ขับลม รักษาอัมพาต แก้วิงเวียนศีรษะ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และรักษาบาดทะยัก เป็นต้น ราคาขายประมาณ 1,000-5,000 บาทต่อกิโลกรัม
หัวสดเทียนหม่าเพี่ยน
กุ๊กฝานหัวสดเป็นแผ่นบางแช่ในน้ำส้มคั้นแช่เย็น ก่อนเสิร์ฟให้ลูกค้าจะจัดพาดรอบถ้วยที่มีน้ำส้มคั้น วางซ้อนมาบนถาดขอบไม้รอบชามวางน้ำแข็งแห้งไปทั่วถาด เมื่อยกมาวางที่โต๊ะพนักงานจะใช้กาใส่น้ำร้อนเทบนน้ำแข็งแห้งจนเกิดควันลอยอ้อยอิ่งเหมือนปุยเมฆ เป็นที่ฮือฮา
คีบมาลองชิมได้ความหอมและรสน้ำส้มคั้น เคี้ยวกรอบคล้ายเคี้ยวมันแกว เย็นชุ่มฉ่ำไปทั่วปาก แก้เลี่ยนแก้มันจากอาหารที่กินไปมื้อนี้
ร้านจีนที่ประทับใจที่สุดในรอบปี เป็นอาหารสไตล์แต้จิ๋ว ผสมผสาน บรรยากาศห้องส่วนตัวอันสวยงาม จนได้กลิ่นอายความรู้สึกเหมือนอยู่เมืองจีน ชื่นชมในความสร้างสรรค์และรสชาติอร่อยและสดสะอาด โดยภาพรวมรู้สึกเหมือนเป็นเพชรที่รอการเจียรนัยให้แวววาว
ภัตตาคารเฉาเซียง (潮香大酒楼)
255/ 19 ถนนรัชดาภิเษก เขต ดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
เปิด : 11:00 -14:00น. 18:00-22:00น.
100 ม. จาก MRT รัชดาภิเษก 900 ม. จาก MRT สุทธิสาร
โทร: 090-569-3553
พิกัด GPS : 13° 47' 50.78" N 100° 34' 27.17" E
ตั้งอยู่ในโรงแรม The Travellers ริมถนนรัชดาภิเษก อยู่ก่อนถึงรัชดาซอย 19 สามารถนำรถมาจอดด้านหน้าโรงแรม ที่จอดค่อนข้างเรียบร้อย ถ้าหากสะดวกเดินทางจากรถไฟฟ้าใต้ดินให้ขึ้นสถานีรัชดาภิเษก เดินเข้าโรงแรมจะเห็นร้านชัดเจน มีห้องส่วนตัวไม่เสียค่าห้อง โดยไม่ต้องจำกัดงบประมาณอาหารขั้นต่ำเหมือนร้านทั่วไป ห้องสะอาด ตกแต่งแบบจีนสวยงาม
ไม่มี vat & service charge
ภาพ มีรัติ รัตติสุวรรณ
แผนที่ มูฮัมหมัด พันธ์โพธิ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี