ร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน - ฝรั่งเศส โดย “เชฟง้วน” เชฟโรงแรมระดับ 5 ดาว จากกรุงเทพฯ เดินทางไปประจำที่จังหวัดกระบี่ 3 ปี แล้วกลับกรุงเทพฯ มาเปิดร้านตนเองให้คนธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ ได้ลองลิ้มชิมรสมือ ร้านเป็นแบบครัวเปิดด้วยความมั่นใจในฝีมืออันละเมียดละไม เพื่อให้คงรสชาติอร่อยทุกจาน จึงมีเพียงไม่กี่โต๊ะ ไม่ได้เป็นร้านใหญ่โต ลูกค้าควรโทร. จองคิวแต่เนิ่นๆ ก่อนมา หลายคนที่ Walk-in มักจะพลาดอดกินเสียเที่ยว

เชฟง้วนกับทักษะการใช้ไฟ

ในเมนูมีรายการอาหารเพียงยี่สิบกว่ารายการเท่านั้น ล้วนแล้วแต่เป็นรายการอาหารที่สร้างสรรค์อย่างน่าทึ่ง ประการสำคัญรสชาติสู้ร้านฝรั่งตามโรงแรมหรือตามห้างราคาแพงได้สบาย ด้วยคุณภาพบวกกับการจัดจานได้สวยงามในราคาหลักร้อย

ซีซ่าสลัดกุ้ง

ใช้ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด (Butterhead) เป็นผักสลัด โดยมีกุ้งลวก เบคอนทอด ขนมปังกรอบ ให้มาพูนจานถ้ากินคนเดียวคงอิ่มตั้งแต่รายการแรก น้ำสลัดราดผักเป็นแบบน้ำข้น รสชาติค่อนข้างจัดเพราะปรุงเอาใจนักกินย่านนี้  ยังมีสลัดให้เลือกอีกหลายอย่าง เช่น สลัดปลา แซลมอน สลัดปูนิ่ม สลัดหอยเชลล์ สลัดฟรัวกราส์ บางจานนอกจากเค้าสลัดน้ำข้นแล้ว ยังหยดน้ำซอสเข้มเพิ่มรสชาติอีกด้วย เป็นต้น

สลัดปลาแซลมอน

ผักโขมอบชีส

ค่อนข้างแปลกจากทั่วไปตรงใส่ชีสในผักโขมมากจนท่วมผัก ตักกินได้ความหอมมันสะใจ แถมโรยหน้าด้วยเครื่องเทศหอมละมุน

หมึกชุบแป้งทอด

หั่นหมึกเป็นวงแล้วชุบแป้งสูตรพิเศษที่ทอดกรอบ แล้วโรยสมุนไพรกับหอมซอย รสเผ็ดเล็กน้อย

บาร์บีคิวซี่โครงหมู

กระดูกอ่อนตัดมาเป็นแผงหมักซอสบาร์บีคิวรสเจ็บ ย่างนานและทาซอสไปตลอดไม่ให้เนื้อแห้ง จึงได้ความนุ่มฉ่ำเพียงแค่สะกิด เนื้อหมูแทบจะร่อนออกมาทั้งซี่ โปรยพริกป่นปาปริก้าเกลือหิมาลายัน แต่งรสตามฉบับของร้าน

ฟัวกราส์ทอด

ชิ้นตับห่านจากฝรั่งเศสบรรจงทอดพลิกด้านไล่น้ำมันในตับออกโดยไม่เสียบุคลิกของตับชั้นเยี่ยม เคียงข้างด้วยขนมปังกระเทียม เห็ดโคนน้อยของญี่ปุ่น โรยเกลือหิมาลายัน และพริกไทยแดง เป็นเครื่องเทศสูตรลงตัวไว้ขอบจาน มีผักร็อคเก็ตและแขนงผักเป็นสีสันเพิ่มรสทางสายตา

Pichana Beef หรือ “Rump Steak”

เนื้อที่ใช้ในร้านนี้แม้จะเป็นเนื้อโพนยางคำ แต่ปัจจุบันพันธุ์เนื้อของไทยเราได้รับการพัฒนาสายพันธุ์จนมีคุณสมบัติไม่แพ้เนื้อนอกราคาแพง เนื้อส่วนนี้ถ้าชำแหละแบบอังกฤษเทียบได้กับเซอร์ลอย (sirloin)ของอเมริกัน เป็นส่วนที่ติดมันกรอบในสัดส่วนที่สมดุลกับเนื้อแดงที่ผ่านการบ่มแบบถูกสูตร ได้รับการย่างมาแบบสุกกลางใกล้ดิบ จึงมีกลิ่นรสสัมผัสกลมกล่อมชีวิตชีวา โรยเกลือหิมาลายัน พริกป่น เม็ดพริกไทยอ่อน มันฝรั่งผัด แยกน้ำซอสราดมาเต็มถ้วย น้ำหนักเนื้อชิ้นนี้น่าจะถึง 300 กรัม กินด้วยความครื้นเครงในปาก ต่อให้จุกตายก็ไม่เสียดายชีวิต

สปาเก็ตตี้เส้นดำผัดซีฟู้ด

เป็นเส้นที่นำเข้าจากอิตาลี เป็นเส้นหมึกดำที่นวดกับแป้งจนสีและกลิ่นแทรกซึมไปทุกอณู ไม่ได้ใช้เส้นธรรมดามาคลุกกับหมึกทีหลัง เหมาะกับการนำมาปรุงอาหารทะเล เข้าปากคำแรกก็เหมือนแว่วเสียงคลื่นจากทะเลไกล

เนื้อโทมาฮอว์กดิบและโทมาฮอว์กในกะทะ                                       

Tomahawk เดิมคือชื่อขวานของอินเดียนแดงในอเมริกาตอนเหนือ เนื้อส่วนที่ติดกระดูกชำแหละลักษณะคล้ายทรงขวาน เป็นเนื้อส่วนที่มีความอร่อยมาก ซึ่งมันคือเนื้อ Short Ribs เต็มไปด้วยมันแทรกและเอ็นเนื้อ จนหลายคนนิยมเอากระดูกมาแทะกันเลยทีเดียว บ้างขอให้เชฟช่วยเลาะกระดูกให้ และที่สำคัญมากไปกว่านั้นความสุกแบบที่ดีที่สุดคือ Medium Rare (สุกจวนจะดิบ พอมีเลือดซึมเท่านั้น)

โทมาฮอว์กสเต็ก  (Tomahawk Steak)

"โทมาฮอว์ก เสต็ก" ของร้านนี้คือเนื้อส่วนสันแหลมที่ยังติดกระดูก ซึ่งเป็นส่วนอร่อยที่สุดของวัว เพราะมีทั้งความนุ่ม มีมันติดแต่พอควร เป็นลักษณะเฉพาะทำให้การย่างจะส่งกลิ่นที่หอมไม่เเห้งแล้งจนเกินไป เชฟจะบรรจงเลาะเนื้อส่วนที่ติดกระดูกหั่นเป็นชิ้นกำลังกิน โดยไม่ลืมวางกระดูกติดเนื้อเคียงจานให้นักกินแทะกิน เพราะเนื้อเอ็นติดมันติดกระดูกนี้เป็นส่วนที่รัญจวนลิ้นมากที่สุด แนมด้วยเห็ดผัดและผัก มันฝรั่งบด ตามด้วยน้ำซอสให้ราด น้ำหนักโดยเฉลี่ยชิ้นละ 1 กิโลกรัม

เส้นเพนเน่ผัด

เส้นเพนเน่ที่เป็นหลอด จุดประสงค์เพื่อให้น้ำซอสแทรกเข้าไปในตัวหลอด ทำให้รสซอสฉ่ำทั่วถึง ผัดให้เห็นกันชัดๆ หน้าร้าน

เบอร์เกอร์เนื้อ

ประกบมาเป็นตั้ง หน้าตาหล่อเหลา ครีมซอสราดมาฉ่ำเยิ้มอย่างไม่ขี้เหนียว กัดหมดชิ้นคงจะอิ่มเต็มพุง แทบไม่เหลือที่ว่างสำหรับอาหารอื่น

พิซซ่าตอติญ่า

ขอยอมรับตามตรงว่าเกิดมาไม่เคยกินพิซซ่าชนิดนี้มาก่อน เป็นลูกผสมกับแม็กซิกันที่ใช้แผ่นแป้งข้าวโพด (Tortillas) ประกบเนื้อสัตว์ทะเลผัดแล้วทาซอสรสหวานเค็มเอาไปอบจนแป้งกรอบคล้ายขนมเบื้อง เขาแบ่งตัดเป็นสี่เสี้ยวเรียงมาบนแผ่นไม้กระดานประดับประดาจนชวนหิว ใช้มือหยิบประคองมาทั้งชิ้น แล้วจึงกัดทีละคำจนหมดแผ่นไม่รู้ตัว ต้องให้คะแนนเชฟง้วนเต็มร้อย เชฟที่ไม่มีรากฐานที่ดีคงคิดไม่ออกถึงการสร้างสรรค์เมนูได้รสชาติซับซ้อนเช่นนี้

แม้ร้านจะเล็ก แต่คุณภาพอาหารคับร้าน ราคาสบายกระเป๋า บางรายการราคาไม่ถึงร้อย   ถ้าเปลี่ยนเป็นร้านในโรงแรม กินเสร็จกลับบ้านมีหวังต้องนอนก่ายหน้าผาก ขอแนะนำว่าต้องโทรจองโต๊ะก่อนไป เพราะร้านจุได้แค่ไม่กี่โต๊ะ   

บ้านเชฟ

12/45 หมู่บ้านเอราวัณ ซอยลำลูกกา 53 (ลำลูกกาคลอง 4) จังหวัดปทุมธานี 12150

เปิด-ปิด : 17.30 - 21.00 น. (หยุดทุกวันพุธ)

รับลูกค้าวันละ 2 รอบ 17.30 น. และ 19.30 น. (วันอาทิตย์เพิ่มรอบ 11.30 น.)

สำรองที่นั่ง โทร. 061-4297424

ที่จอดรถ ริมซอยในหมู่บ้าน

https://maps.app.goo.gl/F1TF4Xg7zrp4ZZ8u7

แผนที่ :  มูฮัมหมัด พันธ์โพธิ์