6 ปีแห่งการเดินทางของ ส.ค.ส.
ผมเคยเขียนไว้ที่นี่เมื่อต้นปี พ.ศ. 2559 ครั้งหนึ่ง และต้นปี พ.ศ. 2561 อีกครั้งหนึ่งว่า ส.ค.ส. ก็เช่นเดียวกับเหรียญกษาปน์ เช่นเดียวกับธนบัตร หรือดวงตราไปรษณียากร ในแง่ที่ทำหน้าที่สะท้อนภาพสังคมในยุคสมัยที่มีการผลิตมันขึ้นมา
ส.ค.ส. ของผมก็เช่นกัน มันสื่อข้อความถึงอารมณ์ความรู้สึกของผมที่มีต่อชาติบ้านเมืองในห้วงเวลานั้นๆ
ปี พ.ศ. 2556 ขณะ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้วปีเศษ ทำงานเป็นบ้างไม่เป็นบ้าง แต่ด้วยอำนาจเงิน อำนาจทุนของ ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย และด้วยนโยบายประชานิยมที่เอาใจประชาชนอย่างสุดๆ แม้จะมีการคอร์รัปชันโกงกินกันอย่างมโหฬารในโครงการจำนำข้าว ผู้คนในสังคมจำนวนไม่น้อยเวลานั้นจึงยังคงสงบปากสงบคำ ไม่ออกมาต่อต้านคัดค้านความไม่ชอบมาพากลในการบริหารประเทศของเธอกับพวกอย่างจริงจังเท่าใดนัก ในภาวะเช่นนี้ ความมั่นตรงต่อการกระทำความดีของแต่ละคนเท่านั้น จึงจะนำพาประเทศชาติไปรอด ด้วยเหตุนี้ ผมจึงไม่คิดจะขอพรอะไรให้เหนื่อยใจ ขอเพียงความดีคุ้มภัยเท่านั้นพอ ส.ค.ส. ที่ผมส่งให้เพื่อนๆ ในปีนั้นจึงออกมาเป็นเช่นนี้
ส.ค.ส. ๒๕๕๖
๏ ขอให้ปีนี้เหมือนปีนั้น ปีที่เราแบ่งปันฝันและใฝ่
ไม่ขอพรมากมายให้เหนื่อยใจ ขอความดีคุ้มภัยเท่านั้นพอ ๚ะ๛
ปี พ.ศ. 2557 ส.ค.ส. ของผมเกิดขึ้นภายใต้วิกฤตการณ์การเมืองในปี พ.ศ. 2556 ที่มีการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะในเรื่องที่ใช้เสียงข้างมากในสภา พยายามผลักดันร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมเพื่อช่วยเหลือพี่ชายให้พ้นผิด การชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในช่วงนั้นมีมากมายหลายกลุ่ม แต่มีกลุ่ม กปปส. เป็นแกนนำสำคัญ เป้าหมายการชุมนุมยกระดับขึ้นสู่การโค่นล้มระบอบทักษิณและเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองก่อนจะมีการเลือกตั้ง มวลมหาประชาชนที่เข้าร่วมการชุมนุมอย่างมืดฟ้ามัวดิน ถูกทำร้ายด้วยระเบิดและอาวุธสงครามบาดเจ็บล้มตายไม่เว้นแต่ละวัน แม้ผมจะไม่ใช่สมาชิกหรือขาประจำของคนในกลุ่มไหนเลยที่ออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่ผมก็สนับสนุนการเคลื่อนไหวต่อสู้ครั้งนี้ ส.ค.ส. ปี 2557 ของผมจึงเป็นเช่นนี้
ส.ค.ส. (สู้ครับสู้) ๒๕๕๗
แด่... นกที่บินสู่ฟากฟ้า หวีดหาอิสราแลเสรี
๏ เมื่อเอาใจเดิมพันกับพระเจ้า ศรัทธาเราจะเขยื้อนภูเขาได้
เมื่อเอาใจเดิมพันกับความตาย ความกลัวจะแพ้พ่ายมลายพลัน
เมื่อฟ้ามืดหม่นมัวไปทั่วทิศ ถูกกับผิดดีกับชั่วมั่วผกผัน
เมื่อศรัทธากับความกล้ามาพบกัน จะโรมรันล้างชั่วไม่กลัวตาย...
เมื่อศรัทธากับความกล้ามาพบกัน จะเดิมพันปฏิรูปประเทศไทย ! ๚ะ๛
การชุมนุมประท้วงในปี พ.ศ. 2556 - 2557 ดังกล่าว นำมาสู่การรัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ดังที่ทราบกัน แน่นอนว่า ผู้คนที่รักประชาธิปไตย อยากเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ไม่มีใครสนับสนุนให้ทหารออกมารัฐประหาร แต่ในทำนองกลับกัน หากไม่มีการรัฐประหารวันนั้น ก็เป็นไปได้มากว่า การเข่นฆ่าทำร้ายผู้ชุมนุมจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บ้านเมืองจะจลาจลวุ่นวาย กระทั่งเกิดสงครามกลางเมือง และเกิดการเข้ามาแทรกแซงจากต่างประเทศ
เบื้องหน้าสถานการณ์ และความเป็นไปได้ดังกล่าว การรัฐประหารจึงเป็นทางออกเฉพาะหน้าสำหรับวันนั้น และเป็นทางออกสำหรับสถานการณ์วันนั้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ผมและเชื่อว่าผู้คนจำนวนมากที่ไม่เอาด้วยกับระบอบทักษิณ จึงไม่ต่อต้านการรัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเราจะสนับสนุนให้ทหารออกมารัฐประหารทุกครั้งไป ทั้งตั้งความหวังว่าการรัฐประหารครั้งนั้น จะช่วยให้อะไรดีขึ้น ระบอบเลวร้ายและการทุจริตคอร์รัปชันทั้งหลายทั้งปวง ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มไหน สีไหนก็ตาม จะถูกขจัดออกไปอย่างมีนัยสำคัญ ส.ค.ส. ปี 2558 ของผม ซึ่งถือเป็น ส.ค.ส. ใบแรกที่ผมเขียนในสมัยรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงออกมาเช่นนี้
ส.ค.ส. ๒๕๕๘
แด่... คนไทยที่รักและหวงแหนประเทศชาติ
๏ วันที่ฟ้าฝนกระหน่ำระส่ำซัด เรายังหยัดยืนต้านผ่านมาได้
ฟ้าวันนี้สวยกว่าฟ้าวันไหน มา... มาจับมือกันไว้เถอะไม่นาน ๚ะ๛
ปี พ.ศ. 2558 ภายใต้การปกครองของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งปี ปัญหาการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองถือว่าประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง ซึ่งไม่แปลกนักเมื่อบ้านเมืองปกครองด้วยกระบอกปืนและอำนาจพิเศษ แต่กระนั้นปัญหาเศรษฐกิจของประชาชนระดับล่าง และที่น่าตกใจ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นและอิทธิพลท้องถิ่น ยังคงดำรงอยู่ ปัญหาดังกล่าวนี้ โยงใยมาถึงบุคคลที่อยู่ในอำนาจ และอาสามาปราบโกงทั้งสิ้น
บางครั้ง ผมอดคิดไม่ได้ว่า บ้านเมืองเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
เชื่อว่าผมคงไม่ได้คิดเช่นนี้เพียงคนเดียว แต่กระนั้น ผมก็ยังหวังและเชื่อมั่นว่า ในคืนวันอันเปลี่ยวเหงาเช่นนี้ คนไทยที่รักและห่วงใยประเทศชาติทุกคนจะไม่มีใครทอดทิ้งประเทศไทย ส.ค.ส. 2559 ซึ่งเป็น ส.ค.ส.ใบที่สองในสมัยรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ ของผมจึงออกมาเช่นนี้
ส.ค.ส. ๒๕๕๙
แด่... คนไทยที่รักและห่วงใยประเทศชาติ
๏ ถ้าหากหัวใจไม่สิ้นหวัง เจ็บกี่ครั้งกี่หนก็ด้นฝ่า
ระดะดาวเกลื่อนกล่นบนนภา คงมีดาวศรัทธาอยู่สักดวง
ถ้าหากหัวใจยังสู้ต่อ ฉันจะขออยู่ข้างเธอไม่ต้องห่วง
ในคืนวันเปลี่ยวเหงาเศร้าทรวง ดาวศรัทธาสักดวงก็เกินพอ
ในคืนวันเปลี่ยวเหงาเศร้าใจ ขออย่าทิ้งประเทศไทยเท่านั้นพอ ๚ะ๛
ปี พ.ศ. 2559 เป็นปีมหาวิปโยคของปวงชนชาวไทยที่สูญเสียองค์พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จสวรรคต ในวันที่ 13 ตุลาคม ส.ค.ส. ในปี 2560 ของผม ซึ่งเป็นใบที่สามในสมัยรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จึงเป็นเช่นนี้
ส.ค.ศ. (สารคนเศร้า) ๒๕๖๐
๏ ในวันที่หม่นเศร้าเหงาและโศก ขาวดอกโมกยังหม่นมัวหน้ารั้วบ้าน
พญาโศกบรรเลงเพลงเนิ่นนาน แผ่วสะท้านสะเทือนอกระทกระทม
ใจเอยเจ้าจากหายไปไหนแล้ว เหลือเพียงแววตารื้นขื่นและขม
วิเวกแว่ววันคืนเคยชื่นชม ธ เสด็จเข้าประทม ณ หนใด
เพียงน้ำค้างหยดเผาะเปาะเปาะเสียง ใบยังเอียงลู่ลงตรงน้ำไหล
น้ำตาหยดรดหลั่งถั่งทรวงใน เป็นใจใครก็คงช้ำเกินคร่ำครวญ
ในวันที่หม่นหมองของชีวิต ธ สถิตในดวงใจไทยทั่วถ้วน
พญาโศกร่ำโศกซ้ำย้ำกระบวน ย้ำให้ทวนทบพระปณิธาน ๚ะ๛
ปี พ.ศ. 2560 ทั้งปี เป็นปีที่รัฐบาลฟุ้งเฟ้อเห่อ 4.0 ตามขี้ปากฝรั่ง พร่ำเพ้อตัวเลขสวยหรูทางเศรษฐกิจ และนำเสนอโครงการประชานิยมต่างๆ อันเป็นเหมือนนโยบายการตลาดทางการเมือง ทั้งยังประกาศกล้าว่า ประเทศไทยจะไม่มีคนจน ในขณะที่ความยากจนยังคงแผ่ไปทั่ว ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ ผู้คนทิ้งนาทิ้งไร่ พี่ตูนต้องวิ่งหาเงินช่วยโรงพยาบาลในท้องถิ่นห่างไกล มิหนำยังเกิดกรณี “แหวนมารดา นาฬิกาเพื่อน” ขึ้นมาอีก ส.ค.ส. 2561 ใบที่สี่ของผมในสมัยรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จึงเป็นเช่นนี้
ส.ค.ส. ๒๕๖๑
๏ สวัสดีสี่จุดศูนย์ อยากให้พี่ตูนวิ่งมาหา
ข้าว มัน ปาล์ม ยางพารา ใครช่วยฉุดราคาขึ้นมาที
กรรมกรทิ้งนาทิ้งไร่ เราจะไม่มีคนจนจริงหรือนี่
หลวงท่านประกาศกล้ามาหลายปี อ้างอิงดัชนีดูดีจัง
สารพัดนโยบายการตลาด คนทั้งชาติสี่จุดศูนย์พูนความหวัง
แต่ล้วงมือเข้ากระเป๋าไม่เจอตังค์ คนไทยมันก็ยังจนอยู่ดี
ที่รวยมันก็รวยจนล้นฟ้า ยังตั้งหน้าผูกขาดกวาดทุกที่
แหวนมารดานาฬิกาเพื่อนก็ไม่มี เราคนจนทนทู่ซี้กันต่อไป ๚ะ๛
ปี พ.ศ. 2561 หรือครบ 4 ปี ย่างเข้าปีที่ 5 ของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เพลง “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา
เราจะทำอย่างซื่อตรง ขอเธอจงไว้ใจและศรัทธา แผ่นดินจะดีในไม่ช้า ขอคืนความสุขให้เธอ ประชาชน” ไม่มีใครเชื่ออีกต่อไป ส.ค.ส. 2562 ใบที่ห้าของผมในสมัยรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จึงเป็นเช่นนี้
ส.ค.ส. ๒๕๖๒
๏ เดินหาความสุขตามถนน เผื่อใคร ทำหล่น ทานเหลือ
เจอพวกเดียวกันเป็นเบือ อาบเหงื่อตากหน้ามาหากัน
เคยสัญญาไว้ว่าจะซื่อตรง อ้อนว่าเธอจงไว้ใจฉัน
จะคืนความสุขให้ในเร็ววัน จึงนั่งฝันจากปีม้ามาปีจอ
คืนความสุขปีกุนยิ่งหนักหนา ยากกว่าคืนนาฬิกานะพ่อ
ไม่อยากพูดเยอะ เจ็บคอ กรรมใดใครก่อรอรับเอง ๚ะ๛
ปี พ.ศ. 2562 มีการเลือกตั้งทั่วไปหลังการครองอำนาจของ ค.ส.ช. มา 5 ปี ในปีนี้มีการต่อสู้ห้ำหั่นกันทั้งบนดินและใต้ดินมากมาย วาระประเทศไทยปีนี้ คือการต่อสู้ชิงอำนาจกันระหว่างขั้วการเมืองที่สนับสนุนพลเอก ประยุทธ์ และทหาร กับขั้วการเมืองที่สนับสนุนกลุ่มทักษิณ และไม่เอาทหาร โดยมีพวกที่เป็นฝ่ายค้านไม่เป็น และพวกงูเห่าเป็นตัวแปร ด้วยบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้ง แม้ฝ่ายสนับสนุนพลเอกประยุทธ์จะไม่สามารถครองเสียงข้างมากจากผลการเลือกตั้ง แต่ก็สามารถผลักดันให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีได้ และตั้งรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำได้ จากการสนับสนุนของกลุ่มการเมืองที่เป็นฝ่ายค้านไม่เป็นและที่พลเอกประยุทธ์เคยประณามหยามหยันมาก่อน ขณะเดียวกัน ก็เป็นปีที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์พยายามอัดนโยบายประชานิยมขนานใหญ่ ตั้งแต่ “ชิม ช้อป ใช้” หลายเวอร์ชัน ไปจนถึง การประกาศจะฉุดราคาน้ำยางพาราด้วยการทำหมอนยางพาราแจกประชาชน 20 ล้านใบ จนผู้สื่อข่าวสายทำเนียบรัฐบาลให้ฉายา พลเอก
ประยุทธ์ ว่า “อิเหนาเมาหมัด” ส.ค.ส. 2563 ซึ่งเป็นใบที่หกของผมในสมัยรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จึงเป็นเช่นนี้
ส.ค.ส. ๒๕๖๓
๏ สวัสดีปีอิเหนานั่งเมาหมัด เลยฉุนจัดซัดสื่อยื้อไม่อยู่
เฝ้าเชียงกงงงเต้กเด็กเด็กกู ไหงดูดูหน้าละม้ายคล้ายเด็กมัน
โบราณว่ากงเกวียนหมุนทางใด กำเกวียนก็หมุนไปในทางนั้น
ล้มเขาแล้วยังมาทำเหมือนเหมือนกัน อนาคตก็งั้นงั้นแหละเมืองไทย
เพื่อนบ้านไปถึงไหนก็ไม่รู้ ยังนั่งกัดกันอยู่ไม่ไปไหน
ประเทศชาติฉิบหายไม่เป็นไร ใครจะไล่กูจะอยู่ดูสิเออ
“คืนวันนี้ถ้าพี่นอนหนุนหมอนน้อย ใจจงคล้อย” คิดฮอดข้อยกันหน่อยเด้อ
จะแจกหมอนให้นอนฝันกันจนเบลอ อย่าละเมอมาไล่กันเท่านั้นพอ ๚ะ๛
6 ปีแห่งการเดินทางของ ส.ค.ส. ของผม ในช่วงเวลาที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ ทหารครองอำนาจ เป็นอย่างไร คงตอบได้จาก ส.ค.ส. ของผมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 ถึงปี พ.ศ. 2563
ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส
สำนักที่ปรึกษาร้อยชักสาม
1 มกราคม 2563
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี