“การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร” เป็นวาทะที่เราคุ้นชินมานาน นักการเมืองไทยในอดีตพูดกันบ่อย โดยเฉพาะกลุ่มก๊วนของพรรคปลาไหล - ชาติไทย ชาติพัฒนา
เจ้าของวาทะ “การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร” คือ เฮนรี จอห์น เทมเพิล ไวส์เคานต์ พาลเมอร์สตัน ที่ 3 (Henry John Temple, 3rd Viscount Palmerston) รัฐบุรุษและนักการเมืองชาวอังกฤษ ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสองสมัยในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 และยังเคยเป็นรัฐมนตรีการสงคราม รัฐมนตรีต่างประเทศ ตลอดจนรัฐมนตรีปิตุภูมิ
ไวส์เคานต์ พาลเมอร์สตัน ที่ 3 ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในช่วงที่อังกฤษกำลังเรืองอำนาจในเวทีโลก และเป็นช่วงเวลาที่อังกฤษมีชัยเหนือจีนในสงครามฝิ่นครั้งที่สอง หลังสงครามกับจีนสิ้นสุดลง รัฐบาลของพาลเมอร์สตันก็ต้องมุ่งความสนใจไปยังสงครามกลางเมืองอเมริกา โดยได้สนับสนุนฝ่ายสมาพันธรัฐอเมริกา ซึ่งต้องการแยกตัวจากสหรัฐอเมริกาที่นำโดยประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น เนื่องจากหากสหรัฐฯ อ่อนแอลง จะกลายเป็นผลดีต่ออังกฤษ อย่างไรก็ตาม ข้าวโพดจากสหรัฐฯ ยังมีความจำเป็นต่ออังกฤษมากกว่าฝ้ายจากสมาพันธ์ฯ ดังนั้นการเปิดศึกกับสหรัฐฯ โดยตรง อาจได้ไม่คุ้มเสีย นอกจากนี้ รัฐบาลของพาลเมอร์สตันได้ส่งกำลังทหารไปประจำยังมณฑลแคนาดามากขึ้น (ขณะนั้นแคนาดาเป็นส่วนหนึ่งของอังกฤษ) เนื่องจากกังวลว่า สหรัฐฯ กับสมาพันธ์ฯ อาจจับมือกันรุกรานแคนาดา
ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวนี้ ไวส์เคานต์ พาลเมอร์สตัน ที่ 3 จึงกล่าววาทะอันโด่งดังว่า
“Therefore I say that it is a narrow policy to suppose that this country or that is to be marked out as the eternal ally or the perpetual enemy of England. We have no eternal allies, and we have no perpetual enemies. Our interests are eternal and perpetual, and those interests it is our duty to follow.”
“ด้วยเหตุนี้ ผมจึงบอกว่า มันเป็นนโยบายอันคับแคบที่จะกำหนดว่าประเทศนี้หรือประเทศนั้นเป็นมิตรแท้หรือศัตรูที่ถาวรของอังกฤษ เราไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร ความสนใจ (ในผลประโยชน์ - ผู้แปล) ของเราเท่านั้นที่เป็นนิรันดร์และถาวร หน้าที่ของเราคือปฏิบัติตามความสนใจเหล่านั้น”
ต่อมานักการเมืองในหลายประเทศได้นำวาทะ “เราไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร” มาใช้อย่างแพร่หลาย ในประเทศไทยใช้กันอยู่จนถึงปัจจุบัน จนถึงทุกวันนี้
กลุ่มการเมืองในอดีตที่นำมาใช้อย่างออกนอกหน้า คือ กลุ่มซอยราชครู จากพรรคชาติไทย สู่พรรคชาติพัฒนา และแตกออกมาเป็นพรรคชาติไทยพัฒนา พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ฯลฯ ที่ได้รับสมญาว่า “ปลาไหล” “ไม่ทะเลาะกับใคร” และ “เป็นฝ่ายค้านไม่เป็น”
เมื่อวานนั่งเป็นรัฐมนตรี ต่อมาโดนทหารยึดอำนาจ พอวันนี้ทหารตั้งรัฐบาลใหม่ ขอเข้าร่วมรัฐบาล นั่งเป็นรัฐมนตรีต่อ ก็ทำมาแล้ว ตั้งแต่รัฐประหาร รสช. จนถึงรัฐประหาร คสช. เพราะ “การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร”
นี่ยังไม่ได้พูดถึงนักกฎหมายและนักเศรษฐศาสตร์บางคน ซึ่งใครก็รู้ดีว่าคือใคร ที่รับใช้ได้ทุกรัฐบาล พอรัฐบาลที่ตนสังกัดอยู่ถูกโค่น ก็สามารถมานั่งเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของทหารที่โค่นตนลงไปได้
นักการเมืองที่ถูกโค่นทำตัวอย่างไร คนที่โค่นเขาลงไป ก็ทำตัวไม่ต่างกัน เพราะ “การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร”
การเมืองที่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร ต่างกับการใช้ “ทฤษฎีแนวร่วม” ทางการเมือง เพราะ “ทฤษฎีแนวร่วม” ทางการเมืองนั้น มีมิตรแท้ และมีศัตรูที่ถาวร เพียงแต่ศัตรูที่ถาวรนั้น อาจร่วมมือกันได้ในสถานการณ์ที่แน่นอนหนึ่ง ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย
การเมืองที่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร เป็นการเมืองเจ้าเล่ห์ และฉวยโอกาส
เพราะการเมืองเป็นแบบนี้ เราจึงเห็นชายชาติทหารที่ควรจะมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี รักษาสัจวาจาอย่างมั่นคง แต่พอเข้าสู่วงการเมือง กลับสามารถยอมรับนักการเมืองที่ตนเคยปรามาสว่า “ถ้าได้คนเลวๆ เหล่านั้นเข้ามาจะทำอย่างไร?”
เพราะการเมืองเป็นแบบนี้ เราจึงเห็นแกนนำฮาร์ดคอร์คนสำคัญของพวกเสื้อแดงบางคน ไปถอนคำสาบานต่อหน้าย่าโม แล้วกลับลำมารับใช้ฝ่ายที่ตนเคยต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย
เพราะการเมืองเป็นแบบนี้ เราจึงเห็นนายสัตวแพทย์ก้มกราบตีนอดีต ผบตร. ที่ตนกล่าวหาว่าทุจริตโกงกิน
การเล่นการเมืองที่ดี ก็ไม่ต่างกับการมีเพื่อนที่ดี
ถ้าท่านมีเพื่อน แล้วเพื่อนของท่าน ถือคติที่ว่า “คนเราไม่มีเพื่อนแท้ และศัตรูที่ถาวร” ท่านยังจะไว้ใจ และคบหาสมาคมกับเพื่อนคนนั้นอยู่ไหม ?
คนที่ตระบัดสัตย์ ไม่รักษาจุดยืน กลัวตาย ยอมอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรี เข้าได้กับทุกฝ่ายที่ให้ผลประโยชน์กับตนโดยไม่สนใจอุดมการณ์และจุดยืน ถึงยังมีลมหายใจ ก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายไปแล้ว
ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส
สำนักที่ปรึกษาร้อยชักสาม
กุมภาพันธ์ 2563
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี