พังเดือน ลูกทีมเถ่าชิ่ว สุทัศน์ คอลัมน์ ตู้กับข้าว แนวหน้าออนไลน์ ชวนมาลงใต้อีกครั้ง หนึ่งในวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ไปยังปลายด้ามขวานดังที่เรียกกันว่า สามจังหวัดชายแดนใต้ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิม เพื่อเยือนเพื่อนร่วมชาติชิมอาหารมุสลิม ที่นึกออกเพียงแค่ข้าวหมก โรตี สลัดแขก ซุปหางวัว ฯลฯ รสชาติแบบมุสลิมใต้แท้ๆ
ไอ้คลั่งทะเลโหด
มื้อเย็นแรกหลังจากลงเครื่องบินที่หาดใหญ่ อุ่นเครื่องด้วย ร้านในรู ร้านอาหารจีนตามสั่ง อยู่แถว ตลาดกิมหยง ร้านเป็นห้องแถวธรรมดา แต่ลูกค้ามาไม่ขาดตลอดเวลา มีทั้งคนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว เราสั่งอาหารเมนูแนะนำ ไอ้คลั่งทะเลโหด หมูสับทอด ต้มจืดสี่สหาย และปลาจะละเม็ดผัดพริกเกลือ ตอนได้ยินชื่อ ไอ้คลั่งทะเลโหด เกิดจินตนาการว่าคงจะเผ็ดสาหัส ปรากฏว่ากินได้สบาย มีทั้งหมึก หอย กุ้ง ปลาชุบแป้งทอด แล้วเอามาผัดปรุงรส คล้ายสามรส แต่ไม่ติดหวาน ส่วนหมูสับทอด ตามชื่อ แต่ไม่ได้ปั้นมาเป็นก้อน แบบที่เคยกินตามร้านข้าวแกง ปลาจะละเม็ดทอดพอดีสุก เนื้อกำลังหวาน ผัดกะเทียม พริก เกลือ พอสุกราดเอามาที่ตัวปลา ได้กลิ่นหอมเครื่องปรุง รสชาติเนื้อปลา กินกับข้าวกำลังดี อาหารทุกอย่างไม่ติดหวาน เค็มนำ ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มก็อร่อยกำลังดี
หมูสับทอด
และปลาจะละเม็ดผัดพริกเกลือ
มื้อเช้าที่ ปัตตานี เราตั้งใจมาชิม “นาซิดาแฆ” คือ ข้าวเจ้าผสมกับข้าวเหนียว หุงกับกะทิ คงคล้ายข้าวมัน มีมะพร้าวคั่วโรยหน้าข้าวแล้วราดด้วยแกง แต่เมื่อไปถึงเกือบ 9โมงเช้า“นาซิดาแฆ” หมดแล้ว เหลือแต่กินข้าวธรรมดากับแกงแต่ก็อร่อยไม่แพ้กัน แกงของที่นี่ มีไข่ต้มทั้งใบแกงรวมด้วย เท่าที่เห็น ทั้งแกงปลา แกงเนื้อ แกงไก่ มีไข่ต้มสุกในทุกแกง และมีพริกหยวกสอดไส้ หรือที่นี่เรียก “ซอเลาะห์” เป็นกับข้าวด้วย ลองชิมแล้ว ไส้ที่อยู่ในพริกหยวก น่าจะมีมะพร้าวผสมปลาทูด้วยแน่ ทำให้มีรสชาติหวานเนื้อปลาและมะพร้าว จำพวกแกงจะหอมเครื่องเทศ รสไม่หวาน เนื้อเปื่อยกำลังดี ถ้าเป็นแกงปลา ปลาก็ชิ้นใหญ่ เนื้อแน่นไม่คาว ถามแม่ค้าบอกว่าคือปลาโอ เรากินแบบยั้งๆ ไว้เพราะตั้งใจจะไปต่อ สะเต๊ะ อาหารประจำถิ่นของแถบนี้ แต่ก็อดใจไม่ไหว ต้องชิมข้าวเหนียวมะพร้าว ที่วางล่อตาอยู่บนโต๊ะ ในราคาห่อละ10 หวานมันเกินราคา
ข้าวแกงมื้อแรกที่ปัตตานี
ซอเลาะห์(พริกหยวกสอดไส้)
ร้านหะยีมีดะห์ที่เราฝากท้องมื้อเช้า
สะเต๊ะศรีเมือง
จากร้านข้าวแกงไปต่อที่ ร้านสะเต๊ะศรีเมือง แจ้งเจ้าของร้าน เราเป็นมือใหม่มาเป็นครั้งแรก ช่วยจัดเนื้อสะเต๊ะมา10ไม้ น้ำจิ้ม อาจาด และ แป้งก้อนสีขาวตัดเป็นสี่เหลี่ยม 1 จาน มันคือข้าวสุกที่บดให้เละแล้วนำมาอัดเป็นก้อน ตัดเป็นชิ้นกินคู่กัน ตัวน้ำจิ้มสะเต๊ะหอมเครื่องเทศ
ใส่ถั่วป่นเข้มข้น ความที่ชอบกินแป้งจึงเอาข้าวอัดก้อนราดน้ำจิ้มกินกับเนื้อสะเต๊ะ เป็นที่ถูกใจมาก เหลือบไปเห็นรูปเมนูในร้าน คล้ายสลัดแขก เลยลองสั่งมาชิม มีเส้นหมี่ลวก ผักกาดหอม ไข่ต้ม ราดด้วยน้ำจิ้มสะเต๊ะ จานนี้เรียก “รอเยาะ” รสอร่อยมาก แม่ค้า 4-5 คนช่วยกันจัดสะเต๊ะเป็นชุดใส่ถุงวางเรียงรายเต็มโต๊ะมีลูกค้าแวะเข้ามาซื้อตลอดเวลา พอเรียกเก็บตัง แม่ค้าคิดเพียง 80 บาท ได้ของกินถูกและดี เนื้อสะเต๊ะไม้ละ 5 บาท รอเยาะ 20 บาท ข้าวอัด 10 บาท ให้น้ำจิ้มมาเต็มจานพร้อมอาจาด จนถึงกับต้องถามแม่ค้า เนื้อวัวที่นี่ไม่แพงหรือทำไมถูกจัง แม่ค้ายิ้มตอบ ที่นี่อาหารไม่แพงขายกันราคานี้ จนอยากซื้อกลับอีกสัก10 ไม้ เนื้อดีไม่เหนียวและไม่ติดมัน ร้านนี้ยกให้ 5 ดาวเลย ที่หน้าร้านสะเต๊ะ ซื้อขนมบอระเพ็ด มาลองชิมด้วย อร่อยแปลกดี
เนื้อสะเต๊ะและข้าวอัดบรรจุถุงขายกลับบ้าน
รอเยาะ
มาปัตตนีทั้งทียังไม่ได้กิน ข้าวหมกเลย ดังนั้นมื้อเช้าที่ ตลาดปาลัส มีตลาดนัด วันพุธ จึงได้เดินตลาด มีทั้ง กุ้ง ปลา หมึก สดๆ เพราะมีท่าเรือประมงอยู่ไม่ไกล ปลาอินทรี ปลาทู ตาใสแจ๋ว แผงขายเนื้อ ก็มีขาวัวทั้งขา ห้อยอยู่หลายขา
แล้วได้เจอ ร้านขายข้าวหมกในตลาด มี2หม้อ สีเหลืองที่เรารู้จักคือข้าวหมกแน่นอน แต่อีกหม้อหนึ่งหุงสีออกน้ำตาลด้วย ไพล่คิดไปถึงข้าวคลุกกะปิ แต่ก็ไม่เห็นมีเครื่องเคียงข้าวคลุกกะปิ เห็นแต่ไก่ทอด แม่ค้าบอก สีน้ำตาลนี้คือ ข้าวหมกอาหรับ ใช้เครื่องเทศคนละชนิดกับข้าวหมกสีเหลือง ได้ข้าวหมกอาหรับเนื้อ 1 ห่อ ไก่ทอด1 ชิ้น มาชิม ข้าวหมกอร่อยมาก หอมเครื่องเทศอีกแล้ว ปีกไก่ทอด ก็ดีงาม กรอบ เนื้อไก่แห้งแต่นุ่ม หมักและทอดอย่างไรนะ ให้ไก่ เนื้อแห้งแต่ไม่ยุ่ยแบบไก่ที่กรุงเทพฯ ข้าวหมกเนื้อ ห่อละ30 บาทเท่านั้น เราสั่งแค่ 1ห่อ เพราะก่อนมาเดินตลาด แวะไปที่ หมู่บ้านปานาเระ ชิมปาทั่งโก๋ข้างทาง 4ตัว 10บาท แถมสังขยาหวานมันด้วย ชิมขนมที่ไม่รู้จักอีกหลายอย่าง ในตลาดปาลัส
บริยานี หุงด้วยข้าวบาสมาตีเม็ดเรียวยาว
ข้าวหมกอาหรับ
ขนมท้องถิ่นหลายอย่าง
ขนมบอระเพ็ดคล้ายขนมเกลียว
ก๋วยจั๊บเฮียสุข
จากปัตตานีเดินทางไปต่อที่จังหวัดยะลา เสียงลือเล่าอ้างว่าถ้ามายะลาต้องไปชิม ก๋วยจั๊บหมูกรอบเฮียสุย ไม่ใส่เครื่องใน น้ำซุปหอมพริกไทย กลิ่นกำลังดี จะเรียกก๋วยจั๊บน้ำใสก็ใช่ที่เพราะน้ำซุปสีออกน้ำตาลอ่อนแต่ไม่มีกลิ่นพะโล้หมูกรอบอร่อยมาก ชิ้นหนา กรอบนานแม้อยู่ในน้ำซุป และเครื่องปรุงก็เด็ดขาด เป็นพริกเหลืองตำพอแหลก ทำให้น้ำซุปเข้มข้น เผ็ดถึงใจกว่าพริกป่นหลายเท่านัก
พริกเหลืองตำพอหยาบสำหรับเติมก๋วยจั๊บ
ต่อจากจากร้านก๋วยจั๊บขับรถผ่าน เห็นผู้คนมุงซื้อข้าวแกงแบบเต็มหน้าร้าน ไปชิมข้าวแกงอีกสักจานเถอะ มัสมั่นเนื้อรสชาติดีมาก เนื้อนุ่มชิ้นใหญ่เต็มคำ น้ำแกงหอมแบบไม่เคยได้ลิ้มกลิ่นและรสแบบนี้ที่ใด เลยได้ลองชิม ละซอ ละแซ เป็นเส้นคล้ายก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ แต่หนากว่า ราดด้วยน้ำแกงสีคล้ายต้มกะทิสายบัว รสชาติก็เหมือน ขณะมาตามทางเห็นป้าย รับทำขนมจีน ละซอ ละแซ ที่แอบสงสัยว่าคืออะไร จึงได้ถึงบางอ้อว่าคือขนมจีนของชายแดนใต้นั่นเอง
ละซอ ละแซ
ซุปเนื้อ
เครื่องในวัวแขวนโชว์หน้าร้าน
อาหารที่ต้องลิ้มลองอีกชนิดหนึ่งของจังหวัดยะลา คือต้มเครื่องในวัว ที่ร้าน “บิสมินละฮ์” ตรงข้ามสถานีรถไฟยะลามีตรอกตรอกหนึ่ง เรียกตรอกชุมชนต้มเครื่องใน เข้าไปในตรอกนี้ จะมีร้านต้มเครื่องใน อยู่ มากกว่า 4-5 ร้าน และต้มเครื่องใน ต้องกินกับข้าวไข่เจียว ได้สอบถามคนกินเครื่องในวัว ได้ความว่าน้ำซุปเข้มข้น หอม เครื่องในต้มได้เปื่อยกำลังดี มีหอมเจียว พริกมะนาว มาให้ปรุงรสเพิ่มตามอำเภอใจ ขอหัก 1คะแนนที่หั่นชิ้นเล็กไปนิดหนึ่งเท่านั้น
ยังติดใจ ข้าวหมกอาหรับ จึงขอลองชิมอีกสักร้าน ขับรถไปเรื่อยๆ เห็นร้านมาอิดะฮ์ แถวถนนสิโรรส14 เลยสถานีรถไฟยะลาไปหน่อย มีลูกค้านั่งเต็มร้าน เลยเลือกร้านนี้ แต่เมื่ออ่านในเมนู เปลี่ยนใจจากข้าวหมกอาหรับ เป็น ข้าวบิรยานีไก่ 1 จาน เพราะสงสัยอีกแล้วว่าเป็นข้าวอะไร กับโรตีธรรมดา 1จาน แม่ค้าถามกินกับน้ำแกงหรือนม เลือกน้ำแกง นั่งรอสักครู่ข้าวที่ยกมาจานใหญ่มาก สีข้าวสวย เหมือนข้าวหมกที่รู้จักแต่ เม็ดเรียวยาว เคยกินข้าวเม็ดแบบนี้ ที่ ร้านอาหารอินเดีย เรียกข้าว บัสปาตี คือข้าวนำเข้าจากประเทศอินเดีย ต่างจากข้าวหอมมะลิของไทยตรงมีเม็ดเรียวยาว การที่ข้าวชนิดหนึ่งจะสามารถเรียกว่าเป็นบัสปาตีได้นั้นจะเม็ดข้าวต้องมีความยาว ข้าวที่สีแล้วก่อนหุงเฉลี่ยขั้นต่ำ 6.61 มิลลิเมตร และความกว้างสูงถึง 2 มิลลิเมตร ไก่ทอดก็ชิ้นใหญ่ ทอดได้กรอบ เนื้อแห้งแต่นุ่ม อีกแล้ว หอมทั้งข้าวและไก่ โรตียกมาในจานมี 2แผ่น แผ่นหนา เคี้ยวนุ่มเต็มคำ แม่ค้า ทอดให้ใหม่หน้าร้านตลอดเวลา โรตีจิ้มกับน้ำแกง ที่หอมมาก เมื่อตาเหลือบมอง เลยขอลองเมนูข้าวยำอีกสักจาน น้ำบูดูที่ราดมาหอมและเข้มข้นมาก คลุกเคล้าข้าวและผักรวมถึงกุ้งแห้งป่นที่โรยมา จานนี้อร่อยเกินราคา เคยกินข้าวยำที่กรุงเทพฯ 40 บาท ให้เสียดายตังมากเลย
ข้าวบิรยานีไก่
โรตีแผ่นหนา
ข้าวยำรสเข้ม
ไปสุดแดนใต้หนนี้ได้รู้จักอาหารมุสลิมเพิ่มขึ้น นาซิดาแฆ รอเยาะ ซอเลาะห์ ละซอ ข้าวหมกอาหรับ ข้าวบริยานี ทำให้ติดใจในรสชาติอาหาร อีกทั้งราคาถูก หลายวันของทริปนี้ บอกได้แต่คำว่า นี่อะไรคะ อร่อยมากขายถูกมาก บ่อยครั้ง ได้รับมิตรภาพเป็น รอยยิ้มต้อนรับ และพร้อมให้ความช่วยเหลือเมื่อเราบอกว่า เป็นนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ และจะมาอีกแน่นอน ณ ปลายด้ามขวาน ที่เราเพิ่งรู้จัก น่าเที่ยว สดใส อาหารอร่อย ผู้คนเป็นมิตรเราสังเกตว่า ถ้าเป็นเด็กรุ่นใหม่ จะพูดและฟังภาษากลางของเราได้ดีกว่า ลองเปิดใจและก้าวออกไป คุณจะชอบแบบที่เราชอบแน่นอน
ปล. อาหารต่างๆที่ได้ไปชิมมา เป็นร้านข้างทางธรรมดาๆ ที่คนเดินดินกินข้าวแกง เป็นประจำ สามารถลองลิ้มชิมรสได้ทุกมื้อ เป็นความคิดเห็นและรสนิยมส่วนตัว ไม่มีสแตนด์อิน ไม่มีสลิงใดๆ นะคะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี