วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แม้โจ ไบเดนจะมีนโยบายเร่งฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดสใน 100 วันแรกของการดำรงตำแหน่ง แต่ดูเหมือนว่าอเมริกันนั้นเป็นคนว่ายาก ไม่ได้ว่านอนสอนง่ายแต่อย่างใด ตอนบังคับให้ใส่หน้ากากอนามัยก็ฮึดฮัดกัดฟัน ไม่ยอมจะใส่กันง่ายๆ แถมพอต้องใส่ก็ใส่พอเป็นพิธี แถมไม่ยอมละเว้นการเดินทาง แม้ทางรัฐบาลจะขอร้องว่า อย่าเดินทางในช่วงเทศกาลทั้งคริสต์มาส ขอบคุณพระเจ้าและอีสเตอร์ แต่อเมริกันก็โนสนโนแคร์ เรียกว่าไม่ยอมสละความสุขความพอใจส่วนตัวอะไรเลย ตามสันดานอเมริกัน
นอกจากโนสนโนแคร์ ยังตะโกนด่าแม่บรรดาบุคลากรทางการแพทย์รัวๆ ตอนยกพวกไปประท้วงมาตรการใส่หน้ากากล็อคดาวน์ช่วงที่ระบาดจัดหนัก ก็เพราะอย่างนี้อเมริกาถึงระบาดรอบเดียว ฟังดูเหมือนดี แหม..ระบาดแค่รอบเดียว ไม่มีก๊อกสองก๊อกสามเหมือนชาติอื่น คือไอ้ที่บอกว่าระบาดรอบเดียวนี่คือ ระบาดหนักแบบสาหัสสากรรจ์ตั้งแต่เดือนกพ. 2020 ลากยาวมาจนถึงวันนี้ ไม่มีเว้นวรรคพักช่วงอะไรเลย
ตั้งแต่วันแรกที่ระบาดยันวันนี้ ป่วยสะสมไป 33 ล้าน ตายไปหกแสน แต่วันนี้เองที่มีข่าวแพลมออกมาว่า ไอ้ยอดตัวเลขในเวบน่ะ ไม่ใช่ยอดที่แท้จริง ที่ปรึกษาทางการแพทย์ระดับสูงของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จำนวนดังกล่าวนั้นต่ำกว่าความเป็นจริง..ขออนุญาตเอามือทาบอกแล้วอุทาน “โอ้มายก้อดหลอดบุดด้า” แล้วยอดจริง ไม่ทิงนองนอยนี่มันเท่าไหร่กันล่ะคะ ป๋า
งานนี้หมอแอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตัวเลขที่แท้จริงสูงกว่านั้น คาดว่าราวๆ มีผู้เสียชีวิตประมาณเก้าแสนคน ขออนุญาตอุทานอีกรอบ..นั่นแตะหนึ่งล้านเลยนะยู
พอมีการอนุมัติให้ฉีดวัคซีน ก็ดันเกิดปัญหาขึ้นมาอีก อเมริกันหลายกลุ่มออกมาแหกปากประท้วง ไม่ยอมฉีดวัคซีน ทั้งโจ ไบเดนทั้งโอบาม่าเลยต้องออกแคมเปญ “ถลกแขนเสื้อแล้วฉีดวัคซีน” ซึ่งก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร ไอ้คนอยากฉีดก็ฉีดไป ไอ้พวกไม่ฉีดก็โวยวายกันใหญ่โต จนถึงขั้นยกพวกไปอาละวาดถึงสถานที่ฉีดวัคซีนให้เห็นจนชินตา
ทุกรัฐเร่งระดมฉีดวัคซีน บางรัฐให้บริการแบบไดรฟ์ทรู คือคนจะไปฉีดนั่งในรถ แล้วเคลื่อนรถไปถึงจุดฉีดวัคซีน ยื่นแขนออกไปให้ฉีด แสนสะดวกสบาย แต่มีเฉพาะบางรัฐเท่านั้น รัฐอินเดียน่ายังต้องให้ลงทะเบียนนัดล่วงหน้า เลือกเอาว่าจะฉีดตัวไหน ไฟเซอร์ โมเดอร์น่า หรือจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ดิฉันเลือกโมเดอร์น่า เพราะสังเกตว่าไฟเซอร์มีผลข้างเคียงปรากฎในข่าวมากกว่า ช่วงแรกจะให้บริการเพียงไม่กี่แห่ง เช่น โบสถ์ มหาวิทยาลัน คลีนิค แต่หลังๆ กระจายไปตามซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายยา แล้วพอถึงเวลานัดก็ไปตามนัด
วัคซีนแต่ละตัวล้วนมีผลข้างเคียง ไม่มีหรอก วัคซีนโคตรเทพตามที่อวยกันจนเวอร์ ไฟเซอร์ โมเดอร์น่าก็มีผลข้างเคียง ตัวเองไม่แพ้โมเดอร์น่า แต่สามีแพ้ทั้งสองเข็ม คือ ปวดแขนจนยกไม่ถึง ผื่นขึ้นบนแขน ปวดหัว ปวดตัว วิงเวียน นอนซมเหมือนเป็นไข้ ต้องกินไทลีนอลอยู่สองวัน แล้วอาการเหล่านี้จะหายไปเอง นี่ขนาดตัวท้อปที่อวยไส้แตกกันเลยนะ
01.jpg)
โจ ไบเดน ต้องการฉีดวัคซีนแก่อเมริกันอย่างน้อยๆ 1 โดส ให้ได้ 70% ก่อนถึงช่วงวันหยุดวันชาติคือ 4 กรกฎาคม จะได้ฉลองวันชาติอย่างชื่นมื่น ตอนนี้มีประชากร 56% หรือมากกว่า 145 ล้านคน ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยๆ 1 โดส แต่อัตราผู้เข้าฉีดวัคซีนค่อยๆ ลดลงในระยะหลัง อย่างที่เล่าว่ามะริกันไม่ค่อยจะยอมไปฉีดวัคซีนกัน หลายหน่วยงานร้านต่างๆ เลยออกนโยบายกิ๊บเก๋แจกโน่นนี่
รัฐนิวเจอร์ซีย์ออกนโยบาย “วัคซีนแลกเบียร์” ใครก็ตามที่ฉีดวัคซีนแล้ว เอาบัตรฉีดวัคซีนไปแลกเบียร์ รัฐวอชิงตันเห็นดีเห็นงามด้วยเลยเอาบ้าง ฉีดแล้วชิมเบียร์ ส่วนอีกรัฐนี่ก็เด็ดแท้ คิดแล้วอยากย้ายรัฐ ในเวสต์เวอร์จิเนีย มีการมอบพันธบัตรออมทรัพย์มูลค่า 100 ดอลลาร์แก่พลเมืองอายุ 16 ถึง 35 ปีที่เข้ารับวัคซีน บอกเลยว่าอิจฉามาก ผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์ ประกาศว่าลูกจ้างรัฐคนใดก็ตามที่เข้าฉีดวัคซีนจะได้รับเงิน 100 ดอลลาร์
นอกเหนือจากรัฐต่างๆ ที่มีนโยบายแจกแหลก หลายห้างก็ล่อใจพนักงานของตนให้ฉีดวัคซีน อย่างห้างโครเกอร์ ให้เงินพนักงาน 100 ดอลลาร์ฟรี ถ้าฉีดวัคซีน ส่วนร้านโดนัทคริสปี้ครีมก็ออกแคมเปญว่า ใครฉีดแล้วมารับโดนัทฟรี ซึ่งก็แจกแค่อันเดียวนั่นแหละ ปกติไอ้ร้านโดนัทร้านนี้ก็แจกฟรีอยู่แล้ว เรื่องนี้แหละที่มีการโยงมาด้อยค่าประเทศไทยจนได้ ทั้งที่ไม่เกี่ยวกันเล้ย
แม้ว่ารัฐบาลไทยพยายามอย่างสุดความสามารถ ในการหาวัคซีนมาให้ทันต่อการแพร่ระบาดรอบสาม ซึ่งตอนนี้มีวัคซีน 2 ตัวในมือคือ ซิโนแวคกับแอสตร้าเซเนก้า ที่ต่อไปเราจะผลิตได้เองในประเทศ ส่วนที่อนุมัติแล้วรอรับคือ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ไฟเซอร์ โมเดอร์น่า และสปุตนิควี กระนั้นก็ไม่ทันใจฝ่ายค้านและบรรดาสาวกส้มที่ช่วยกันแพร่ข่าวปล่อยข่าวว่า วัคซีนแอสตร้าเซเนก้ากับซิโนแวคไม่มีคุณภาพ โถ..ไม่มีคุณภาพได้ไงยะ ชาวโลกฉีดกันเพียบ รวมทั้งผู้นำระดับโลกด้วย
ตอนนี้มีการโหมประโคมหนักมากว่าซิโนแวคเป็นวัคซีนเซินเจิ้น ไฟเซอร์และโมเดอร์น่าเท่านั้นคือเทพแห่งวัคซีน แห่แหนตามกันด้วยเพจหมอที่ทำตัวเหมือนเซลล์แมนขายยา ส่วนหมอผู้ใหญ่ที่ออกมาให้ข่าวแทบตายกลับไม่ฟัง คนไทยบางกลุ่มไม่ยอมฟังหมอ แต่ดันเชื่อหมาที่เห่าออนไลน์ในโลกโซเชียล ตอนนี้เกิดอีเวนต์กระทืบรัฐบาลไทยด้วยการทำกลุ่ม “ย้ายประเทศกันเถอะ” เพื่อกระหน่ำด่าเจ้าและด่ารัฐบาลรวมถึงด่าการบริหารจัดการวัคซีนอย่างเมามัน
อยากจะย้ายประเทศก็ย้าย ไม่มีใครว่า ถือเป็นสิทธิส่วนตัว ในกลุ่มนั้นมีสมาชิกหลักแสน แต่เชื่อเถอะว่ามีบรรดาที่ถูกเรียกว่า “สลิ่ม” แฝงตัวในนั้นเพียบ มีการโหวตประเทศในฝัน อเมริกาคือหนึ่งในประเทศในฝันของคนกลุ่มนี้ ที่ฮาหนักกว่านั้นคือมีการโยงการแจกโดนัทกับการฉีดวัคซีนเพื่อด่าประเทศไทยว่า เร่งให้คนไทยไปฉีดแต่ไม่เห็นแจกอะไรเลย ไม่เหมือนอเมริกาที่แจกโดนัทด้วย คือถ้าคิดได้แค่นี้ก็ไม่ต้องไปหรอก อเมริกา แค่โดนัทอันเดียวยังลากมาด้อยค่าแผ่นดินเกิด
อยากบอกคนที่จะย้ายมาอยู่อเมริกาว่า ให้ลองดูแผนภูมิการตายการป่วยระหว่างสองประเทศ เมื่อเทียบประชากรหนึ่งล้านคน ในจำนวนประชากรหนึ่งล้านคน อเมริกามีคนตาย 1792 ราย ส่วนไทยอยู่ที่อัตราส่วน ประชากรหนึ่งล้าน มีคนตาย 5 คน
เอางี้..อย่าว่าแต่ประชากรทั่วอเมริกาเลย แค่รัฐอินเดียน่าง่อยๆ ที่มีประชากรหกล้านคน ป่วยอยู่ในอันดับที่ 14 ในจำนวน 50 รัฐ อัตราการตายต่อประชากรหนึ่งล้าน อเมริกันในอินเดียน่าตาย 1993 คน สาหัสกว่าประเทศไทยเห็นๆ เทียบอัตราส่วนให้ดูง่ายๆ แบบนี้แล้ว ยังอยากจะย้ายมาอเมริกากันอยู่ไหม

น้ำในหลุมศักดิ์สิทธิ์ โซเชียลฮือฮา!ชาวบ้านกราบขอโชค‘กระโปกพระร่วง’
'สิริพงศ์'ฟาด'จอม-ทวี'ทำการบ้านน้อย กล่าวหา MotoGP เอื้อธุรกิจใคร
'สมชาย'ชวนจับตา! ปฏิบัติการจับ'ไทยเทา'เร็วๆนี้
สุดโรแมนติก! 'ใหม่-เต๋อ'จูงมือเข้าพิธีวิวาห์หวานราวเทพนิยาย
ผบช.ภ.4 สั่งทุกโรงพักเอกซเรย์เร่งปราบยาเสพติด-อาชญากรรมทุกรูปแบบ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี