ประชากรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีหลากหลายชาติพันธุ์ เนื่องจากภาคอีสานมีพื้นที่กว้างใหญ่สุดของประเทศ ผู้คนมีวิถีชีวิตผูกติดกับทรัพยากรธรรมชาติที่แตกต่างหลากหลาย ทั้งในเขตที่ราบ ในแอ่งโคราชและแอ่งสกลนคร โดยอาศัยลำน้ำสำคัญยังชีพ เช่น ชี มูล สงคราม โขง คาน เลย หมัน พอง พรม ก่ำ เหือง พระเพลิง ลำตะคอง ลำเชียงไกร เซิน ปาว ยัง คันฉู อูน เชิงไกร ปลายมาศ โดมใหญ่ โดมน้อย น้ำเสียว เซบาย มูลน้อย เป็นต้น และเช่นเดียวกับชุมชนที่อาศัยในเขตภูเขา ซึ่งก็มีความแตกต่างของทรัพยากรธรรมชาติมาก ทำให้กระบวนการปรุงอาหารของชุมชนจึงมีประเภทหลากหลายกว่าภูมิภาคอื่น ชาวบ้านนิยมหาอาหารจากแหล่งอาหารธรรมชาติเท่าที่จำเป็นที่จะบริโภคในแต่ละวัน เช่น การหาปลาจากแม่น้ำโดยไม่จำเป็นต้องจับปลามาขังทรมาน หากวันใดจับได้มากก็นำมาแปรรูปเป็นปลาแดกหรือปลาร้า ปลาแห้ง ปลาเค็ม น้ำปลา (น้ำที่ลอยหน้าของปลาแดก) ไว้บริโภค อีกทั้งภาคอีสานมีแหล่งเกลือสินเธาว์ ทำให้ชาวบ้านไม่ต้องพึ่งพาอาหารจากตลาดมากนัก ชาวบ้านจะปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก สวนหลังบ้านมีบทบาทสำคัญในฐานะเป็นตู้กับข้าวประจำครัวเรือน โดยมีทุกอย่างตามคติให้เพียงพอต่อการบริโภค ส่วนที่เหลือก็แบ่งปันให้ญาติพี่น้องเพื่อนบ้านด้วยความโอบอ้อมอารี หรือนำไปทำบุญที่วัด
ชาวอีสานกินทั้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้า ข้าวเหนียวเป็นอาหารหลักของประชากรส่วนใหญ่ ส่วนชาวอีสานใต้นั้นกินข้าวเจ้าเป็นอาหารหลัก อาหารมีหลากหลายรสชาติทั้งรสเผ็ดจัด เช่น แจ่วหมากเผ็ด ตำหมากหุ่ง รสเผ็ดน้อย เช่น แกงหอย รสเค็มมาก เช่น ปลาแดก แจ่วบอง รสเค็มน้อย เช่น แกงเห็ด รสหวานมาก เช่น หลนหมากนัด รสหวานน้อย เช่น อ่อมเนื้อ รสเปรี้ยวมาก เช่น ต้มส้ม รสเปรี้ยวน้อย เช่น ลาบเนื้อ รสจืด และขม เช่น แกงขี้เหล็ก แจ่วเพี้ย บางชนิดมีการผสมรสชาติทั้งเผ็ดเค็มเปรี้ยวหวานเข้าด้วยกัน เช่น หลนปลาแดก ตำหมากหุ่ง ตำซั่ว ตามกรรมวิธีการปรุงอาหารอีสานหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ ก้อย แกง กวน ข้าวปุ้น ข้าวแผะ คั่ว แจ่ว จุ จ้ำ จี่ จ่าม ซอย แซ่ ซ่า ซุบ ซาว ซกเล็ก ดอง ดาง ดาด ต้ม ตำ ตาก ทอด เหนี่ยน นึ่ง น้ำตก ปิ่น ปิ้ง ผัด เพี้ย พัน หมก เมี่ยง หมี่ หม่ำ หมัก มูน หม้อน้อย ยำ ย่าง ห่อ ลาบ หลาม รวน ลวก ไส้กรอก อุ เอาะ อ่อม อบ
ร้านอาหารอีสานชื่อดังส่วนใหญ่ เติบโตจากแผงลอยรถเข็นสู่ร้านรวงจนกระทั่งเป็นร้านใหญ่โตขนาดสวนอาหาร แต่กระนั้นคนภาคอื่นมักจะรู้จักแค่ตำหมากหุ่งหรือส้มตำ น้ำตก ลาบ ก้อย อ่อม คอหมูย่าง ปิ้งไก่ (ไก่ย่าง) แกงหน่อไม้ ซุบหน่อไม้ เสือร้องไห้ เนื้อแดดเดียว ต้มแซ่บ ไส้กรอกอีสาน ตับหวาน ลวกจิ้มแจ่ว น้ำพริกปลาร้า แคบหมู แจ่วฮ้อน (จิ้มจุ่ม) เป็นต้น
จากร้านรถเข็นริมฟุตบาทเมื่อ30 ปีก่อน แล้วกลายเป็นเพิงมุงหญ้าแฝก จนเป็นร้านอาหารที่โอ่อ่าใหญ่โต อยู่ในซอยลาดปลาเค้า 24 และมีสาขาที่ 2 อยู่ในซอยมัยลาภ (รามอินทรา 14) “ครกไม้ ไทยลาว” มีอาหารอีสานแท้ครบเกือบทุกอย่าง โดยเฉพาะของแปลกๆ หายากมีรสชาติแซ่บอีหลี ดั่งที่สโลแกนของร้านบอกเป็นภาษาลาวว่า “ซำได้เมือยามเล้า กินเข้าอยู่เฮือน” แปลว่า “เหมือนได้กลับไปกินข้าวแซ่บๆ ที่บ้านเกิด กับพ่อแม่” “ครกไม้ ไทยลาว” จึงเป็นศูนย์รวมอาหารอีสานอันหลากหลาย มีตั้งแต่หมกรังผึ้งอ่อน ก้อยไข่มดแดง ไข่มดแดงแกงผักหวาน ปลาเนื้ออ่อนนึ่งจิ้มแจ่ว กุ้งเต้น หอยโข่งลวก แกงเปรอะ แกงหน่อหวาย อุหน่อไม้ ต้มไก่ในตำนาน และอื่นๆ
หมกรังผึ้งอ่อน
รังผึ้งอ่อนย่างหมกใบตอง เคี้ยวเพลิน ยิ่งเคี้ยวเจอตัวอ่อนอวบๆ แตกเป็นน้ำขาวนวลออกมาให้ความหวานแตกซ่านไปทั่วปาก จิ้มเกลือเล็กน้อยเพื่อรีดรสหวานออกมาให้ฉ่ำ เคี้ยวหยับต่อไป ไขรังผึ้งจะติดหนึบฟันเหมือนเคี้ยวหมากฝรั่ง
กบย่าง
ย่างมาทั้งตัวเพื่อยืนยันว่าเป็นกบแท้ เนื้อโคนขาและน่องหนึบแน่น กระดูกอ่อนส่วนหัวเข่าก็แทะมัน แขนขาเหยียดตรงเหมือนพลร่ม จับคู่น้ำจิ้มคล้ายน้ำพริกหนุ่ม กินกันได้ทั้งบ้าน ลูกเด็กเล็กแดงดึงน่องเคี้ยวกันสนุก แล้วบอกว่าคิดถึงเจ้าชายกบ
ไข่มดแดงกับเห็ดเผาะ
ต้นฤดูฝนเดือนพฤษภาคมของทุกปี เป็นช่วงที่เกิดเห็ดเผาะธรรมชาติ เห็ดอ่อนเปลือกอ่อนขบแตกแล้วมีรสหวานมันเหมือนกินเนย แล้วไปแหย่รังมดแดงเอามาแกงกับเห็ดนี้ซึ่งเข้ากันราวคู่ตุนาหงัน
ร้านครกไม้ไทยลาว มีไข่มดแดง รังผึ้ง แมลงแปลกๆ จิโป่ม แมงกระชอน รถด่วน ดักแด้ แมงดาไข่ แมงสะดิ้ง จักจั่น ตั๊กแตน แกงผักหวานไข่มดแดง หมกหัวปลีไข่มดแดงและเห็ดเผาะที่นี่มีขายตลอดปีโดยการถนอมอาหารแบบแช่แข็ง
วัตถุดิบเหล่านี้ร้านอื่นอาจจะมีไม่ตลอดแต่ที่ครกไม้ไทยลาวมีทั้งปีแทบไม่ขาด
ต้มแซ่บไก่บ้านในตำนาน
เป็นรายการเลื่องชื่อของร้านที่สั่งกันแทบทุกโต๊ะ ไก่บ้านเลือกไก่สาวสดสับทั้งกระดูก ใส่ไข่อ่อนลอยฟ่อง ปีกไก่ ขาไก่ ประเดประดังต้มกับเครื่องสมุนไพรและผักพื้นบ้านรสเปรี้ยวฝาด เช่น ใบมะขาม ใบมะกอก ผักชีลาว ใบแมงลัก ซดคำเดียวหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
ตำปูม้าสด
ครัวอีสานวัดฝีมือกันที่ส้มตำ เรียกเป็นจานสลัดก็ว่าได้ เมื่อหลายสิบปีก่อนมีการแข่งขันตำส้มตำชิงแชมป์โลกที่จังหวัดร้อยเอ็ด มีแม่ครัวต่างชาติมาร่วมมหกรรมกันคับคั่ง มีแหม่มใจถึงเปิดร้านอาหารอีสานอย่างไม่หวั่นเกรงชาวอีสาน ชื่อร้าน “ซารา เจน” จนเป็นที่ฮือฮากันทั้งกรุงเทพฯ
ร้านครกไม้ไทยลาวนี้ มีทีเด็ดส้มตำมากกว่า 30 อย่าง ชนิดที่มีอะไรในร้านก็หยิบมาตำหมด เช่น ตำไทย ตำลาว ตำซั่ว ตำกล้วย ตำฝรั่ง ตำกากหมู ตำส้มโอ ตำลาวปูนาไร้เส้น ตำมะกอก ตำหมูยอ ตำป่า ตำไหลบัว เป็นต้น อ่านเมนูไปพลางน้ำลายสอทีเดียว
ซุปหน่อไม้
ที่อร่อยเกินคาดคือหน่อไม้สดต้มกับน้ำใบย่านางจนหอมจึงมาปรุงเครื่องคล้ายเครื่องลาบ แต่นั้นมาเมื่อเข้าร้านอีสาน จานแรกที่สั่งคือซุปหน่อไม้นี่เอง
ลาบ
นักนิยมอาหารอีสานคงไม่มีใครไม่รู้จัก “ลาบ” แม่ครัวพ่อครัวชาวอีสานล้วนเจนจัดการทำลาบก้อยกันถ้วนหน้า ทำนองเดียวกันกับส้มตำ ที่หยิบอะไรได้ก็เอามาทำลาบเกือบทุกอย่าง เช่น ลาบหมู-เนื้อ ลาบเป็ด ลาบไก่ ลาบปลาช่อน ลาบปลาดุก ลาบปลาบึก ลาบวุ้นเส้นจนถึงลาบเลือด
ยำไข่มดแดง
ไข่มดแดงรังเดียวทำได้สารพัดเมนูเช่นกัน ตั้งแต่แกงผักหวานไข่มดแดง ก้อยไข่มดแดง ไข่เจียวไข่มดแดง หมกไข่มดแดง ไข่ตุ๋นไข่มดแดง ยำได้รสเฉียบขาดมาก
ปลากะพงเผา
ปลาหลายชนิดทั้งปลาช่อนนา ปลาดุกนา ปลาเนื้ออ่อน ฯลฯ ลูบเกลือก่อนย่าง สุกแล้วถลกหนังวางเคียงผักต้มทั้งดอกแค ดอกขจร กะหล่ำดอก มะเขือ ทีเด็ดทีขาดอยู่ที่น้ำจิ้ม 2 แบบ ทั้งแบบแจ่ว และแบบซีฟู้ด
ผักสดตามฤดู
จานผักที่ยกมาตั้ง ปรกติจะมีผักพื้นบ้านสด เช่น ผักแพรว หน่อหวาย ผักชีฝรั่ง ผักชีลาว ผักแขยง ผักติ้ว ใบบัวบก ผักโขมสวน ผักกูด ผักตับเต่านา ผักตูบหมูบ ผักเม็ก ผักกระโดน ผักชุมเห็ด ผักเปราะ ผักกระสัง ผักปลัง ใบยอ มะแว้งเครือ เอื้องหมายนา ฝักเพกา ก้านคูน ฯลฯ มีมากมายจาระไนยกันไม่หวาดไหว
เคยมีเกลอชาวอีสานและชาวใต้ ทับถมกับว่าใครจะรู้จักและกินผักป่าเก่งกว่ากัน ปรากฏว่ารู้จักพอๆ กัน ต่างกันที่เรียกชื่อภาษาถิ่นที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย
ข้าวเหนียว
ข้าวเหนียวนึ่ง ปั้นคละกันทั้งข้าวเหนียวขาวและข้าวเหนียวแดง ห่อใบตองมัดเชือกกล้วย เมื่อยกมาตั้งชวนหิว แกะเชือกแอบจกมาชิมตอนร้อนทั้งหอมและนุ่มเหนียว
ครกไม้ ไทย-ลาว
สาขาที่ 1 - ลาดปลาเค้า
8 ซอยลาดปลาเค้า 24 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
Tel: 02-570-6234, 089-135-1230
https://maps.app.goo.gl/mB34NAsFAnDwiDn88
สาขาที่ 2 – 12 ซอยรามอินทรา 14
Tel: 093-019-5998 , 091-910-2000 , 02-9436199
ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 9.00น.-21.00น.
https://maps.app.goo.gl/qC9BQTbWd4EQiPbHA
***หมายเหตุ ในช่วงสถานการณ์โควิด ควรโทรสอบถามทางร้านก่อนว่านั่งรับประทานในร้านได้หรือไม่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี