พังเดือน ลูกทีมเถ่าชิ่วสุทัศน์ แห่งคอลัมน์ตู้กับข้าว แนวหน้าออนไลน์ เครื่องเริ่มติดชีพจรลงเท้าออกเดินทางอีกทริป ครั้งนี้มุ่งขึ้นเหนือเพื่อสนองนโยบายเปิดประเทศ แต่ยังคงยึดถือมาตรการ New Normal
ฮ้านถึงเจียงใหม่
แรกถึงเชียงใหม่ ไม่ฟังอีร้าค่าอีรม จัดการหาที่กินเป็นประเดิมกันเลย พบร้านอาหารพื้นบ้านของคนเมือง การตกแต่งร้านออกแนวเรียบเหมือนมากินข้าวบ้าน เพื่อน ง่ายๆ ไม่หรูหรา หลังคามุงจาก ถ้วยชามมาในแนวสังกะสี มีใบตองรองถ้วยชาม ชื่อร้านฮ้านถึงเจียงใหม่ มีความหมายโดยนัยว่า มาถึงเชียงใหม่ต้องมาร้านนี้ ราคาไม่แพง มีเมนูให้เลือกหลากหลาย
ไข่มดแดงคั่วเกลือ
เคี้ยวกรุบหวานมันเค็มปะแล่มเป็นจานเรียกน้ำย่อย หรือจ้ำกับข้าวนึ่งเข้ากันที่สุด ถ้าจะลองกินแบบโรตี เอาข้าวเหนียวที่นึ่งสุกใหม่มาแผ่ ใส่ไข่มดแดงคั่วไว้ตรงกลาง และม้วนข้าวเหนียว เหมือนม้วนแป้งโรตีโดยมีไข่มดแดงเป็นไส้ตรงกลาง กินเพลินเกินห้ามใจ
ปูอ่อง
มันปูนาผสมกับไข่ไก่ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย หยอดใส่กระดองปู แล้วนำไปย่างด้วยเตาถ่าน กลิ่นหอมชวนชิม หวานทั้งไข่และมันปู เมนูนี้จะมีในช่วงปูนาเยอะ คือเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม ก่อนนี้ หากินได้ตามตลาดนัด แต่มาพักหลัง ตามร้านอาหารทั่วไปก็พอหาปูอ่องให้ชิมได้
ผักหวานผัดไข่
อร่อยไม่แพ้ใบเหลียงผัดไข่ของอาหารภาคใต้ เมนูนี้คงไม่ใช่อาหารเหนือภาคเดียว ภาคกลางหรือภาคไหนก็ล้วนมีผักหวานป่าผักหวานบ้าน นอกจากอร่อยแล้วก็ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงด้วย
จิ้นนึ่งน้ำพริกข่า
“จิ้น” ภาษาเหนือคือเนื้อวัวหรือเนื้อควาย แต่เนื้อหมูจะไม่เรียกจิ้น เข้ากันได้ดีกับน้ำพริกข่าทำใหม่ หอมกลิ่นข่า ปรุงรสได้กลมกล่อม เปรี้ยว หวาน เค็มมาครบ เป็นน้ำพริกชนิดแบบเปียกกินกับจิ้นที่นำไปนึ่งสุกกำลังดีไม่เหนียว จ้ำข้าวเหนียวกับน้ำพริกข่า จิ้นนึ่ง ลำแต๊ๆ เจ้า
ร้านกำเบ้อ
ต่อด้วยอาหารเหนืออีกร้านหนึ่ง ที่ออกแนวคาเฟ่ร่วมสมัย ตกแต่งร้านสวยงาม ร่มรื่น ครั้งแรกที่เพื่อนชวนมา ไม่แน่ใจอาหารจะออกมาแนวไหน แต่พอได้ชิมแล้วชอบมาก คนละแนวกับฮ้านถึงเจียงใหม่ ไม่เสียทีที่คนพามา
ได้ยินชื่อร้านตอนแรก นึกถึงกำเบ้อเริ่ม แปลว่า กำใหญ่ๆ ซึ่งไม่ใช่ภาษาเหนือ กำเบ้อ แปลว่า ผีเสื้อ และร้านตั้งอยู่ที่ตำบลสันผีเสื้อ ก็ดูเข้ากันดี
ออเดิร์ฟเมือง
มีทั้งน้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง น้ำพริกประจำถิ่นล้านนา กินคู่กับแหนม ไส้อั่ว หมูยอ และแคบหมู เครื่องครบ มีผักให้กินแนม ทั้งฟักทองต้ม ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลีต้ม และที่ขาดไม่ได้คือไข่ต้ม นับเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่รสชาติกลมกล่อม ดีทุกแบบ ชิมแล้ว อยากชิมเมนูอื่นว่า จะรสชาติดีทุกอย่างไหม
จอผักปั๋ง่ใส่จิ้นส้ม
ผักปั๋ง คือผักปลังของคนภาคกลาง จิ้นส้ม คือแหนม จอ คือการปรุงอาหารแบบคนเหนือ มีพริก หอมแดง กะปิ กระเทียม โขลกเป็นเครื่องแกง มีรสเปรี้ยวของแหนม และใส่มะเขือเทศเพิ่ม ได้ความหวานของผักปลัง ชามนี้พังเดือนซดน้ำเกลี้ยง เป็นที่ถูกใจ เพราะบางร้านจะแกงแบบน้ำน้อยขลุกขลิก
แกงฮังเล
หอมกลิ่นเครื่องเทศแบบอินเดีย (ประเภทเครื่องเทศมัสล่า) น้ำแกงขลุกขลิกเข้มข้น เค็มจากเกลือ น้ำปลา รสเปรี้ยวจากมะขามเปียกหรือจากกระท้อน รสหวานจากน้ำตาลทรายแดงและน้ำตาลปี๊บ ทุกรสต้องกลมกล่อมไม่โดดออกรสใดรสหนึ่งเกินไป เผ็ดตามมานิดด้วยพริกแกงแดง 2-3 ช้อนตวง ต่อหมูสามชั้นติดมันน้อยๆ 1 กิโลกรัม เหมือนหมูสามชั้น ใส่ขิงซอย กระเทียม ถั่วลิสง ผู้ที่กลัวอ้วนอาจแหยงไม่อยากชิมเพราะมีเนื้อหมูสามชั้น แต่ถ้าลองได้ชิมแล้วรับรองวางช้อนไม่ลงแน่ บางคนอาจเข้าใจแกงฮังเลเป็นมัสมั่น ซึ่งมัสมั่นมักจะเป็นเนื้อหรือไก่มากกว่า ใส่มันฝรั่ง หอมแดงในแกง แต่กลิ่นเครื่องเทศคนละชนิด
แกงโฮะ หรือ คั่วโฮะ
โฮะ ภาษาเหนือ หมายถึง รวม ได้ยินว่าเมื่อก่อนใช้อาหารที่กินเหลือหลายอย่างมารวมกันแล้วปรุงรสมาเป็นเมนูใหม่ รสชาติเข้มข้น ต้องกินกับข้าวสวย หรือข้าวเหนียว ในแกงมีทั้งวุ้นเส้น ถั่ว เนื้อสัตว์ ผัดรวมกัน ถูกปากนักชิมแบบพังเดือนยิ่งนัก
ลาบคั่ว
ลาบของคนเมืองมีพริกสำหรับลาบโดยเฉพาะได้แก่ มะแขว่น (พืชสมุนไพรชนิดหนึ่งของภาคเหนือ) เป็นส่วนผสม ทำให้รสชาติแตกต่างไปจากลาบทั่วไป นอกจากเครื่องปรุงพริกลาบแล้ว ยังใส่เลือดและนำไปคั่วให้สุก ไม่ต้องมีหอมแดง แต่มีกระเทียมเจียวโรยหน้าให้เคี้ยวกรุบกรอบหอมกลิ่นกระเทียมเจียวใหม่
หน่อไม้ยัดไส้
ภาษาเหนือ เรียกหน่ออั่ว อั่ว แปลว่า การยัดไส้ สำหรับกินเล่นเป็นอาหารว่าง หรือกินเป็นกับข้าว จิ้มน้ำจิ้มไก่ เพลินจนหมดจาน
สปาเก็ตตี้ไส้อั่ว
โผล่จากอิตาลีมาล้านนา จานนี้ กินอร่อยไม่รู้ว่าความอร่อยมาจากเส้นสปาเก็ตตี้ หรือ เป็นที่ไส้อั่วช่วยชูรสชาติ พลอยทำให้เส้นสปาเก็ตตี้อร่อยไปด้วย ถูกปากทุกคน สวาปามหมดจานทุกอย่างแบบไม่ต้องเกี่ยงกัน คนอิตาเลี่ยนได้กินถึงกับน้ำตาซึม
ผ่านสองร้านที่ชิมมาอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อเดินทางออกนอกจังหวัดเชียงใหม่ ชวน ไปต่อที่น้ำแร่แจ้ซ้อน ร้านอาหารสวัสดิการอุทยานน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง
ยำไข่น้ำแร่
ไข่น้ำแร่ที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนแตกต่างจากบ่อน้ำแร่ที่อื่น ด้วยว่าอุณหภูมิคงที่ ทำให้ไข่แดงจะสุกก่อน ส่วนไข่ขาวจะสุกตามหลังเป็นวุ้น แม้ว่าจะแช่ไข่นานเท่าใด ไข่ขาวก็จะไม่สุกเพิ่มขึ้น เป็นไข่ต้มจากน้ำพุร้อนแจ้ซ้อนที่ไม่เหมือนใคร ประกอบกับการปรุงรสที่ถึงเครื่องทั้ง น้ำปลา มะนาว พริก บวกด้วยบรรยากาศท่ามกลางไอน้ำร้อน ช่วยชูรสชาติเมนูนี้ขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว
กองหินขอบบ่อน้ำแร่
ทำไมแข็งแต่ไข่แดง ไข่ขาวยังเป็นวุ้น
มะละกอที่ขายอยู่ในร้านภายในอุทยานฯ ลูกใหญ่มาก ราคา 20 บาท หวานชื่นใจ แม่ค้ารับรองไม่มีสารเคมีตกค้าง กินได้สบายใจ อุดหนุนผลิตผลของคนในพื้นที่ ถ้าไปหั่นแบ่งขายในกรุง ลูกนี้ขายได้มากกว่า 200 บาทแน่นอน
เทียบขนาดมะละกอกับขวดน้ำ
หลังจากได้ชิมทั้งไข่น้ำแร่และมะละกอแล้ว ขอเชิญชวนทุกท่าน แวะมาลูบพุงในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนอันสวยงาม ร่มรื่น สะอาด มีทั้งน้ำตกที่เป็นน้ำเย็นชื่นใจ ใกล้กับบ่อน้ำพุร้อนที่ร้อนรุมๆ เหมาะกับการอาบน้ำเย็นสลับกับแช่เท้าในน้ำร้อน ช่วยผ่อนคลายถนอมสุขภาพ
บริเวณสายน้ำแร่ที่เขียวชอุ่ม
น้ำทำไมจึงร้อน
อุทยานมีป้ายอธิบายถึงปรากฏการณ์ของบ่อน้ำร้อน
ข้าวซอยไก่
ปิดท้ายด้วยข้าวซอยไก่ที่บ้านแม่แจ๋ม ที่ไม่ใช่แม่แจ่ม และคนละแห่งกับม่อนแจ่ม แม้ข้าวซอยที่นี่ไม่เข้มข้น หวาน มันหอมกะทิ แต่กลิ่นหอมของเครื่องแกงบางอย่างทำให้ข้าวซอยไก่ของบ้านแม่แจ๋ม จังหวัดลำปาง กลมกล่อม ซดน้ำแกงได้ลื่นคอจนหมดชามไม่รู้ตัว
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
เรื่องและภาพโดย ดวงเดือน รัตติสุวรรณ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี