ถ้าเพียงแต่สื่อทำหน้าที่ บ้านเมืองก็จะไม่เสียหาย !
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้คนที่ติดตามข่าวสารการเมือง คงจะตื่นเต้นกับข้อมูลเกี่ยวกับ ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุกที่ระเหระหนอยู่ต่างประเทศมาสิบกว่าปีแล้ว จากปากคำของ จตุพร พรหมพันธ์ ผู้เคยทำหน้าที่ ทหารเอกของทักษิณ
สิ่งที่จตุพรพูดเกี่ยวกับทักษิณ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่คนที่ห่วงใยปัญหาบ้านเมือง พูดกันคนแล้วคนเล่า ครั้งแล้วครั้งเล่า พูดกันไม่จบไม่สิ้น
ที่แตกต่างก็คือ ข้อเท็จจริงเหล่านี้หลุดออกมาจากปากของคนที่เคยเอาชีวิตเข้ารับใช้ทักษิณชนิดสุดจิตสุดใจ
ต่างไปจากที่คนอื่นๆ พูด ที่บรรดาขี้ข้าทักษิณก็ดี กลุ่มคนที่ศรัทธาทักษิณอาจจะเพราะได้ประโยชน์ อาจจะเพราะ เชื่อมั่นหรือศรัทธาไปแล้ว ยากที่จะเปลี่ยนแปลง คิดว่าทักษิณต้องถูกยึดอำนาจ ถูกตรวจสอบ มีคดีโน่นนี่ตามมามากมาย เพราะถูกกลั่นแกล้ง ถูกอำนาจลึกลับข่มเหงรังแก
คนเหล่านี้ต้องคิดหนักแล้วละ
เพราะทักษิณก็ดี ขี้ข้าที่ยังจงรักภักดีต่อทักษิณก็ดี ไม่มีสักคนที่ออกมาตอบโต้ ว่าสิ่งที่จตุพรพูดถึงทักษิณตรงไหนเป็นเท็จ ตรงไหนที่ไม่เป็นความจริง ตรงไหนที่จตุพรเสกสรรปั้นแต่งขึ้นมา
ทักษิณก็เพียงแต่เล่นลิ้นว่า ตนถูกเห่า โดยที่ไม่ชี้แจงเลยว่า เนื้อหาที่ถูกเห่านั้นมีข้อไหนที่ไม่จริงบ้าง เช่นเดียวกับที่พร่ำพูดถึงคดีต่างๆ ที่ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุกว่าถูกกลั่นแกล้ง ตนไม่ได้รับความเป็นธรรม ศาลถูกบงการ ศาลไม่เป็นธรรม เป็นเช่นนี้ทุกคดี ทุกกรณี
ขี้ข้าทักษิณบางราย เปรียบทักษิณเป็นภูเขาทอง แค่หมาเยี่ยวรดบ้างก็ไม่กระเทือน
จะไม่กระเทือนได้อย่างไร นโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยที่ดูเหมือน ทักษิณยังบงการได้อยู่ ที่รณรงค์กันก่อนหน้านี้ คือ พาพ่อกลับบ้าน มาตอนนี้จะไม่เน้นเรื่องนี้สักเท่าไหร่แล้ว
2 ทศวรรษที่ผ่านมา ถ้าสื่อทำหน้าที่ของสื่อ อย่างที่ จิตร ภูมิศักดิ์ ปราชญ์ของประชาชนเขียนเอาไว้ ถึงภารกิจอันยิ่งใหญ่ของหนังสือพิมพ์คือ “ เปิดโปงที่เลวทราม และเทอดทูนพิทักษ์ธรรม” บ้านเมืองของเราก็จะไม่ตกอยู่ในความขัดแย้งอย่างทุกวันนี้
ลองย้อนกลับไปดูซีครับ หลังเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 ทักษิณ รับคำเชิญ พลตรีจำลอง ศรีเมือง มาร่วมรัฐบาล นายชวน หลีกภัย ขณะที่ตอนนั้นหลายต่อหลายพรรค ไม่ว่าจะเป็นความหวังใหม่ ประชาธิปัตย์ อยากจะได้ตัวเขามาร่วม เพราะเขาประสบความสำเร็จทางธุรกิจ (จากสัมปทานผูกขาด)
สื่อต่างๆก็ไชโยโห่ร้องต้อนรับ ด้านหนึ่งเป็นคนใหม่ เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ อีกด้านหนึ่งได้งบโฆษณาจากเครือชินคอร์ปะเรชั่น
และเมื่อทักษิณ ทิ้งพรรคพลังธรรมมาตั้งพรรคไทยรักไทย ก็ยิ่งต้องเชียร์ นอกจากเชื่อว่ารวยแล้วไม่โกง ยังเชื่อว่าจะสามารถพึ่งพาทักษิณได้โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่บางคนที่ผิดหวังมาจากการเข้าร่วมรบกับพรรคคอมมิวนิสต์ในป่าแล้วผิดหวังออกมา
พวกเขาส่วนหนึ่งก็สมหวังจริงๆ ได้เป็น ส.ส. ได้เป็นรัฐมนตรี ได้ซดน้ำแกงที่ทักษิณแบ่งปันให้ ชดเชยกับความหวังที่ไม่ได้จากในป่า
และเมื่อทักษิณแบ่งปันให้บ้าง ฐานะก็ร่ำรวยขึ้น มีหน้ามีตาขึ้นในสังคม ก็เห็นการทุจริตของทักษิณเป็นเรื่องปกติ พวกเขาจะสรรหาวาทะมาปลอบประโลมตัวเอง เป็นต้นว่า มีรัฐบาลไหนบ้างไม่โกง ถึงทักษิณจะโกง มันก็ยังแบ่ง หรือทักษิณเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายที่ไม่ใช่ทักษิณมันเป็นเผด็จการ ทักษิณเข้าไปเทคโอเวอร์พรรคการเมืองอื่น ก็มองว่า เป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องธรรมดา
ทักษิณ ออกนโยบาย ออกกฎหมาย หรือออกระเบียบเอื้อบริษัท เอื้อครอบครัว ก็จะมองเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ
จะไม่ปกติก็ต่อเมื่อเกิดการแตกคอ อย่างกรณีที่จตุพรพูดถึงเรื่องจำนำข้าว ว่า ใครก็ต้องรู้
ใครก็ต้องรู้ หรือหลายๆ เรื่องที่จตุพรพูดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น เท่ากับเป็นการตบหน้าสื่อสารมวลชนทั้งหลายทั้งปวง
ถ้าเพียงแต่สื่อมวลชนทำหน้าที่ เปิดโปงที่เลวทราม และเทิดทูนพิทักษ์ธรรม เราก็ไม่ต้องมาใช้หนี้จากการขาดทุน การทุจริตกรณีจำนำข้าว ถึง 7 แสนล้านบาท
แต่เพราะเรา (สื่อทั้งหลาย) ไม่เปิดโปงที่เลวทราม ไม่ขุดคุ้ย ไม่ทำหน้าที่แสวงหาข้อเท็จจริง เพราะสื่อทำหน้าที่เป็นขี้ข้าระบอบทักษิณเสียเอง
กรณีจำนำข้าว เพียงฤดูกาลแรก ฝ่ายค้านก็อภิปรายในสภาชี้ให้เห็นถึงหายนะที่จะเกิดขึ้น นายวิชา มหาคุณ กรรมการปราบปรามการทุจริต ก็ออกมาพูด ออกมาเตือน
ลองกลับไปดูซีครับ สื่อหลายต่อหลายสำนัก นักเขียนชื่อดังหลายคน นักวิชาการหลายตัว ออกมาสนับสนุนส่งเสริมรัฐบาล บ้างบอกว่า พอมีรัฐบาลจะช่วยคนยากคนจนหน่อยก็มีคนขวาง ไม่มีใครเห็นใจชาวไร่ชาวนาเลยหรือ
มาวันนี้ก็ยังมีสื่อโง่ ๆ นักวิชาการโง่ๆ คิดและเชื่ออย่างนี้อยู่อีก
เพราะบางคนโง่แล้วก็โง่ไปเลย
เป็นเช่นนี้จริงๆ
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี