วันศุกร์ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2568

บันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ระบุว่า โคลัมบัสค้นพบทวีปอเมริกาในปี คศ.1492 แต่แท้จริงแล้วอินเดียนแดงต่างหากที่เป็นเจ้าของแผ่นดินโดยแท้จริง โดยอาศัยอยู่บนแผ่นดินอเมริกามาหลายชั่วอายุคนแล้ว อยู่ๆ ก็มีคนแปลกหน้าผิวขาวผ่องแล่นเรือมาจอดพรืดหน้าบ้าน จะไม่เปิดประตูรับก็ไม่ได้ เพราะดูท่าไอ้หน้าขาวจะไม่ยอมจากไปง่ายๆ แน่ สุดท้ายชาวอินเดียนแดงก็จำใจต้องเปิดบ้านรับคนผิวขาว รวมทั้งเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี มิหนำซ้ำยังสอนให้รู้จักกินไก่หน้าตาอัปลักษณ์อย่างไก่งวงและสอนให้ปลูกข้าวโพดอีกด้วย
นับตั้งแต่โคลัมบัสประทับรอยเท้าเข้าไปในอเมริกา ชาวยุโรปก็หลั่งไหลเข้าไปตั้งบ้านเรือนบนแผ่นดินใหม่กันอย่างครึกครื้น โดยเฉพาะชาวอังกฤษที่เรียกว่าพวกพิลกริม บนชายฝั่งอเมริกาเหนือที่เมืองพลีมัธในรัฐแมสซาชูเซตส์ มีหินแกรนิตก้อนใหญ่สลักตัวเลข 1620 ไว้หินก้อนนี้ถูกขนานนามว่า “พลีมัธ ร็อก” และเป็นจุดที่พวกพิลกริมขึ้นบกที่ชายหาดนี้เมื่อเกือบ 400 ปีมาแล้ว หลังปี ค.ศ.1600 เป็นต้นมา สเปนเข้าไปตั้งถิ่นฐานแถวฟลอริด้าและทางตะวันตกเฉียงใต้ ส่วนฝรั่งเศสก็จับจองลงหลักปักฐานบนแผ่นดินอเมริกาแถบแม่น้ำมิสซิสซิปปีและชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก ในช่วงปี ค.ศ..1770
จากข้อมูลประวัติศาสตร์ก็คงจะเห็นว่า หากจะยกย่องชาวยุโรปที่เข้ามาปล้นแผ่นดินของอินเดียนแดงเป็นบรรพบุรุษ ก็ต้องถือว่าชาวอาณานิคมเหล่านี้ก็คือผู้อพยพเช่นเดียวกับชาวเม็กซิกันหรือชาวจีนนั่นเอง น่าแปลกใจที่ฝรั่งอั้งม้อกลับรังเกียจรังงอนผุ้อพยพสีผิวอื่นที่ไม่ได้ขาวผ่องเป็นยองใยเหมือนพวกตน
ชาวยุโรปที่เข้ามาจับจองที่ดินสร้างบ้านแปงเมืองในยุคแรกนี้ไม่ได้น่ารักน่าเห็นใจเท่าไหร่นัก ในปี คศ.1621 ชาวอังกฤษจำนวน 101 คนแล่นเรือเมล์ฟลาวเวอร์เข้าเทียบฝั่งเมืองที่อินเดียนเผ่าแวมพาน็อคอาศัยอยู่มาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย แต่ตอนนั้นทั้งเมืองกลายเป็นเมืองร้างจากการแพร่ระบาดของกาฬโรค ทำให้ฝรั่งอังกฤษที่มากับเรือเมย์ฟลาเวอร์ล้มตายไปกว่าครึ่ง หลังรอดชีวิต อินเดียนแดงจึงฉลองและแบ่งปันอาหารร่วมกับนักล่าอาณานิคมชาวอังกฤษจำนวน 52 คน ที่รอดชีวิตจากโรคระบาดในปีนั้น
คนขาวช่างอกตัญญูอย่างร้ายกาจ เพราะหลังรอดตายจากโรคระบาดมาด้วยกันไม่ทันเท่าไหร่ คนขาวก็ยึดครองแผ่นดินของอินเดียนแดงจนหมดสิ้น เผ่าไหนไม่ยอมก็ฆ่าจนเกลี้ยงเผ่า มิหนำซ้ำยังแย่งเอาทุกสิ่งทุกอย่าง จากแผ่นดินของอินเดียนแดงทุกกลุ่ม และไล่อินเดียนแดงไปอยู่ในเขตสงวน ซึ่งถือเป็นแผ่นดินที่กันดารและแห้งแล้งที่สุดในประเทศ แล้วยึดครองแผ่นดินดั้งเดิมของอินเดียนแดงอย่างไม่ละอาย
ยังไม่ทันจะก่อสร้างชาติ แต่ในยุคอาณานิคมก็มีการนำทาสจากแอฟริกามาใช้งานแล้ว มีการไล่จับและกวาดต้อนคนผิวดำจากจาไมก้าและแอฟริกามาเป็นทาสในครัวเรือน และทำงานในไร่นาเพื่อสร้างความร่ำรวยให้กับตนเอง จะว่าไปก็นับว่าหากินบนหลังคนมาตั้งแต่ยังเป็นอาณานิคมเลยก็ว่าได้
ชาวอาณานิคมส่วนใหญ่ในเวลานั้นกระจายตัวอยู่ในบริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศและรวมตัวกันเรียกว่า “สิบสามอาณานิคม” ต่อมาเกิดสงคราม 7 ปีระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส อังกฤษสู้ไปควักเนื้อไปจนในที่สุดก็หมดตูด จึงหันไปรีดภาษีแพงๆ จากชาวอาณานิคมในแผ่นดินใหม่ เหล่าพ่อค้านายทุนและชนชั้นสูงในอาณานิคมไม่พอใจถึงขั้นอยากประกาศแยกตัวซึ่งนั่นนำมาสู่สงครามประกาศอิสรภาพของอเมริกาที่ได้รับชัยชนะในวันที่ 4 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 1776 และก่อตั้งประเทศเป็นสหรัฐอเมริกา
หลังจากที่เป็นอเมริกาแล้ว ใช่ว่าการค้าทาสจะหมดลงในช่วงแรก แต่กลับมีการล่าคนผิวดำเข้ามาเป็นทาสมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ ทาสผิวดำถูกจับมาล่ามโซ่และส่งลงเรือเดินทางไปตามจุดต่างๆ จนถึงศูนย์กลางการค้าทาสเพื่อนำออกประมูลทาส เมื่อมีคนจ่ายเงินซื้อ ก็มีการประทับตราตามเนื้อตัวของทาสเหล่านั้นเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ จากนั้นก็จะมีการนำทาสไปทำงานในไร่ขนาดใหญ่ ส่วนมากไร่เหล่านี้กระจายตัวอยู่ในรัฐทางใต้
จะว่าไปแล้วทาสผิวดำจากแอฟริกาเหล่านี้เข้ามาสู่อเมริกาอย่างไม่เต็มใจนัก เพราะถูกบังคับล่าตัวมาใช้แรงงานในไร้ฝ้าย ไม่ได้อพยพเข้ามาเหมือนชาวยุโรปในยุคแรกๆ แต่กระนั้น แรงงงานทาสก็มีส่วนในการสร้างชาติด้วยเช่นกัน การใช้แรงงานทาสดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสิ้นสุดสงครามกลางเมือง และทาสก็ได้เป็นไทในที่สุด แต่กระนั้นก็ยังมีวาระแอบแฝงที่คนขาวกดขี่คนผิวดำอย่างเนียนๆ รวมถึงการเลือกปฎิบัติอีกมากมายมาจนถึงปัจจุบัน
ในส่วนของชาวยุโรปนั้นยิ่งหลั่งไหลเข้ามาสู่อเมริกาหลังยุคสงครามกลางเมือง ชาวยุโรปหนีความลำเค็ญจากบ้านเกิดมาเสี่ยงโชค ยิ่งในช่วงพัฒนาอุตสาหกรรมหนัก โดยเฉพาะโซนมิดเวสต์อย่างดีทรอยด์ที่ก่อตั้งโรงงานผลิตรถยนตร์ มีการลงประกาศในหนังสือพิมพ์เป็นภาษาต่างๆ อย่างเยอรมัน โปแลนด์ อิตาลี่ รัสเซีย ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นให้เข้ามาทำงานในอเมริกา
คนเอเซียกลุ่มแรกที่เดินทางมาอเมริกาน่าจะเป็นชาวจีน เพราะมีบันทึกว่า ชาวจีนกลุ่มแรกที่อพยพได้เดินทางถึงสหรัฐอเมริกาในช่วงปี ค.ศ. 1820 ซึ่งเป็นช่วงตื่นทองในแคลิฟอร์เนีย ในช่วงนั้นมีการโฆษณาให้ชาวจีนเดินทางมาอเมริกาโดยมีนายหน้าไปรับมาจากเมืองจีนแผ่นดินใหญ่เลยทีเดียว เมื่อชาวจีนกลุ่มแรกเดินทางมาถึงก็ทำงานเป็นกรรมกรเหมืองทอง และตั้งรกรากชุมชนจีนขึ้น ส่วนในช่วงที่สอง ผู้อพยพชาวจีนเดินทางเข้าอเมริกาในช่วงที่ทางการอเมริกาสร้างทางรถไฟจากตะวันออกมุ่งสู่ตะวันตก ชาวจีนลงหลักปักฐานบนแผ่นดินใหม่และแผ่ขยายชุมชนจีนย่านไชน่าทาวน์ไปทั่วอเมริกา
แต่ผู้อพยพที่คนอเมริกันตั้งป้อมกีดกันที่สุดก็เห็นจะเป็นเม็กซิกันนี่แหละ เพราะลักลอบเข้าประเทศมาเยอะกว่าเพื่อนจนแทบทุกเมืองต้องทำป้ายสองภาษาทั้งภาษาอังกฤษและสเปนนิชให้เม็กซิกันอ่านออก น่าแปลกที่คนอเมริกันบางกลุ่มมองไม่เห็นตัวเองจึงมีอคติใส่กลุ่มชนเชื้อชาติอื่นที่เพิ่งเข้ามาเพื่อตามหาความฝันและชีวิตที่ดีกว่า โดยลืมว่าทุกคนบนแผ่นดินนี้ล้วนคือผู้อพยพทั้งสิ้น

กำปั้นไทยไร้พ่าย! ลิ่ว 7 รุ่นต่อยซีเกมส์
เลขาวุฒิสภา แจ้ง สว. ยกเลิกประชุมวุฒิสภา 15- 16 ธ.ค.นี้ หลังยุบสภาแล้ว
ดร.จักษ์ ชม อนุทิน ตัดสินใจระดับรัฐบุรุษ ยุบสภาครั้งนี้ เผาพรรคส้มเหลือแต่ขี้เถ้า
กกต. กางแนวทาง ค่าใช้จ่าย สส. ช่วงเลือกตั้ง พรรคการเมืองหาเสียงได้ตั้งแต่วัน ยุบสภา
ปูติน ยกระดับชีวิตพลเมืองรัสเซีย อัตราความยากจนลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี