วันศุกร์ ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ออนไลน์ / แก้ผ้าลุงแซม
แก้ผ้าลุงแซม

แก้ผ้าลุงแซม

โดย...เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้
วันอังคาร ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2566, 02.00 น.
เราต่างเป็นผู้อพยพ

ดูทั้งหมด

  •  

บันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ระบุว่า โคลัมบัสค้นพบทวีปอเมริกาในปี คศ.1492 แต่แท้จริงแล้วอินเดียนแดงต่างหากที่เป็นเจ้าของแผ่นดินโดยแท้จริง โดยอาศัยอยู่บนแผ่นดินอเมริกามาหลายชั่วอายุคนแล้ว  อยู่ๆ ก็มีคนแปลกหน้าผิวขาวผ่องแล่นเรือมาจอดพรืดหน้าบ้าน  จะไม่เปิดประตูรับก็ไม่ได้ เพราะดูท่าไอ้หน้าขาวจะไม่ยอมจากไปง่ายๆ แน่ สุดท้ายชาวอินเดียนแดงก็จำใจต้องเปิดบ้านรับคนผิวขาว รวมทั้งเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี มิหนำซ้ำยังสอนให้รู้จักกินไก่หน้าตาอัปลักษณ์อย่างไก่งวงและสอนให้ปลูกข้าวโพดอีกด้วย


นับตั้งแต่โคลัมบัสประทับรอยเท้าเข้าไปในอเมริกา ชาวยุโรปก็หลั่งไหลเข้าไปตั้งบ้านเรือนบนแผ่นดินใหม่กันอย่างครึกครื้น โดยเฉพาะชาวอังกฤษที่เรียกว่าพวกพิลกริม บนชายฝั่งอเมริกาเหนือที่เมืองพลีมัธในรัฐแมสซาชูเซตส์ มีหินแกรนิตก้อนใหญ่สลักตัวเลข 1620 ไว้หินก้อนนี้ถูกขนานนามว่า “พลีมัธ ร็อก”  และเป็นจุดที่พวกพิลกริมขึ้นบกที่ชายหาดนี้เมื่อเกือบ 400 ปีมาแล้ว หลังปี ค.ศ.1600 เป็นต้นมา สเปนเข้าไปตั้งถิ่นฐานแถวฟลอริด้าและทางตะวันตกเฉียงใต้  ส่วนฝรั่งเศสก็จับจองลงหลักปักฐานบนแผ่นดินอเมริกาแถบแม่น้ำมิสซิสซิปปีและชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก ในช่วงปี  ค.ศ..1770

จากข้อมูลประวัติศาสตร์ก็คงจะเห็นว่า หากจะยกย่องชาวยุโรปที่เข้ามาปล้นแผ่นดินของอินเดียนแดงเป็นบรรพบุรุษ ก็ต้องถือว่าชาวอาณานิคมเหล่านี้ก็คือผู้อพยพเช่นเดียวกับชาวเม็กซิกันหรือชาวจีนนั่นเอง  น่าแปลกใจที่ฝรั่งอั้งม้อกลับรังเกียจรังงอนผุ้อพยพสีผิวอื่นที่ไม่ได้ขาวผ่องเป็นยองใยเหมือนพวกตน

ชาวยุโรปที่เข้ามาจับจองที่ดินสร้างบ้านแปงเมืองในยุคแรกนี้ไม่ได้น่ารักน่าเห็นใจเท่าไหร่นัก ในปี คศ.1621 ชาวอังกฤษจำนวน 101 คนแล่นเรือเมล์ฟลาวเวอร์เข้าเทียบฝั่งเมืองที่อินเดียนเผ่าแวมพาน็อคอาศัยอยู่มาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย  แต่ตอนนั้นทั้งเมืองกลายเป็นเมืองร้างจากการแพร่ระบาดของกาฬโรค ทำให้ฝรั่งอังกฤษที่มากับเรือเมย์ฟลาเวอร์ล้มตายไปกว่าครึ่ง หลังรอดชีวิต อินเดียนแดงจึงฉลองและแบ่งปันอาหารร่วมกับนักล่าอาณานิคมชาวอังกฤษจำนวน 52 คน ที่รอดชีวิตจากโรคระบาดในปีนั้น

คนขาวช่างอกตัญญูอย่างร้ายกาจ เพราะหลังรอดตายจากโรคระบาดมาด้วยกันไม่ทันเท่าไหร่ คนขาวก็ยึดครองแผ่นดินของอินเดียนแดงจนหมดสิ้น เผ่าไหนไม่ยอมก็ฆ่าจนเกลี้ยงเผ่า มิหนำซ้ำยังแย่งเอาทุกสิ่งทุกอย่าง จากแผ่นดินของอินเดียนแดงทุกกลุ่ม และไล่อินเดียนแดงไปอยู่ในเขตสงวน ซึ่งถือเป็นแผ่นดินที่กันดารและแห้งแล้งที่สุดในประเทศ แล้วยึดครองแผ่นดินดั้งเดิมของอินเดียนแดงอย่างไม่ละอาย

ยังไม่ทันจะก่อสร้างชาติ แต่ในยุคอาณานิคมก็มีการนำทาสจากแอฟริกามาใช้งานแล้ว มีการไล่จับและกวาดต้อนคนผิวดำจากจาไมก้าและแอฟริกามาเป็นทาสในครัวเรือน และทำงานในไร่นาเพื่อสร้างความร่ำรวยให้กับตนเอง จะว่าไปก็นับว่าหากินบนหลังคนมาตั้งแต่ยังเป็นอาณานิคมเลยก็ว่าได้

ชาวอาณานิคมส่วนใหญ่ในเวลานั้นกระจายตัวอยู่ในบริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศและรวมตัวกันเรียกว่า “สิบสามอาณานิคม”     ต่อมาเกิดสงคราม 7 ปีระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส อังกฤษสู้ไปควักเนื้อไปจนในที่สุดก็หมดตูด  จึงหันไปรีดภาษีแพงๆ จากชาวอาณานิคมในแผ่นดินใหม่  เหล่าพ่อค้านายทุนและชนชั้นสูงในอาณานิคมไม่พอใจถึงขั้นอยากประกาศแยกตัวซึ่งนั่นนำมาสู่‎สงครามประกาศอิสรภาพของอเมริกาที่ได้รับชัยชนะในวันที่ 4 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 1776 และก่อตั้งประเทศเป็นสหรัฐอเมริกา

หลังจากที่เป็นอเมริกาแล้ว ใช่ว่าการค้าทาสจะหมดลงในช่วงแรก แต่กลับมีการล่าคนผิวดำเข้ามาเป็นทาสมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ ทาสผิวดำถูกจับมาล่ามโซ่และส่งลงเรือเดินทางไปตามจุดต่างๆ จนถึงศูนย์กลางการค้าทาสเพื่อนำออกประมูลทาส เมื่อมีคนจ่ายเงินซื้อ ก็มีการประทับตราตามเนื้อตัวของทาสเหล่านั้นเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ จากนั้นก็จะมีการนำทาสไปทำงานในไร่ขนาดใหญ่ ส่วนมากไร่เหล่านี้กระจายตัวอยู่ในรัฐทางใต้ 

จะว่าไปแล้วทาสผิวดำจากแอฟริกาเหล่านี้เข้ามาสู่อเมริกาอย่างไม่เต็มใจนัก เพราะถูกบังคับล่าตัวมาใช้แรงงานในไร้ฝ้าย ไม่ได้อพยพเข้ามาเหมือนชาวยุโรปในยุคแรกๆ  แต่กระนั้น แรงงงานทาสก็มีส่วนในการสร้างชาติด้วยเช่นกัน  การใช้แรงงานทาสดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสิ้นสุดสงครามกลางเมือง และทาสก็ได้เป็นไทในที่สุด แต่กระนั้นก็ยังมีวาระแอบแฝงที่คนขาวกดขี่คนผิวดำอย่างเนียนๆ รวมถึงการเลือกปฎิบัติอีกมากมายมาจนถึงปัจจุบัน

ในส่วนของชาวยุโรปนั้นยิ่งหลั่งไหลเข้ามาสู่อเมริกาหลังยุคสงครามกลางเมือง  ชาวยุโรปหนีความลำเค็ญจากบ้านเกิดมาเสี่ยงโชค ยิ่งในช่วงพัฒนาอุตสาหกรรมหนัก โดยเฉพาะโซนมิดเวสต์อย่างดีทรอยด์ที่ก่อตั้งโรงงานผลิตรถยนตร์ มีการลงประกาศในหนังสือพิมพ์เป็นภาษาต่างๆ อย่างเยอรมัน โปแลนด์ อิตาลี่ รัสเซีย ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นให้เข้ามาทำงานในอเมริกา

คนเอเซียกลุ่มแรกที่เดินทางมาอเมริกาน่าจะเป็นชาวจีน เพราะมีบันทึกว่า ชาวจีนกลุ่มแรกที่อพยพได้เดินทางถึงสหรัฐอเมริกาในช่วงปี ค.ศ. 1820  ซึ่งเป็นช่วงตื่นทองในแคลิฟอร์เนีย ในช่วงนั้นมีการโฆษณาให้ชาวจีนเดินทางมาอเมริกาโดยมีนายหน้าไปรับมาจากเมืองจีนแผ่นดินใหญ่เลยทีเดียว เมื่อชาวจีนกลุ่มแรกเดินทางมาถึงก็ทำงานเป็นกรรมกรเหมืองทอง และตั้งรกรากชุมชนจีนขึ้น ส่วนในช่วงที่สอง ผู้อพยพชาวจีนเดินทางเข้าอเมริกาในช่วงที่ทางการอเมริกาสร้างทางรถไฟจากตะวันออกมุ่งสู่ตะวันตก  ชาวจีนลงหลักปักฐานบนแผ่นดินใหม่และแผ่ขยายชุมชนจีนย่านไชน่าทาวน์ไปทั่วอเมริกา

แต่ผู้อพยพที่คนอเมริกันตั้งป้อมกีดกันที่สุดก็เห็นจะเป็นเม็กซิกันนี่แหละ เพราะลักลอบเข้าประเทศมาเยอะกว่าเพื่อนจนแทบทุกเมืองต้องทำป้ายสองภาษาทั้งภาษาอังกฤษและสเปนนิชให้เม็กซิกันอ่านออก น่าแปลกที่คนอเมริกันบางกลุ่มมองไม่เห็นตัวเองจึงมีอคติใส่กลุ่มชนเชื้อชาติอื่นที่เพิ่งเข้ามาเพื่อตามหาความฝันและชีวิตที่ดีกว่า โดยลืมว่าทุกคนบนแผ่นดินนี้ล้วนคือผู้อพยพทั้งสิ้น

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
08:56 น. จวกเกรียนคีย์บอร์ด! 'จิรายุ'ซัดปล่อยข่าว'วธ.'ส่งคืนวัตถุโบราณให้เขมร
08:50 น. ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันศุกร์ 4 กรกฎาคม 2568
08:46 น. รู้ยัง!? 'เหี้ย'เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองเพาะพันธุ์ได้ แต่ไม่ใช่ทุกคน กรมอุทยานฯ แจงต้องขออนุญาต
08:31 น. ผลศึกษาพบ'ฝุ่นPM'เพิ่มความเสี่ยง'มะเร็งปอด' แม้ในคนไม่สูบบุหรี่
08:23 น. อากาศร้อน! 'โชต้า'เลือกขับรถกลางคืนก่อนเสียชีวิต
ดูทั้งหมด
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2568
'เท้ง'แย่แล้ว!! เจอขบวนรถทัวร์แห่คอมเมนต์แจกพยัญชนะไทยฉ่ำ!!
‘ทักษิณ‘ พร้อมลูกสาว ’เอม พินทองทา‘ เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก คดี ม.112
ชวนให้คิด! 'หมอพรทิพย์'โพสต์ 'นายกฯตระกูลชิน'กับระบบการเมืองไทย
ปิดตำนาน156ปี! 'กษัตริย์ชาร์ลส์'ประกาศปลดระวาง'รถไฟหลวง' สมาชิกราชวงศ์ไปใช้รถไฟปกติแทน
ดูทั้งหมด
ตายยกรัง? เจตนาเล็งเห็นผล บิดเบือนหลบเลี่ยงรัฐธรรมนูญ
ธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) ของไทย
กลัวเลือกตั้ง?
บุคคลแนวหน้า : 4 กรกฎาคม 2568
ดวงพิฆาตสองพ่อลูก‘ทักษิณ-แพทองธาร’
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

จวกเกรียนคีย์บอร์ด! 'จิรายุ'ซัดปล่อยข่าว'วธ.'ส่งคืนวัตถุโบราณให้เขมร

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันศุกร์ 4 กรกฎาคม 2568

รู้ยัง!? 'เหี้ย'เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองเพาะพันธุ์ได้ แต่ไม่ใช่ทุกคน กรมอุทยานฯ แจงต้องขออนุญาต

ผลศึกษาพบ'ฝุ่นPM'เพิ่มความเสี่ยง'มะเร็งปอด' แม้ในคนไม่สูบบุหรี่

GC ผนึกกำลัง TPBI Group ยกระดับการพัฒนานวัตกรรมพลาสติกเพื่อสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยวัสดุเพื่อโลกอนาคตอย่างยั่งยืน

เปิดตัวซิงเกิลใหม่สุดน่ารัก 'ตัว Secret' จาก Kaimoooook ไข่มุก วรัทยา ดีสมเลิศ

  • Breaking News
  • จวกเกรียนคีย์บอร์ด! \'จิรายุ\'ซัดปล่อยข่าว\'วธ.\'ส่งคืนวัตถุโบราณให้เขมร จวกเกรียนคีย์บอร์ด! 'จิรายุ'ซัดปล่อยข่าว'วธ.'ส่งคืนวัตถุโบราณให้เขมร
  • ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันศุกร์ 4 กรกฎาคม 2568 ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันศุกร์ 4 กรกฎาคม 2568
  • รู้ยัง!? \'เหี้ย\'เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองเพาะพันธุ์ได้ แต่ไม่ใช่ทุกคน กรมอุทยานฯ แจงต้องขออนุญาต รู้ยัง!? 'เหี้ย'เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองเพาะพันธุ์ได้ แต่ไม่ใช่ทุกคน กรมอุทยานฯ แจงต้องขออนุญาต
  • ผลศึกษาพบ\'ฝุ่นPM\'เพิ่มความเสี่ยง\'มะเร็งปอด\' แม้ในคนไม่สูบบุหรี่ ผลศึกษาพบ'ฝุ่นPM'เพิ่มความเสี่ยง'มะเร็งปอด' แม้ในคนไม่สูบบุหรี่
  • อากาศร้อน! \'โชต้า\'เลือกขับรถกลางคืนก่อนเสียชีวิต อากาศร้อน! 'โชต้า'เลือกขับรถกลางคืนก่อนเสียชีวิต
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ต้นสนยักษ์ร่วมสมัยกับฟาโรห์

ต้นสนยักษ์ร่วมสมัยกับฟาโรห์

1 ก.ค. 2568

ดูหนังกันไหม..มายเดียร์

ดูหนังกันไหม..มายเดียร์

24 มิ.ย. 2568

เมืองประหลาดในอเมริกา

เมืองประหลาดในอเมริกา

17 มิ.ย. 2568

ยิ่งหนาว..ยิ่งโหด

ยิ่งหนาว..ยิ่งโหด

10 มิ.ย. 2568

รับสเต๊กเนื้อคนสักจานไหมคะ..?

รับสเต๊กเนื้อคนสักจานไหมคะ..?

3 มิ.ย. 2568

อิลลูมินาติ

อิลลูมินาติ

27 พ.ค. 2568

เรื่องประหลาดของชาติหน้า

เรื่องประหลาดของชาติหน้า

20 พ.ค. 2568

กางเกงยีนส์ลีวายในกองทอง

กางเกงยีนส์ลีวายในกองทอง

13 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved