ไม่ได้โหนกระแส “พรหมลิขิต” เพราะผมยังไม่ได้ดูละคร แต่เป็นเรื่องที่ค้างคาในใจมานาน
ความที่ในรัชสมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นช่วงรุ่งเรือง ชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามา บ้านเมืองมีสีสัน ขณะเดียวกันก็มีความขัดแย้งทางการเมืองภายในหลายซับหลายซ้อน มีการบันทึกเรื่องราวต่างๆ โดยคนเชื้อชาติต่างๆที่เข้ามาในยุคนั้น อาจจะมากที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งกรุงศรีอยุธยา ทำให้เกิดนิยาย, ละคร และการวิเคราะห์มากกว่ายุคอื่น
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับสมัยพระนารายณ์ มาบ้าง จากหนังสือต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่นำข้อมูลมาจากบันทึกของพวกฝรั่งและพงศาวดารที่คนไทยเขียนกัน ส่วนจะตีไข่ใส่สีแค่ไหนไม่ทราบ เพราะผมเป็นเพียงคนอ่านทั่วไป ไม่ได้เจาะลึกเหมือนนักประวัติศาสตร์ หรือนักอ่านสายเข้มทางนี้
ผมสนใจ พระเพทราชา มานาน เพราะดูมีความลึกลับพอสมควร จากที่เคยผ่านตามาครั้งหนึ่ง หนังสือเล่มนั้น (จำชื่อไม่ได้เสียแล้ว) บอกว่า สมเด็จพระนารายณ์ ชื่อเดิมว่า ฉิม เติบโตเล่นหัวมากับเพื่อนอีก 3 คน คือ เจ้าพระยาโกษาธิบดี ชื่อว่า เหล็ก, เจ้าพระยาโกษาธิบดี คนถัดมา ชื่อว่า ปาน และ พระเพทราชา
ถ้าเป็นตามนี้ แค่ชื่อก็มึนแล้ว เพราะทุกคนมีชื่อเก่าหมด แต่ พระเพทราชา ไม่มีบอกไว้
ต่อมาอ่านเจออีก 2 แห่ง เจ้าแรกว่า พระเพทราชา เดิมชื่อ ทองคำ ส่วนอีกแห่งเป็นเหมือนนิทานเล่าต่อกันไม่รู้ที่มาที่ไปว่า พระเพทราชาเดิมชื่อ สิงห์ เป็นชาวบ้านพลูหลวง สุพรรณบุรีแง่มุมนี้ดูลอยๆ ยังไงพิกล
ครั้งหนึ่ง พี่ช้าง (ขรรค์ชัย บุนปาน) เคยชวนพี่อาจินต์ ปัญจพรรค์ ไปเที่ยวคุ้มขุนช้างที่สุพรรณบุรีเพื่อนผม วรพจน์ ประพนธ์พันธุ์ รับอาสาขับรถพาไปและชวนผมติดสอยห้อยตามไปด้วย ได้เจอพวกรุ่นใหญ่เพียบ ผมถาม น้าวา (วาณิช จรุงกิจอนันต์)ว่า พระเพทราชา ชื่อเดิมคืออะไร น้าวาณิช บอก “ไม่รู้เว้ย” สบโอกาสผมเลียบๆ เคียงๆ ถาม พี่ช้างด้วยคำถามเดียวกัน พี่ช้าง ก็บอก “เฮ้ย ไม่รู้ เอ็งรอถาม พี่จิต (สุจิตต์ วงษ์เทศ) เอาเอง” สรุปว่าวันนั้นไม่ได้คำตอบ เพราะ พี่จิตต์ ไม่ได้ไปด้วย
แฉลบออกนอกทางตามวิสัย กลับมาเข้าเรื่องต่อ
แต่ที่ว่าเติบโตมาด้วยกัน อันนี้ค่อนข้างน่าเชื่อถือเพราะมีบันทึกหลายฉบับตรงกันว่า มารดาของโกษาเหล็ก และ โกษาปาน เป็นแม่นมเอก ของสมเด็จพระนารายณ์และมารดาของ พระเพทราชา ก็เป็นแม่นมรอง
ยิ่งกว่านั้น ดูจากปีที่ สมเด็จพระนารายณ์, โกษาเหล็ก และ พระเพทราชา เกิดปีเดียวกัน (พ.ศ. 2175) และ โกษาปาน เกิดถัดมาอีกปี ก็ยิ่งน่าเชื่อถือ เพราะมารดาของทั้งสามยังมีน้ำนมอยู่ ผู้หญิงไม่มีลูกจะมีน้ำนมมาเลี้ยงเด็กอื่นได้ยังไง และเด็กคนนั้นก็ต้องอยู่ในวัยเดียวหรือใกล้เคียงกับลูกตัวเองที่ยังไม่หย่านม
เสียดายที่ผมไม่ใช่คนมีจินตนาการกว้างไกลแบบนักเขียนนิยาย หรือนักทำหนังทำละคร ผมว่าความสัมพันธ์ของเพื่อน 4 คนนี้ ตั้งแต่เด็กจนเติบโตขึ้นมามีอำนาจยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องที่น่าเขียน น่าทำมาก เผลอๆ จะคลาสสิกไม่แพ้ The Godfather หรือ Goodfellas ทำเป็นเล่นไป
รูปร่างหน้าตาของ พระเพทราชา เป็นอย่างไร นี่ก็ยังไม่ช่วยคลายความลึกลับสักเท่าไหร่ เพราะรูปที่ฝรั่งเขียน ทั้ง โกษาเหล็ก, โกษาปาน และ พระเพทราชาหรือกระทั่ง สมเด็จพระนารายณ์ เอง ก็ดูคล้ายๆ กันไปหมด ราวกับว่า คนเขียนรูปเอาชาวบ้านสักคนแถวนั้นมาเป็นแบบ
แต่อย่างหนึ่งที่หนังสือหลายเล่ม (ที่เอาข้อมูลจากบันทึก, จดหมายเหตุ และพงสาวดาร) ส่วนใหญ่เขียนตรงกันคือ พระเพทราชา เป็นคนที่มีวาทศิลป์ เป็นนักการเมืองที่มีชั้นเชิง หรือสมัยนี้อาจจะเรียกว่า “พูดหวานขานเพราะ”
ก่อนหน้าละคร “พรหมลิขิต” จะขึ้นจอไม่นาน ผมบังเอิญไปเจอหนังสือเก่าเล่มหนึ่งชื่อ The Greek Favourite of the King of Siam เขียนโดย หลวงสิทธิสยามการ ตอนหนึ่งเขียนถึงบุคลิกของ พระเพทราชา ประมาณว่า...
พระเพทราชา เป็นคนตัวเล็กและผอม ค่อนข้างรูปหล่อ มีพลัง มั่นใจในตัวเอง แต่ออกจะใจร้อน เป็นผู้ชายที่ดูแข็งแรงเหมือนอายุครึ่งเดียวของวัยจริง ซึ่งตอนนั้น หนังสือบอกว่า พระเพทราชา อายุ 55 ปี นอกจากนี้ ยังเป็นนักสนทนาที่ดี กิริยามารยาทสุภาพนุ่มนวล และมีเสน่ห์โน้มน้าวใจคน
เจ้าของเดิมของหนังสือเล่มนี้ก็เอาปากกาขีดเส้นใต้เน้นช่วงนี้ไว้ด้วย แสดงว่า กระทั่งแค่ตัวหนังสือ พระเพทราชา ยังเป็นคนที่น่าสนใจ และน่าสนใจยิ่งขึ้นเมื่อก้าวสู่บัลลังก์พระมหากษัตริย์ แต่ความลึกลับก็ยังคงอยู่ เพราะนอกจากเรื่องราวเหล่านี้แล้ว เราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ พระเพทราชา เลย
เขียนถึงตรงนี้ก็รู้สึกจะยาวไปหน่อย แต่นักประวัติศาสตร์หรือผู้ทรงภูมิสำนักต่างๆ ขอความกรุณาไม่ต้องมาถกประเด็นอะไรกับผม เพราะผมเองก็ไม่รู้อะไรมากกว่านี้เหมือนกัน ถกกันให้สะเด็ดน้ำและเขียนตรงกันเสียทีก็พอ
ทิวา สาระจูฑะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี